https://he03.tci-thaijo.org/index.php/AJHE/issue/feed วารสารวิชาการสุขภาพและสิ่งแวดล้อม 2024-12-27T13:46:07+07:00 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศศิวรรณ ทัศนเอี่ยม sasiwan@snru.ac.th Open Journal Systems <p class="p1"><strong>วารสารวิชาการสุขภาพและสิ่งแวดล้อม <br />Academic Journal of Health and Environment <br /></strong>ISSN : 2985-0738 (Online)<br />Journal Abbreviation : Acad. J. Health Environ.<br /><strong><br /></strong><strong>Focus and Scope <br /></strong>เพื่อเผยแพร่บทความวิจัย (Research Paper) และบทความวิชาการ (Academic Paper) ที่มีคุณภาพของคณาจารย์ นักวิชาการ นิสิตนักศึกษา บุคลากรทางการแพทย์ และผู้สนใจในศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ได้แก่ การส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การบริหารสาธารณสุข โภชนาการและอาหาร การพยาบาล การสาธารณสุข อนามัยสิ่งแวดล้อม สุขภาพครอบครัว สุขภาพชุมชน ระบาดวิทยา อาชีวอนามัยและความปลอดภัย วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีและนวัตกรรมสิ่งแวดล้อม วิศวกรรมสิ่งแวดล้อม วิศวกรรมสุขาภิบาล การจัดการสิ่งแวดล้อม การจัดการและการควบคุมมลพิษ และสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและสิ่งแวดล้อม <br /><br /></p> <p class="p2"><strong>การพิจารณาบทความ<br /></strong>ผู้ประเมินจำนวน 3 ท่าน ต่อหนึ่งบทความ รูปแบบการพิจารณาบทความ เป็นแบบ “Double blind” </p> <p class="p1"><strong>กำหนดออกวารสาร ปีละ 2 ฉบับ<br /></strong>ฉบับที่ 1 เดือน<span class="s1">มกราคม – มิถุนายน<br /></span>ฉบับที่ 2 เดือน<span class="s1">กรกฎาคม – ธันวาคม</span><span class="s1"><br /><br /><strong>Publication fee: </strong>NO Article Submission Charges &amp; NO Article Processing Charges (APC)<br /><strong>Free access:</strong> Immediate<br /></span></p> https://he03.tci-thaijo.org/index.php/AJHE/article/view/3171 ความรอบรู้สุขภาพด้านการใช้กัญชาของประชาชน อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร 2024-09-17T10:29:09+07:00 ธนเมศวร์ แท่นคำ thanamet.t@snru.ac.th ปวีณา จารย์ศรีเพ็ง thanamet.t@snru.ac.th พรรณบุปผา หลาบโพธิ์ thanamet.t@snru.ac.th ทัศพร วงศ์ละคร thanamet.t@snru.ac.th พิชชาพัชร บุญเฮ้า thanamet.t@snru.ac.th สุวิมล แก้วไพศาล thanamet.t@snru.ac.th กนกพิชญ์ ศรีนอก thanamet.t@snru.ac.th <p>การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยสำรวจแบบภาคตัดขวาง มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความรอบรู้สุขภาพ ด้านการใช้กัญชาของประชาชน อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร กลุ่มตัวอย่างจำนวน 397 คน เลือกโดยวิธีการสุ่มแบบหลายขั้นตอน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน</p> <p> ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีระดับความรอบรู้สุขภาพด้านการใช้กัญชาอยู่ในระดับปานกลาง ร้อยละ 61.2 รายด้านพบว่า ด้านความเข้าใจ ร้อยละ 54.7 ด้านการตัดสินใจ ร้อยละ 53.9 ด้านทักษะการสื่อสารข้อมูล ร้อยละ 52.1 ด้านการจัดการตนเอง ร้อยละ 51.1 ด้านการเข้าถึงข้อมูล ร้อยละ 49.4 และด้านการรู้เท่าทันสื่อในการใช้กัญชาของประชาชน 47.4 ข้อเสนอแนะผู้ให้บริการด้านการแพทย์ และผู้เชี่ยวชาญควรให้ความรู้ผู้ป่วยเกี่ยวกับการใช้กัญชาอย่างถูกต้องในการดูแลสุขภาพเบื้องต้น การวิจัยในอนาคตควรมีการสัมภาษณ์เชิงลึกเกี่ยวกับการใช้กัญชา</p> 2024-12-31T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 วารสารวิชาการสุขภาพและสิ่งแวดล้อม https://he03.tci-thaijo.org/index.php/AJHE/article/view/2375 ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของประชาชนในตำบลศรีสงคราม อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม 2024-03-22T10:30:51+07:00 เซี่ยมหงส์ พรหมประกาย siamhong551@gmail.com จิราภรณ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา siamhong551@gmail.com <p> การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงสำรวจแบบภาคตัดขวาง (Cross-sectional Survey Research) ระหว่างเดือน กันยายน ถึง ธันวาคม พ.ศ. 2566 มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของประชาชนในตำบลศรีสงคราม อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 364 คน ใช้วิธีการสุ่มอย่างง่าย เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา สถิติสหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน และไคสแควร์</p> <p> ผลการวิจัย พบว่า ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ร้อยละ 68.10 อายุน้อยกว่า 30 ปี ร้อยละ 33.20 ครอบครัวไม่มีบุคคลกลุ่มเปราะบางที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ร้อยละ 72.00 มีพฤติกรรมการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในระดับสูง ร้อยละ 53.80 การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยการรับรู้ด้านสุขภาพกับพฤติกรรมการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) พบว่า ระดับความสัมพันธ์ค่อนข้างสูง ได้แก่ การรับรู้ความรุนแรงของโรคติดเชื้อ COVID-19 (r=0.79) การรับรู้ประโยชน์ของการป้องกันโรคติดเชื้อ COVID-19 (r=0.65) ระดับความสัมพันธ์ปานกลางการรับรู้อุปสรรคของการป้องกันโรคติดเชื้อ COVID-19 (r=0.48) การรับรู้โอกาสเสี่ยงของการเป็นโรคติดเชื้อ COVID-19 (r=0.44) การรับรู้สิ่งชักนำ/สิ่งกระตุ้นให้เกิดการปฏิบัติ (r=0.43) การรับรู้ต่อภาวะคุกคามของโรคติดเชื้อ COVID-19 (r=0.40) ที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 (p&lt;0.001)</p> 2024-12-27T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 วารสารวิชาการสุขภาพและสิ่งแวดล้อม https://he03.tci-thaijo.org/index.php/AJHE/article/view/3430 การประเมินผลการบริบาลเภสัชกรรมต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ในโรงพยาบาลอากาศอำนวย 2024-10-28T13:37:56+07:00 ประริเนตร เดชวรวาทิน prarinet82558@gmail.com พุทธิพงศ์ อารีรัตน์ Prarinet82558@gmail.com พีระศักดิ์ คำสงค์ Prarinet82558@gmail.com <p> การวิจัยนี้เป็นวิจัยกึ่งทดลองมีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินประสิทธิผลของการบริบาลเภสัชกรรมในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ในโรงพยาบาลอากาศอำนวย โดยใช้ค่าตัวชี้วัด HbA1c เป็นตัวชี้วัดหลักในการประเมินการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และผลลัพธ์ทางคลินิก ได้แก่ ความดันโลหิต ระดับไขมันในเลือด และการทำงานของไต กลุ่มตัวอย่างคัดเลือกจากคลินิกผู้ป่วยนอกเป็นผู้ที่มีระดับ HbA1c มากกว่า 8 mg% ต่อเนื่องเป็นเวลา 2 ครั้ง ภายใน 1 ปี วิธีดำเนินการวิจัยโดยการเปรียบเทียบผลลัพธ์ทางคลินิกก่อนและหลังการให้บริการบริบาลเภสัชกรรม โดยเภสัชกรมีหน้าที่ให้ความรู้เรื่องโรค ความรู้เรื่องยา ให้คำปรึกษาเรื่องยา ประเมินปัญหาเกี่ยวกับยาของผู้ป่วย และแนะนำการปฏิบัติตัวต่อตัวโรคเบาหวานชนิดที่ 2 โดยมีการบันทึกผลเลือด ความดันโลหิต และค่าการทำงานของไต ติดตามผลเป็นเวลา 6 เดือน เริ่มตั้งแต่มกราคม ถึง มิถุนายน พ.ศ. 2567 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และเปรียบเทียบความแตกต่างโดยสถิติ paired t-test และ independent t-test</p> <p> ผลการวิจัยพบว่า ผู้ป่วยที่ได้รับการบริบาลเภสัชกรรมสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้มากกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p&lt;0.05) จากการศึกษานี้พบว่าการให้บริบาลเภสัชกรรมมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มประสิทธิผลทางคลินิกและส่งเสริมการดูแลตนเองของผู้ป่วยเบาหวาน</p> 2024-12-27T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 วารสารวิชาการสุขภาพและสิ่งแวดล้อม