https://he03.tci-thaijo.org/index.php/CUT_Nursejournal/issue/feed
วารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยคริสเตียน
2024-11-26T00:00:00+07:00
Assistant Professor Dr. Sakul Changmai
nursejournal@christian.ac.th
Open Journal Systems
https://he03.tci-thaijo.org/index.php/CUT_Nursejournal/article/view/3389
การประเมินและการบำบัดช่วยเหลือผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าเพื่อป้องกันการฆ่าตัวตาย
2024-10-25T15:36:25+07:00
เบญจวรรณ สามสาลี
benjawansam@yahoo.com
บุญญภักดิ์ เห่งนาเลน
bunyaphakheng@gmail.com
ดร.ราคาล ซารา เจน ลูบาตัน
racalsarahjane@gmail.com
<p>ภาวะซึมเศร้าเป็นความผิดปกติทางอารมณ์ที่มีลักษณะของอารมณ์เศร้า หดหู่ ความรู้สึก ท้อแท้ สิ้นหวัง รู้สึกตนเองไร้ค่า ตำหนิตนเอง มีความคิดทางลบต่อตนเองและผู้อื่น อาจมีอาการทางกายร่วมด้วย เช่น เบื่ออาหาร น้ำหนักลด นอนไม่หลับหรือหลับมากเกินปกติ สมาธิลดลง ซึ่งอาการเหล่านี้มีผลกระทบต่อพฤติกรรมการใช้ชีวิต สนใจตนเองและสิ่งแวดล้อมลดลง ไม่สามารถทำงานหรือเรียนหนังสือ หรือปฏิบัติกิจวัตรประจำวันได้ สาเหตุของการเกิดภาวะนี้มาจากหลายปัจจัย ภาวะซึมเศร้ามีตั้งแต่ระดับเล็กน้อย ถึงรุนแรง หากมีอาการต่อเนื่องติดต่อกันนานเกิน 2 สัปดาห์ ควรได้รับการช่วยเหลือและบำบัดรักษา จากทีมสุขภาพ เพื่อป้องกันการเกิดอันตรายที่รุนแรงคือการฆ่าตัวตาย การประเมินและการบำบัดช่วยเหลือผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากการประเมินจะทำให้ทราบว่ามีภาวะซึมเศร้าอยู่ในระดับใดควรได้รับการบำบัดแบบใด การบำบัดมีทั้งบำบัดทางชีวภาพและบำบัดทางจิตสังคม ซึ่งช่วยลดความรุนแรงที่นำไปสู่ภาวะฆ่าตัวตายได้</p>
2024-12-18T00:00:00+07:00
Copyright (c) 2024 วารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยคริสเตียน
https://he03.tci-thaijo.org/index.php/CUT_Nursejournal/article/view/3472
บทบาทของพยาบาลในการป้องกันภาวะสมองเสื่อมสำหรับผู้สูงอายุ ที่มีภาวะการรู้คิดบกพร่องเล็กน้อย
2024-10-25T12:43:29+07:00
นฤมล ศิริมี
narumonsirime@gmail.com
วาริศา เพชรธีรานนท์
warisap@christian.ac.th
<p>ภาวะการรู้คิดบกพร่องเล็กน้อย (Mild Cognitive Impairment: MCI) เป็นภาวะที่เกิดขึ้นในผู้สูงอายุซึ่งมีการเสื่อมถอยของความสามารถด้านความคิดและการตัดสินใจ แต่ยังไม่รุนแรงถึงขั้นส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของผู้ป่วย โดยภาวะการรู้คิดบกพร่องเล็กน้อย เป็นระยะหนึ่งในกระบวนการเสื่อมถอยของสมองหากไม่ได้รับการดูแลและป้องกันอย่างเหมาะสมสามารถนำไปสู่ภาวะสมองเสื่อม (Dementia)ได้ บทบาทของพยาบาลจึงเป็นหัวใจสำคัญในการป้องกันการเกิดภาวะสมองเสื่อมในผู้สูงอายุที่มีภาวะการรู้คิดบกพร่องเล็กน้อย โดยมีหน้าที่ในการประเมินอาการที่แสดงถึงการเสื่อมถอยของการรู้คิด การให้ความรู้แก่ผู้สูงอายุและผู้ดูแลในเรื่องการดูแลสุขภาพสมอง การส่งเสริมกิจกรรมที่กระตุ้นการทำงานของสมอง รวมถึงการติดตามการดำเนินชีวิตและความเปลี่ยนแปลงของอาการทางสมองเพื่อการดูแลอย่างต่อเนื่อง บทความนี้นำเสนอถึงรายละเอียดเกี่ยวกับความรู้เรื่องภาวะการรู้คิดบกพร่องเล็กน้อย ชนิด สาเหตุและอาการ การส่งเสริม และการป้องกัน โดยเน้นบทบาทของพยาบาลในการจัดการดูแลเชิงป้องกันเพื่อชะลอหรือหยุดยั้งการเสื่อมถอยของสมอง และส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้สูงอายุ</p>
2024-12-18T00:00:00+07:00
Copyright (c) 2024 วารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยคริสเตียน
https://he03.tci-thaijo.org/index.php/CUT_Nursejournal/article/view/2894
การตีตราและการรับรู้การตีตราของนักศึกษาพยาบาลต่อปัญหาสุขภาพจิต: กรณีศึกษาในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย
2024-07-20T16:31:28+07:00
ศราวุธ สงนอก
64103301128@knc.ac.th
นพรัตน์ สมทางดี
64103301049@knc.ac.th
พิมพ์นารา อิสริยเรืองเดช
64103301091@knc.ac.th
รัชดาพร พงษ์พิทักษ์
64103301108@knc.ac.th
รัญชนา จุลลัษเฐียร
64103301109@knc.ac.th
รัตนาวดี ชัชวาลปรีชา
64103301111@knc.ac.th
วรัญญา ขวัญทอง
64103301116@knc.ac.th
สุชาดา สุนารักษ์
64103301145@knc.ac.th
สุหทัย โตสังวาลย์
suhathai@knc.ac.th
<p><strong>วัตถุประสงค์การวิจัย</strong><strong>:</strong> เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลกับการตีตราและการรับรู้การตีตราเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิตของนักศึกษาพยาบาล</p> <p><strong>รูปแบบการวิจัย</strong><strong>: </strong>การวิจัยเชิงพรรณนาแบบหาความสัมพันธ์</p> <p><strong>วิธีดำเนินการวิจัย</strong><strong>:</strong> กลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษาพยาบาล จำนวน 410 คน สุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้นภูมิ เก็บข้อมูล โดยใช้แบบวัดการตีตราและการรับรู้การตีตราเกี่ยวกับทัศนคติที่มีต่อปัญหาสุขภาพจิต วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา สถิติการวิเคราะห์ความแปรปรวน สถิติทดสอบค่าที สถิติสหสัมพันธ์พอยท์ไบซีเรียล และสถิติสหสัมพันธ์ของเพียร์สัน</p> <p><strong>ผลการวิจัย</strong><strong>:</strong> นักศึกษาพยาบาล มีระดับการตีตราและการรับรู้การตีตราต่อปัญหาสุขภาพจิตอยู่ในระดับปานกลาง (M=9.89, S.D.=2.34) ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติของคะแนนการตีตราและการรับรู้การตีตราระหว่าง นักศึกษาพยาบาลในแต่ละชั้นปี (F=.48, p=.690) ปัจจัยส่วนบุคคล เช่น เพศ (r<sub>pb</sub>= -.171, p=.01) และการเจ็บป่วยด้วยโรคทางจิตเวชในปัจจุบัน (r<sub>pb</sub>=.113, p=.022) มีความสัมพันธ์กับการตีตราและการรับรู้การตีตราต่อปัญหาสุขภาพจิตโดยภาพรวม</p> <p><strong>สรุปและข้อเสนอแนะ</strong><strong>:</strong> สถาบันการศึกษาพยาบาลควรเพิ่มหัวข้อเกี่ยวกับสุขภาพจิตในหลักสูตรพยาบาลทุกระดับชั้น เพื่อเพิ่มความตระหนัก และลดการตีตราและการรับรู้การตีตราเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิตของนักศึกษาพยาบาล</p>
2024-11-26T00:00:00+07:00
Copyright (c) 2024 วารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยคริสเตียน
https://he03.tci-thaijo.org/index.php/CUT_Nursejournal/article/view/3127
การเตรียมความพร้อมและปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่วัยสูงอายุของบุคลากรมหาวิทยาลัยแม่โจ้
2024-08-19T13:41:51+07:00
สุทธิลักษณ์ จันทะวัง
sutthilak15@gmail.com
ดลนภา ไชยสมบัติ
Donnapah@hotmail.com
<p><strong>วัตถุประสงค์การวิจัย:</strong> เพื่อศึกษาการเตรียมความพร้อมและปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่วัยสูงอายุของบุคลากรมหาวิทยาลัยแม่โจ้</p> <p><strong>รูปแบบการวิจัย: </strong>วิจัยเชิงพรรณนา</p> <p><strong>วิธีดำเนินการวิจัย: </strong>กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ บุคลากรมหาวิทยาลัยแม่โจ้ อายุ 50-59 ปี จำนวน 210 ราย คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างโดยการสุ่มอย่างง่าย เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามข้อมูลทั่วไป และแบบสอบถามการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพรรณนา วิเคราะห์ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ โดยใช้สถิติ Chi-square</p> <p><strong>ผลการวิจัย: </strong>: การเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่วัยสูงอายุของบุคลากรมหาวิทยาลัยแม่โจ้อยู่ในระดับสูง (M=111.23, SD=16.35) โดยเฉพาะด้านร่างกายและจิตใจ ด้านที่อยู่อาศัย และด้านสังคม มีการเตรียมความพร้อมอยู่ในระดับสูง ส่วนด้านเศรษฐกิจ อยู่ในระดับปานกลาง ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่วัยสูงอายุของบุคลากรมหาวิทยาลัยแม่โจ้ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ได้แก่ อาชีพ ระดับการศึกษา รายได้ การตรวจร่างกายประจำปี และการเป็นสมาชิกกลุ่ม/ชมรม</p> <p><strong>สรุปและข้อเสนอแนะ:</strong> มหาวิทยาลัยแม่โจ้ควรการส่งเสริมบุคลากรให้มีการเตรียมตัวเพื่อเข้าสู่วัยสูงอายุครอบคลุมทั้ง 4 ด้าน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น เพื่อส่งเสริมให้บุคลากรเข้าสู่วัยสูงอายุอย่างมีคุณภาพ</p>
2024-12-13T00:00:00+07:00
Copyright (c) 2024 วารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยคริสเตียน