วารสารวิจัยสุขภาพโรงพยาบาลและชุมชน
https://he03.tci-thaijo.org/index.php/pthjo
<p><strong>วารสารวิจัยสุขภาพโรงพยาบาลและชุมชน </strong><strong>(</strong><strong>Journal of Hospital and Community Health Research) </strong>เป็นวารสารวิชาการเกี่ยวกับสุขภาพและสาธารณสุข โดยมีจุดประสงค์เพื่อ เผยแพร่ผลงานทางวิชาการ งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและสาธารณสุข รวมทั้งส่งเสริมและพัฒนาองค์ความรู้ในด้านการดูแลรักษา พยาบาลผู้ป่วย การส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันควบคุมโรคและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วย เป็นต้น </p> <p> </p> <p><strong style="font-size: 0.875rem;"> </strong></p>
โรงพยาบาลโพธิ์ตาก (Photak Hospital)
th-TH
วารสารวิจัยสุขภาพโรงพยาบาลและชุมชน
2985-0630
-
ผลของโปรแกรมส่งเสริมการรับรู้และปรับเปลี่ยนทัศนคติที่มีผลต่อการยอมรับการฉีดวัคซีน HPV ในนักเรียนหญิงมัธยมศึกษาตอนปลาย จังหวัดหนองคาย
https://he03.tci-thaijo.org/index.php/pthjo/article/view/4314
<p> การวิจัยกึ่งทดลองนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาผลของโปรแกรมส่งเสริมการรับรู้และปรับเปลี่ยนทัศนคติที่มีผลต่อการยอมรับการฉีดวัคซีน HPV ในนักเรียนหญิงมัธยมศึกษาตอนปลาย ประชากรที่ใช้ในการศึกษา คือ นักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายในจังหวัดหนองคาย ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน HPV หรือได้รับไม่ครบตามเกณฑ์ จำนวน 234 คน กลุ่มตัวอย่างได้มาจากการสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive Sampling) จำนวน 40 คน เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองคือ โปรแกรมส่งเสริมการรับรู้และปรับเปลี่ยนทัศนคติที่มีผลต่อการยอมรับการฉีดวัคซีน HPV เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถามความเชื่อด้านสุขภาพ, ทัศนคติต่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีน HPV, และการยอมรับการฉีดวัคซีน HPV เป็นต้น วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และสถิติเชิงอนุมาน Paired t-test และสถิติ Pearson Chi-Square </p> <p> ผลการวิจัย ภายหลังเข้าร่วมโปรแกรม พบว่า กลุ่มตัวอย่างมีการรับรู้โอกาสเสี่ยง ความรุนแรงต่อการติดเชื้อ และการรับรู้ประโยชน์ของวัคซีน HPV เพิ่มขึ้น ซึ่งแตกต่างกับก่อนเข้าร่วมโปรแกรมฯอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.05) ส่วนการรับรู้อุปสรรคต่อการฉีดวัคซีน HPV ลดลง มีทัศนคติต่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีน HPV เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.001) มีการยอมรับในการฉีดวัคซีน HPV เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p = 0.002) และมีความยินดีที่จะรับวัคซีนเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 47.5 เป็นร้อยละ 80 เป็นต้น ดังนั้น สถานศึกษาควรนำโปรแกรมฯ ไปบูรณาการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรการเรียนการสอน และควรส่งเสริมให้ผู้ปกครองมีส่วนในการตัดสินใจรับวัคซีนของเด็กนักเรียนด้วย</p> <p><strong>คำสำคัญ</strong><strong>: </strong>วัคซีนเอชพีวี, โปรแกรมสุขศึกษา, นักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย</p> <p><strong>ติดต่อผู้นิพนธ์ : </strong>สิริลักษณ์ มนต์ฤทธินาค <strong>อีเมล : </strong><a href="mailto:Yingfocos2@gmail.com">Yingfocos2@gmail.com</a></p>
สิริลักษณ์ มนต์ฤทธินาค สม.
ขวัญใจ พิมโคตร สบ.
Copyright (c) 2025 วารสารวิจัยสุขภาพโรงพยาบาลและชุมชน
2025-06-16
2025-06-16
3 2
70
85
-
การพัฒนารูปแบบการดูแลผู้ป่วยจิตเวชเพื่อป้องกันอาการกำเริบรุนแรง สำหรับผู้ดูแลและครอบครัว โรงพยาบาลโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย
https://he03.tci-thaijo.org/index.php/pthjo/article/view/4317
<p><strong>บทคัดย่อ<br /></strong></p> <p> การวิจัยและพัฒนานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ พัฒนารูปแบบการดูแลผู้ป่วยจิตเวชเพื่อป้องกันอาการกำเริบรุนแรง สำหรับผู้ดูแลและครอบครัว โรงพยาบาลโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย แบ่งการวิจัยออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่ 1) การศึกษาสถานการณ์การดูแลในมุมมองผู้ให้บริการและผู้ดูแล 2) พัฒนารูปแบบการดูแลฯ 3) การทดลองใช้และประเมินผล เครื่องมือวิจัย ได้แก่ แนวคำถามสัมภาษณ์ แบบประเมินระดับความถี่ ของการเกิดอาการกำเริบ และการประเมินระดับพฤติกรรมการปฏิบัติเพื่อลดอาการกำเริบ ดำเนินการศึกษาตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2567 ถึงเดือนมีนาคม พ.ศ. 2568 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล โดยข้อมูลเชิงคุณภาพ ใช้กระบวนการวิเคราะห์เนื้อหา ส่วนข้อมูลเชิงปริมาณวิเคราะห์โดยสถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เปรียบเทียบความแตกต่างด้วย Paired–test</p> <p> ผลการวิจัย ภายหลังการใช้รูปแบบการดูแลที่พัฒนาขึ้น พบว่า ผู้ดูแลมีความรู้ ทักษะ และมีพฤติกรรมการดูแลผู้ป่วยดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.05) และป่วยมีอาการอาการกำเริบลดลง เนื่องจากมีการจัดตั้งคลินิกจิตเวชที่มีแนวทางการดูแลที่ชัดเจน ช่วยให้การวางแผนการจำหน่าย รวมถึงสื่อสารสื่อที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้ผู้ดูแลสามารถสังเกตเห็นอาการผิดปกติได้ทัน ส่งผลต่อการจัดการกับอาการที่กำลังจะกำเริบได้เป็นอย่างดี ดังนั้น จึงควรขยายผลการนำเอารูปแบบนี้ไปสู่เครือข่ายในชุมชนต่อไป</p> <p><strong>คำสำคัญ </strong><strong>:</strong> รูปแบบการดูแลผู้ป่วยจิตเวช, การป้องกันอาการกำเริบรุนแรง, ผู้ดูแล, ครอบครัว</p> <p><strong>ติดต่อผู้นิพนธ์</strong> <strong>:</strong> ศิรดา ฝ้ายขาว <strong>อีเมล</strong> <strong>:</strong> <a href="mailto:srd002513@gmail.com">srd002513@gmail.com</a></p> <p><br /><br /></p>
ศิรดา ฝ้ายขาว พย.บ.
ภรกต สูฝน พย.บ., ปร.ด.
จิรัสย์ สมัคราษฎร์ พ.บ.
ธนกฤต ก้อนต๊ะเสน วท.บ.
Copyright (c) 2025 วารสารวิจัยสุขภาพโรงพยาบาลและชุมชน
2025-06-16
2025-06-16
3 2
86
97
-
ฝุ่นร้ายใกล้ตัว: รู้ทันโรค รู้แหล่งกำเนิด พร้อมวิธีป้องกันอย่ำงได้ผล
https://he03.tci-thaijo.org/index.php/pthjo/article/view/4515
<p> PM 2.5 เป็นฝุ่นที่มีขนาดเล็กมา ๆ จนสามารถแทรกเข้าสู่ระบบหายใจและเข้าสู่กระแสเลือดได้ง่าย<br />ทาให้เกิดผลกระทบต่อร่างกายอย่างรุนแรงหากได้รับเป็นระยะเวลานาน ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ปัญหามลพิษ<br />ทางอากาศโดยเฉพาะ "ฝุ่น PM 2.5" ได้กลายเป็นประเด็นร้อนที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพของประชาชน</p>
เอกพงษ์ ตั้งกิตติเกษม
กรภัทร อาจวานิชชากุล
Copyright (c) 2025 วารสารวิจัยสุขภาพโรงพยาบาลและชุมชน
2025-07-01
2025-07-01
3 2
1
6