วารสารวิจัยนวัตกรรมและหลักฐานเชิงประจักษ์ทางสุขภาพ https://he03.tci-thaijo.org/index.php/PBRI <p>วารสารวิจัยนวัตกรรมและหลักฐานเชิงประจักษ์ทางสุขภาพ ดำเนินงาน โดย วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อุดรธานี ร่วมกับ องค์การนักศึกษาสถาบันพระบรมราชชนก เปิดรับบทความผลงานวิจัย นวัตกรรม และบทความทางวิชาการจากหลักฐานเชิงประจักษ์ของนักศึกษา อาจารย์ บุคลากร และศิษย์เก่า สังกัดสถาบันพระบรมราชชนก ในด้านการแพทย์ การพยาบาล การสาธารณสุขการศึกษาในสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพ และด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์สุขภาพ</p> <p>กำหนดออกปีละ 2 ฉบับ คือ</p> <p>มกราคม - มิถุนายน</p> <p>กรกฎาคม - ธันวาคม</p> วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อุดรธานี th-TH วารสารวิจัยนวัตกรรมและหลักฐานเชิงประจักษ์ทางสุขภาพ 3057-0336 ผลของการใช้นวัตกรรมเข็มขัดสวนล้างสำหรับทารกที่มีลำไส้เปิดทางหน้าท้อง https://he03.tci-thaijo.org/index.php/PBRI/article/view/3177 <p>การวิจัยกึ่งทดลองชนิด 1 กลุ่มวัดหลังการทดลองนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการใช้นวัตกรรมเข็มขัดสวนล้างสำหรับทารกที่มีลำไส้เปิดทางหน้าท้อง กลุ่มตัวอย่างเป็นพยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลพระปกเกล้า อาจารย์พยาบาลและนักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 3 วิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ปีการศึกษา 2567 จำนวนรวม 33 คน เครื่องมือที่ได้แก่ นวัตกรรมเข็มขัดสวนล้างสำหรับทารกที่มีลำไส้เปิดทางหน้าท้อง แบบบันทึกแบบสอบถามความพึงพอใจในการใช้นวัตกรรมฯ ดำเนินการวิจัยในเดือนเมษายน 2567 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ จำนวน ร้อยละ ผลการวิจัยพบว่า</p> <p>หลังใช้นวัตกรรมเข็มขัดสวนล้างสำหรับทารกที่มีลำไส้เปิดทางหน้าท้อง กลุ่มตัวอย่างมีความพึงพอใจนวัตกรรมเข็มขัดสวนล้างสำหรับทารกที่มีลำไส้เปิดทางหน้าท้องในระดับมาก</p> <p>ควรปรับปรุงนวัตกรรมเข็มขัดสวนล้างสำหรับทารกที่มีลำไส้เปิดทางหน้าท้องให้ดีขึ้นและศึกษาประสิทธิผลของนวัตกรรมดังกล่าวผ่านการวิจัยทดลองที่มีกลุ่มควบคุม</p> กนกนิภา สงเคราะห์ กนกวรรณ บำรุงกิจ กมลพร แสงเงินรอด กมลพรรณ เถียรทิน กรกต รัตนวงษ์ กรรธิชา หัตถี กฤษณา ศรีทะประกอบ ขวัญกมล วิมลโนช กัญญาภัค เมืองโคตร กันฐิกา กอบสุข ยุรี เชาวน์พิพัฒน์ Copyright (c) 2024 สถาบันพระบรมราชชนก https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2024-09-11 2024-09-11 3 1 1 8 ผลของการจัดกิจกรรมเรียนรู้แยกขยะผ่านละครสร้างสรรค์แบบมีส่วนร่วมต่อการเพิ่มทักษะแยกขยะของเด็กประถมศึกษาปีที่ 1 ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลบ่อพลอย อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด https://he03.tci-thaijo.org/index.php/PBRI/article/view/3083 <p>การวิจัยกึ่งทดลองแบบกลุ่มวัดก่อน - หลังครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบทักษะแยกขยะของเด็กประถมศึกษาปีที่ 1 ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลบ่อพลอย อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด ก่อนและหลังได้รับกิจกรรมสร้างการเรียนรู้แยกขยะผ่านละครสร้างสรรค์แบบมีส่วนร่วม กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลบ่อพลอย อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด ปีการศึกษา 2567 จำนวน 18 คน เครื่องมือในการวิจัยได้แก่ กิจกรรมสร้างการเรียนรู้แยกขยะผ่านละครสร้างสรรค์แบบมีส่วนร่วมและแบบสังเกตทักษะการแยกขยะ ดำเนินกิจกรรมการทดลองในวันที่ 4 มิถุนายน 2567 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติ จำนวน ร้อยละ และ McNemar test ผลการวิจัยพบว่า</p> <p>หลังได้รับกิจกรรมสร้างการเรียนรู้แยกขยะผ่านละครสร้างสรรค์แบบมีส่วนร่วมกลุ่มตัวอย่างมีทักษะการแยกขยะดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001</p> <p>ดังนั้นครูสามารถนำกิจกรรมสร้างการเรียนรู้แยกขยะผ่านละครสร้างสรรค์แบบมีส่วนร่วมนี้ไปฝึกทักษะการแยกขยะของนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 1 ได้ เพื่อให้เกิดพฤติกรรมการแยกขยะที่ดีในอนาคตของเยาวชนต่อไป</p> นวรัตน์ เหลือง เหลืองโสมนภา กฤษฎา ชูจิตร กฤษณะ มณีมา กฤษณา กองสมัคร ประไพวดี สุพิศ ปรียานุช สื่อสุวรรณ์ พัทธดนย์ เขียวสง่า สุธาทิพย์ ไสยแพทย์ ธนโชติ พิมพ์แก้ว ปิยะทัศน์ ชัยภา กฤษณา สระแสง ยศพล เหลืองโสมนภา Copyright (c) 2024 สถาบันพระบรมราชชนก https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2024-09-11 2024-09-11 3 1 9 17 ประสิทธิผลสื่อเสมือนจริง Arm Step Sensor Version II สำหรับนักศึกษาพยาบาล วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อุดรธานี https://he03.tci-thaijo.org/index.php/PBRI/article/view/3079 <p>การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลองมีวัตถุประสงค์การวิจัยเพื่อหาประสิทธิผลด้านความรู้จากการใช้งานสื่อเสมือนจริง Arm Step Sensor Version II และความพึงพอใจของนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อุดรธานี ต่อสื่อเสมือนจริง Arm Step Sensor Version II กลุ่มตัวอย่างคือนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ ชั้นปีที่ 2 - 4 วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีอุดรธานี จำนวน 54 คนกำหนดขนาดตัวอย่างโดยใช้โปรแกรม G* power ได้ค่าความสอดคล้องระหว่างข้อคำถามกับวัตถุประสงค์เท่ากับ 0.67 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ สถิติ Dependent pair t-test ผลการวิจัยพบว่า</p> <p> หลังใช้สื่อ นักศึกษาพยาบาลมีความรู้เรื่องการพันผ้าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยทักษะการพันผ้าปฏิบัติถูกต้องเป็นส่วนใหญ่อยู่ในระดับมาก นักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 2 มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด (<em>M</em> = 4.76, <em>SD</em> = 2.65) รายข้อส่วนใหญ่มีทักษะล้างมือก่อนลงมือปฏิบัติการพันผ้ามากที่สุด (<em>M</em> = 4.70, <em>SD</em> = 0.54) ความพึงพอใจคุณภาพของสื่อ นักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 3 สูงที่สุด (<em>M</em> = 4.52, <em>SD</em> = 0.47) รายข้อมีความพึงพอใจด้านนวัตกรรมมีความสวยงาม ทันสมัย น่าใช้งานมากที่สุด (<em>M</em> = 4.57, <em>SD</em> = 0.63)</p> <p>จากผลการศึกษาพบว่าการใช้สื่อการเรียนการสอนทำให้นักศึกษามีความรู้เพิ่มมากขึ้นและสามารถพัฒนาทักษะได้อย่างมีประสิทธิภาพอาจารย์ผู้สอนควรเห็นความสำคัญในการใช้สื่อในการประกอบการเรียนการสอนและผู้บริหารสถานศึกษาควรให้การสนับสนุนโมเดลหรือสื่อประกอบการเรียนการสอนเพื่อให้นักศึกษาเกิดการเรียนรู้และ มีความเข้าใจในเนื้อหาที่สามารถนำไปฝึกทักษะต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความชำนาญได้</p> สิริภัทร วงศ์ชาลี จุฑาภรณ์ ตั้งมั่นดี ธนภัค พิมพ์แก้ว ธนัญชัย พฤกโกษ ธิญาดา พนาลิกุล ธีรนัย ชินบุตร สิริยากร อินทวงศ์ สุรชัย คำใบ อมรรัตน์ อัครเศรษฐสกุล Copyright (c) 2024 สถาบันพระบรมราชชนก https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2024-09-11 2024-09-11 3 1 18 27 ปัญหาการประเมินพัฒนาการเด็กโดยใช้คู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย (DSPM) ของนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่ 4 วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อุดรธานี https://he03.tci-thaijo.org/index.php/PBRI/article/view/3071 <p>วิจัยเชิงพรรณนานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัญหาการประเมินพัฒนาการเด็ก โดยการใช้คู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย (DSPM) ของนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่ 4 วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อุดรธานี ประชาการและกลุ่มตัวอย่าง เป็นนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่ 4 จำนวน 146 คน โดยใช้วิธีเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสอบถาม ซึ่งผู้วิจัยได้ดำเนินการสร้างเป็นแบบสอบถามออนไลน์แล้วจึงเก็บข้อมูลแบบออนไลน์โดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ความถี่ แจกแจงความถี่ ร้อยละ และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในการวิเคราะห์ข้อมูล ผลการวิจัยพบว่า</p> <p>ความคิดเห็นของนักศึกษาต่อปัญหาในการประเมินพัฒนาการเด็กโดยใช้คู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย (DSPM) โดยภาพรวมรายด้านพบว่าด้านการจัดการเรียนการสอน อยู่ในระดับมาก (<em>M</em> = 3.89, <em>SD</em> = 0.74) ปัญหาที่พบมากได้แก่ จำนวนชั่วโมงเรียนในการเรียนเรื่องการประเมินพัฒนาการเด็ก โดยใช้คู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย (DSPM) ไม่ค่อยเพียงพอ รองลงมาคือด้านผู้เรียน และด้านสิ่งสนับสนุน ตามลำดับ (<em>M</em> = 3.84, <em>SD</em> = 0.80), (<em>M</em> = 3.63, <em>SD</em> = 0.80)</p> <p>คู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย (DSPM) ควรถูกนำมาทดลองใช้และนำไปปฏิบัติในการจัดการเรียนการสอนในชั้นเรียนเพื่อช่วยเพิ่มทักษะการประเมินเด็กดปฐมวัยในนักศึกษาพยาบาล</p> เกศริน บรรเทา ชลิดา แก้วประทุม ธัญชนิต ขัตติยะ ฤทัยรัตน์ กอแก้ว วรรณพร ดูหฤคำ ศศิณา เฮียงมา ศศิธร สามา อรจิรา โตมาชา อารียา บัวงาม จุฑารัตน์ ลมอ่อน Copyright (c) 2024 สถาบันพระบรมราชชนก https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2024-09-12 2024-09-12 3 1 28 37 ผลของการใช้เม็ดฟู่กำจัดลูกน้ำและป้องกันการวางไข่ของยุงลายต่อความพึงพอใจของนักศึกษา และบุคลากรในวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี https://he03.tci-thaijo.org/index.php/PBRI/article/view/3114 <p>การวิจัยและพัฒนาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนานวัตกรรมและศึกษาความพึงพอใจต่อการใช้นวัตกรรมเม็ดฟู่กำจัดลูกน้ำและป้องกันการวางไข่ของยุงลายของนักศึกษาและบุคลากรในวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี จำนวน 20 ราย โดยการสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบประเมินความพึงพอใจในการใช้นวัตกรรมเม็ดฟู่กำจัดลูกน้ำและป้องกันการวางไข่ของยุงลาย วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ จำนวน ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า</p> <p><span style="font-size: 0.875rem;">1. นวัตกรรมเม็ดฟู่กำจัดลูกน้ำและป้องกันการวางไข่ของยุงลายของนักศึกษาและบุคลากรในวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี สามารถกำจัดลูกน้ำได้ทั้งหมด แต่ไม่สามารถกำจัดตัวโม่งได้ และไม่พบการวางไข่ของยุงลายเพิ่มขึ้น ซึ่งในน้ำยังคงมีกลิ่นของสมุนไพรยาวนานถึง 6 วัน เม็ดฟู่ละลายภายใน 1 นาที และใช้เวลาประมาณ 24 ชั่วโมง ในการกำจัดลูกน้ำยุงลาย</span></p> <p><span style="font-size: 0.875rem;">2. ความพึงพอใจในนวัตกรรมเม็ดฟู่กำจัดลูกน้ำและป้องกันการวางไข่ของยุงลาย ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (</span><em style="font-size: 0.875rem;">M</em><span style="font-size: 0.875rem;"> = 4.75, </span><em style="font-size: 0.875rem;">SD</em><span style="font-size: 0.875rem;">= 0.49) พบว่าความพึงพอใจด้านความสะดวกสบายในการ ใช้งานอยู่ในระดับมากที่สุดเป็นลำดับแรก (</span><em style="font-size: 0.875rem;">M</em><span style="font-size: 0.875rem;"> = 4.85, </span><em style="font-size: 0.875rem;">SD</em><span style="font-size: 0.875rem;">= 0.36) รองลงมาได้แก่ ด้านความสะดวกสบายในการพกพา (</span><em style="font-size: 0.875rem;">M</em><span style="font-size: 0.875rem;"> = 4.75, </span><em style="font-size: 0.875rem;">SD</em><span style="font-size: 0.875rem;">= 0.44) และกลิ่นที่คนส่วนใหญ่พึงพอใจมากที่สุด คือ กลิ่นสาระเเหน่</span></p> <p>ดังนั้นควรพัฒนาระยะเวลาการคงอยู่ของกลิ่นสมุนไพรในการใช้งานให้ยาวนานยิ่งขึ้นและควรมีการศึกษาถึงปริมาณของส่วนผสมต่างๆที่เหมาะสมในเม็ดฟู่ ปริมาณน้ำความเป็นกรดด่างของน้ำ เพื่อจะสามารถนำไปใช้ได้ทุกสภาพน้ำ</p> ชุติกาญจน์ ปานทอง โชติมา แสงทอง ญดา วันทาวงศ์ ญาณิศา อินบำรุง ญาณิศา โพธิ์แก้ว ญาณิศา พินโท ฐิตาภรณ์ รัตพูล ฐิติมา ภุมรินทร์ ณภัทร เขตสมุทร ณัฏฐกมล ดาวฉาย กรรณิการ์ พรงาม กฤษณี สุวรรณรัตน์ วรัญญา ชลธารกัมปนาท Copyright (c) 2024 สถาบันพระบรมราชชนก https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2024-09-12 2024-09-12 3 1 38 46