วารสารสุขภาพและอาหารเชิงสร้างสรรค์ https://he03.tci-thaijo.org/index.php/JHFC <p><strong>วารสารสุขภาพและอาหารเชิงสร้างสรรค์ </strong></p> <p><strong>ISSN 2985-1092 (Online) </strong></p> <p>วารสารสุขภาพและอาหารเชิงสร้างสรรค์เป็นวารสารวิชาการด้านการพยาบาลและสุขภาพทุกสาขา ระบบบริการสุขภาพ การจัดการข้อมูลสุขภาพ อาหารและบริการ เทคโนโลยีชีวภาพทางการแพทย์และอาหาร วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร โภชนาการนวัตกรรมด้านสุขภาพและอาหาร และสาขาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยจะเริ่มดำเนินการตีพิมพ์เผยแพร่ฉบับแรก ในปี พ.ศ. 2566 </p> <p> - ประเภทบทความที่เปิดรับ ได้แก่ บทความวิจัย บทความวิชาการ </p> <p> - ภาษาของบทความ ได้แก่ ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ</p> <p><strong> - </strong>กำหนดเผยแพร่<strong> </strong>ปีละ 2 ฉบับ ฉบับที่ 1 เดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายน และฉบับที่ 2 เดือนกรกฎาคมถึงเดือนธันวาคม</p> <p> </p> th-TH <p>“ข้าพเจ้าและผู้เขียนร่วม (ถ้ามี) ขอรับรองว่า บทความที่เสนอมานี้ยังไม่เคยได้รับการตีพิมพ์และไม่ได้อยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณาลงตีพิมพ์ในวารสารหรือแหล่งเผยแพร่อื่นใด ข้าพเจ้าและผู้เขียนร่วมยอมรับหลักเกณฑ์การพิจารณาต้นฉบับ ทั้งยินยอมให้กองบรรณาธิการมีสิทธิ์พิจารณาและตรวจแก้ต้นฉบับได้ตามที่เห็นสมควร พร้อมนี้ขอมอบลิขสิทธิ์บทความที่ได้รับการตีพิมพ์ให้แก่สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์หากมีการฟ้องร้องเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์เกี่ยวกับภาพ กราฟ ข้อความส่วนใดส่วนหนึ่งและ/หรือข้อคิดเห็นที่ปรากฏในบทความข้าพเจ้าและผู้เขียนร่วมยินยอมรับผิดชอบแต่เพียงฝ่ายเดียว”</p> jhfc@pim.ac.th (Janpen Chantha-apichai) janpencha@pim.ac.th (Janpen Chantha-apichai) Mon, 30 Jun 2025 14:48:14 +0700 OJS 3.3.0.8 http://blogs.law.harvard.edu/tech/rss 60 การพัฒนาแยมกล้วยเสาวรสสูตรลดนํ้าตาลด้วยการใช้หญ้าหวานทดแทนเพื่อเป็นทางเลือกด้านสุขภาพ https://he03.tci-thaijo.org/index.php/JHFC/article/view/4311 <p><span class="fontstyle0">การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาแยมกล้วยเสาวรสสูตรลดนํ้าตาลโดยใช้หญ้าหวานเป็นสารให้ความหวานทดแทน เพื่อใช้กล้วยสุกซึ่งเป็นวัตถุดิบที่มักเหลือใช้ในตลาดหรือมีอายุการเก็บรักษาสั้น ช่วยลดปัญหาการสูญเสียทางอาหารและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิตทางการเกษตร งานวิจัยแบ่งการทดลองออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ การศึกษาสัดส่วนของกล้วยและเสาวรส และการศึกษาระดับการแทนที่นํ้าตาลด้วยหญ้าหวานในระดับร้อยละ 0, 50 และ 100 จากนั้นนํามาประเมินลักษณะทางประสาทสัมผัสโดยผู้บริโภคจํานวน 50 คน ผลการศึกษาพบว่าสูตร F2 (กล้วย 150 กรัม : เสาวรส 35 กรัม) เป็นสูตรที่เหมาะสมที่สุดจากการทดสอบการยอมรับทางประสาทสัมผัส จากนั้นนําไปใช้ในการศึกษาการแทนที่นํ้าตาล โดยเปรียบเทียบ 3 สูตร ได้แก่ S1 (สูตรควบคุม) S2 (แทนที่นํ้าตาล ร้อยละ 50) และ S3 (แทนที่นํ้าตาล ร้อยละ 100) ผลการประเมินลักษณะทางประสาทสัมผัสโดยผู้บริโภคจํานวน 50 คน พบว่าสูตร S2 ได้รับคะแนนความชอบโดยรวมสูงสุด (7.30 ± 1.80) แตกต่างจากสูตรควบคุม (6.60 ± 1.75) และสูตร S3 (3.50 ± 1.90) อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ (p ≤ 0.05) โดยสูตร S3 ได้รับคะแนนรสหวานตํ่าสุด (3.60 ± 1.80) และมีข้อเสนอแนะถึงรสขมปลายลิ้นจากหญ้าหวาน จากการวิเคราะห์ความพอดี พบว่าในสูตร S3 รสหวานมีค่าขนาดและทิศทางของความแตกต่างระหว่างตัวอย่าง +25.64 (ควรลดลง) ขณะที่ความข้นหนืดและการกระจายตัวมีค่า -29.35 และ -34.38 (ควรเพิ่มขึ้น) ผลการศึกษานี้แสดงให้เห็นถึงแนวทางการพัฒนาแยมเพื่อสุขภาพที่ลดนํ้าตาลและลดการสูญเสียทางอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ</span> </p> วนัสนันท์ จันสถาพร, โยษิตา ชายทวีป, ชลธิชา ดาวเรือง, ภัทรวดี สระหงษ์ทอง, สมยศ รักษ์แม่ละเมา, ศนิ จิระสถิตย์ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสุขภาพและอาหารเชิงสร้างสรรค์ https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://he03.tci-thaijo.org/index.php/JHFC/article/view/4311 Mon, 30 Jun 2025 00:00:00 +0700 การพัฒนาผลิตภัณฑ์คุกกี้เนยสดเสริมใบบัวบกโดยการทดแทนแป้งสาลีบางส่วนด้วยแป้งข้าวกล้องหอมมะลิและกากถั่วเหลือง https://he03.tci-thaijo.org/index.php/JHFC/article/view/4309 <p>งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์คุกกี้เนยสดเสริมใบบัวบกโดยการทดแทนแป้งสาลีบางส่วนด้วยแป้งข้าวกล้องหอมมะลิและกากถั่วเหลือง จำนวน 3 สูตร โดยมีอัตราส่วนของแป้งคุกกี้ดังนี้ แป้งสาลี : แป้งข้าวกล้องหอมมะลิ : กากถั่วเหลือง ที่ระดับ 4:1:3, 3:3:2 และ 2:5:1 ตามลำดับ โดยทำการประเมินคุณภาพทางประสาทสัมผัสด้านความชอบ (9-Point Hedonic Scale) ด้านความพอดี (Just-AboutRight-3-Scales) และด้านการยอมรับของผลิตภัณฑ์ โดยกลุ่มผู้ที่มีอายุระหว่าง 18 ถึง 40 ปี จำนวน 50 คน จากการศึกษาพบว่า คุกกี้สูตรที่ 1 (4:1:3) และสูตรที่ 2 (3:3:2) มีค่าคะแนนความชอบเฉลี่ยโดยรวมมากกว่า 7 ผลด้านความพอดีของสูตรที่ 1 มีทิศทางการปรับกลิ่นถั่วเหลืองและรสเค็มลดลง ในขณะที่สูตรที่ 2 พอดีแล้ว ไม่ต้องปรับปรุงคุณลักษณะใด ๆ ด้านการยอมรับ ผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 50 คน ยอมรับผลิตภัณฑ์คุกกี้ทั้ง 2 สูตรที่ร้อยละ 100 ในขณะที่สูตรที่ 3 (2:5:1) ได้รับคะแนนความชอบโดยรวมเฉลี่ยอยู่ที่ 6.50 ± 1.55 แปลได้ว่า ผู้ทดสอบชื่นชอบเล็กน้อย ต้องปรับปรุงคุณลักษณะด้านความกรอบ ความร่วน รสหวาน และรสเค็มเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นสูตรที่เหมาะสมที่สุดในการนำไปพัฒนาต่อยอดถัดไปคือ สูตรที่ 2 ที่มีอัตราส่วนของแป้งสาลี แป้งข้าวกล้องหอมมะลิ และกากถั่วเหลืองที่ระดับ 3:3:2</p> ศศิมาภรณ์ สามารถ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสุขภาพและอาหารเชิงสร้างสรรค์ https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://he03.tci-thaijo.org/index.php/JHFC/article/view/4309 Mon, 30 Jun 2025 00:00:00 +0700 ผลของแอปพลิเคชันบนมือถือต่อความรู้เรื่องความเสี่ยงและอาการเตือนของโรคหลอดเลือดสมองในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านต้นธงชัย จังหวัดลำปาง https://he03.tci-thaijo.org/index.php/JHFC/article/view/3833 <p>การวิจัยกึ่งทดลองมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของแอปพลิเคชันบนมือถือต่อความรู้เรื่องความเสี่ยงและอาการเตือนของโรคหลอดเลือดสมอง กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง ที่มารับบริการที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านต้นธงชัย จังหวัดลำปาง จำานวน 48 คน แบ่งเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม กลุ่มละ 24 คน กลุ่มทดลองได้รับการให้ความรู้เรื่องความเสี่ยงและอาการเตือนของโรคหลอดเลือดสมองผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ เครื่องมือวิจัยประกอบด้วยแอปพลิเคชันบนมือถือแบบบันทึกข้อมูลทั่วไป แบบบันทึกข้อมูลสุขภาพ แบบทดสอบความรู้เรื่องความเสี่ยงและอาการเตือนของโรคหลอดเลือดสมอง ที่มีค่าดัชนีความตรงเชิงเนื้อหาทั้งฉบับเท่ากับ 0.87 และมีค่าความเชื่อมั่นคูเดอร์-ริชาดสัน (KR-20) เท่ากับ 0.79 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติพรรณนาและ Independent t-test</p> <p>ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยความรู้เรื่องความเสี่ยงและอาการเตือนของโรคหลอดเลือดสมอง มากกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (t = 5.13, p = .000) แสดงให้เห็นว่า แอปพลิเคชันบนมือถือที่พัฒนาภายใต้กรอบแนวคิดการสื่อสารสุขภาพ ช่วยส่งเสริมให้ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดสมองสามารถเข้าถึงข้อมูลด้านสุขภาพได้อย่างสะดวก และสามารถเฝ้าระวังสุขภาพตนเองได้อย่างเหมาะสม จึงควรสนับสนุนให้นำโปรแกรมแอปพลิเคชันบนมือถือไปใช้ในการป้องกันและลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมองต่อไป</p> ธรรมธิดา กิตติถิระพงษ์, ภัทรพล ปวงแก้ว, ทวีวัฒน์ มณีจักร์, เกสร ศรีสวย, วาสนา อูปป้อ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสุขภาพและอาหารเชิงสร้างสรรค์ https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://he03.tci-thaijo.org/index.php/JHFC/article/view/3833 Mon, 30 Jun 2025 00:00:00 +0700 แนวทางการพัฒนาอาหารสุขภาพโดยใช้เทคนิคการลดโซเดียมและนํ้าตาลแบบ Clean Label https://he03.tci-thaijo.org/index.php/JHFC/article/view/4200 <p>ปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสนใจกับอาหารที่ดีต่อสุขภาพและปลอดภัย โดยเฉพาะอาหารที่มีการลดโซเดียมและนํ้าตาลซึ่งเป็นปัจจัยสําคัญต่อการเกิดโรคเรื้อรัง เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน และโรคหัวใจ แนวคิดแบบ Clean Label ซึ่งหมายถึงการใช้ส่วนประกอบธรรมชาติ ไม่ใช้สารเคมีหรือสารสังเคราะห์ เป็นแนวทางหนึ่งในการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค บทความนี้เป็นบทความวิชาการแบบปริทัศน์ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการทบทวนวรรณกรรมเกี่ยวกับการพัฒนาอาหารสุขภาพ โดยใช้เทคนิคการลดโซเดียมและนํ้าตาลอย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้แนวคิด Clean Label ที่อาศัยกระบวนการวิทยาศาสตร์อาหารและการทดสอบทางประสาทสัมผัส เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่คงคุณภาพและรสชาติไว้ โดยมีการใช้สารทดแทนจากธรรมชาติ เช่น เกลือโพแทสเซียมสําหรับทดแทนโซเดียม และหญ้าหวานสําหรับทดแทนนํ้าตาล ซึ่งสารเหล่านี้มีความปลอดภัย และไม่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อสุขภาพ บทความนี้จึงแสดงให้เห็นว่าเทคนิคดังกล่าวสามารถนําไปประยุกต์ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นแนวทางที่เหมาะสมในการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารสุขภาพที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น</p> นรฤทธิ สมศิริ, อนุชิต แสงอ่อน ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสุขภาพและอาหารเชิงสร้างสรรค์ https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://he03.tci-thaijo.org/index.php/JHFC/article/view/4200 Mon, 30 Jun 2025 00:00:00 +0700 การให้วัคซีนในทารกเกิดก่อนกำหนด: บทบาทที่ท้าท้ายสำหรับพยาบาล https://he03.tci-thaijo.org/index.php/JHFC/article/view/4114 <p>ทารกเกิดก่อนกำหนดมีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อเนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายยังทำหน้าที่ไม่สมบูรณ์ การได้รับวัคซีนภายหลังเกิดตามอายุจึงมีความสำคัญต่อสุขภาพของทารกกลุ่มนี้ จากการทบทวนวรรณกรรมพบประเด็นการได้รับวัคซีนไม่เป็นไปตามแผนสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน ทั้งที่ได้รับเร็วและได้รับช้ากว่าแผนสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน การให้ทารกเกิดก่อนกำาหนดได้รับวัคซีนตามแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคเป็นสิ่งท้าทายสำาหรับพยาบาล บทความนี้นำเสนอความหมายและอุบัติการณ์ทารกเกิดก่อนกำหนด ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเกิดก่อนกำหนด ระบบภูมิคุ้มกันของทารกเกิดก่อนกำหนด ความหมายและประเภทของวัคซีน ทารกเกิดก่อนกำหนดควรได้รับวัคซีนอย่างไร การศึกษาเกี่ยวกับการได้รับวัคซีนในทารกเกิดก่อนกำหนด การได้รับวัคซีนล่าช้าในทารกเกิดก่อนกำหนด และบทบาทพยาบาล ในการให้ความรู้ผู้ดูแลทารกเกิดก่อนกำหนด การให้ความรู้โดยพยาบาลแก่ผู้ดูแลอย่างมีส่วนร่วม ในการวางแผนอาจช่วยให้ทารกเกิดก่อนกำหนดได้รับวัคซีนตามแผนสร้างเสริมภูมิคุ้มกันอัตราเพิ่มขึ้น</p> อุษณีย์ จินตะเวช, เกศรา เสนงาม, ทัศนียา วังสะจันทานนท์, จิรกุล ครบสอน, รุ่งนพนันท์ บุปผา, โชติกา จันทร์หนองแวง ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสุขภาพและอาหารเชิงสร้างสรรค์ https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://he03.tci-thaijo.org/index.php/JHFC/article/view/4114 Mon, 30 Jun 2025 00:00:00 +0700 การพยาบาลเพื่อส่งเสริมการจัดการตนเองสำหรับผู้ป่วยเบาหวานที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำรุนแรงและมีโรคร่วม: กรณีศึกษา https://he03.tci-thaijo.org/index.php/JHFC/article/view/4325 <p>ภาวะนํ้าตาลในเลือดตํ่าเป็นภาวะแทรกซ้อนที่สําคัญของผู้ป่วยเบาหวานที่มีปัญหาเกี่ยวกับการรับประทานอาหาร ซึ่งจะเพิ่มโอกาสการกลับเข้ามารับการรักษาซํ้า และทําให้มีอุบัติการณ์การเสียชีวิตสูงหากเทียบกับระดับนํ้าตาลในเลือดสูง ดังนั้นผู้ป่วยเบาหวานจําเป็นต้องมีการจัดการตนเองที่เหมาะสม เพื่อป้องกันหรือชะลอการกลับเข้ามารับการรักษาซํ้าด้วยภาวะนํ้าตาลในเลือดตํ่า พยาบาลจึงมีบทบาทสําคัญในการส่งเสริมการจัดการตนเองในผู้ป่วยเบาหวานให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการป้องกันการเกิดภาวะนํ้าตาลในเลือดตํ่า การประเมินอาการ และการจัดการตนเองเบื้องต้นให้เกิดความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่ดีต่อตนเองในระยะยาว บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทบทวนความรู้เกี่ยวกับการจัดการตนเอง ภาวะนํ้าตาลในเลือดตํ่า และการพยาบาลผู้ป่วยเบาหวานที่มีภาวะนํ้าตาลในเลือดตํ่าทั้ง 3 ระยะ คือ ระยะดูแลแรกรับ ระยะดูแลต่อเนื่อง และระยะวางแผนจําหน่าย เพื่อให้ผู้ป่วยปลอดภัยจากภาวะแทรกซ้อน ป้องกันการกลับเข้ามารับการรักษาซํ้าด้วยภาวะนํ้าตาลในเลือดตํ่า ตลอดจนสามารถดูแลตนเองได้</p> ภวิษย์พร หมอยา, ธัญยธรณ์ มงคลสุขภิรมย์ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสุขภาพและอาหารเชิงสร้างสรรค์ https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://he03.tci-thaijo.org/index.php/JHFC/article/view/4325 Mon, 30 Jun 2025 00:00:00 +0700