ผลการให้โปรแกรมการบริบาลเภสัชกรรมร่วมกับการฟื้นฟูสมรรถภาพปอดแก่ผู้ป่วย โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง
Main Article Content
บทคัดย่อ
วิจัยแบบกึ่งทดลองครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประสิทธิผลของโปรแกรมการบริบาลเภสัชกรรมร่วมกับการฟื้นฟูสมรรถภาพปอดในผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง เปรียบเทียบกับการดูแลตามปกติ กลุ่มตัวอย่างคือผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังที่มารับบริการที่แผนกผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลหนองหิน จังหวัดเลย จำนวน 26 ราย คำนวณกลุ่มตัวอย่างจากสูตรเปรียบเทียบค่าเฉลี่ย 2 กลุ่มไม่อิสระต่อกัน แบ่งเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม กลุ่มละ 13 ราย กลุ่มทดลองได้รับโปรแกรมการบริบาลเภสัชกรรมร่วมกับการฟื้นฟูสมรรถภาพปอดในผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย โปรแกรมการบริบาลเภสัชกรรมร่วมกับการฟื้นฟูสมรรถภาพปอด แบบประเมินความถูกต้องของเทคนิคการใช้ยาสูดพ่นแบบ MDI และ DPI เครื่องมือวัดสมรรถภาพปอด แบบทดสอบ 6MWT การเก็บรวบรวมข้อมูล ดำเนินการใน 2 ระยะ คือ ก่อนและหลังการทดลอง วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และช่วงความเชื่อมั่น และสถิติเชิงอนุมาณใช้ Paired t test
ผลการศึกษาพบว่า ผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังในกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมมีค่าเฉลี่ยสมรรถภาพปอด (PEFR%) เท่ากับ 58.23 (S.D. = 5.53) และ 60.46 (S.D. = 6.15) ตามลำดับ ซึ่งไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (t = 0.27, df = 12, p-value < 0.78) ที่ระดับความเชื่อมั่น 95% แม้ว่าค่าเฉลี่ยสมรรถภาพปอดของทั้งสองกลุ่มจะไม่ต่างกัน แต่เมื่อพิจารณาระดับความรุนแรงของโรค พบว่ากลุ่มทดลองมีอาการดีขึ้นหลังการทดลอง และโปรแกรมส่งผลให้ผู้ป่วยมีเทคนิคการใช้ยาที่ถูกต้อง ให้ความร่วมมือในการใช้ยาเพิ่มขึ้น รวมถึงสามารถแก้ไขอาการข้างเคียงและปัญหาจากการใช้ยาได้ ดังนั้น การรักษาผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากความร่วมมือในการใช้ยาและเทคนิคการใช้ยาที่ถูกต้องแล้ว การออกกำลังกายเพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพปอดเป็นอีกวิธีที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมโรคได้ดียิ่งขึ้น
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความนี้ได้รับการเผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาต Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0) ซึ่งอนุญาตให้ผู้อื่นสามารถแชร์บทความได้โดยให้เครดิตผู้เขียนและห้ามนำไปใช้เพื่อการค้าหรือดัดแปลง หากต้องการใช้งานซ้ำในลักษณะอื่น ๆ หรือการเผยแพร่ซ้ำ จำเป็นต้องได้รับอนุญาตจากวารสารเอกสารอ้างอิง
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. (2567). รายงานสถานการณ์โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ประจำปี 2567. นนทบุรี: กรมควบคุมโรค.
ธนาคารโลก. (2567). รายงานการศึกษาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรังในประเทศไทย. กรุงเทพฯ: สำนักงานธนาคารโลกประจำประเทศไทย.
สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข. (2566). การประเมินภาระโรคและการบาดเจ็บของประชากรไทย พ.ศ. 2566. นนทบุรี: สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข.
สมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทย. (2567). แนวทางการวินิจฉัยและรักษาโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง. กรุงเทพฯ: สมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทย.
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ. (2567). รายงานการเข้าถึงบริการสุขภาพของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง. กรุงเทพฯ: สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ.
Basheti, I. A., Reddel, H. K., Armour, C. L., & Bosnic-Anticevich, S. Z. (2005). Counseling about turbuhaler technique: Needs assessment and effective strategies for community pharmacists. Respiratory Care, 50(5), 617-623.
Bosnic-Anticevich, S. Z., Sinha, H., So, S., & Reddel, H. K. (2010). Metered-dose inhaler technique: The effect of two educational interventions delivered in community pharmacy over time. Journal of Asthma, 47(3), 251-256.
Celli, B. R., MacNee, W., & ATS/ERS Task Force. (2004). Standards for the diagnosis and treatment of patients with COPD: A summary of the ATS/ERS position paper. European Respiratory Journal, 23(6), 932-946.
Cronbach, L. J. (1951). Coefficient alpha and the internal structure of tests. Psychometrika, 16(3), 297-334.
Hepler, C. D., & Strand, L. M. (1990). Opportunities and responsibilities in pharmaceutical care. American Journal of Hospital Pharmacy, 47(3), 533-543.
World Bank. (2024). Chronic obstructive pulmonary disease (COPD). World Bank. https://www.worldbank.org/en/topic/chronic-obstructive-pulmonary-disease
World Health Organization. (2024). Thailand country profile: Chronic respiratory diseases. WHO.
https://www.who.int/countries/thailand
World Health Organization. (2024). World health statistics 2024: Monitoring health for the SDGs, sustainable development goals. WHO.