ประสบการณ์ของผู้ดูแลในการจัดการอาการปวดด้วยยามอร์ฟีนในผู้ป่วย มะเร็งระยะสุดท้ายที่รักษาแบบประคับประคองที่บ้าน
คำสำคัญ:
ประสบการณ์จัดการอาการปวด, ผู้ดูแล, ผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย, การรักษาแบบประคับประคองบทคัดย่อ
การจัดการอาการปวดในผู้ป่วยระยะสุดท้ายแบบประคับประคองที่บ้านมีความซับซ้อนและสำคัญเพื่อ ให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีและเสียชีวิตอย่างสมศักดิ์ศรี การวิจัยคุณภาพครั้งนี้เพื่อศึกษาประสบการณ์จัดการอาการปวดของผู้ดูแลผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายที่รักษาแบบประคับประคองที่บ้าน กุล่มตัวอย่างคัดเลือกแบบเจาะจงเป็นผู้ดูแลผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายที่ได้รับการดูแลแบบประคับประคองที่บ้านจำนวน 11 คน เป็นผู้ให้ข้อมูลหลักจนได้ข้อมูลอิ่มตัว เก็บรวบรวมข้อมูล
ด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึก (in-depth interview) การสังเกตระหว่างการสัมภาษณ์ และการบันทึกเสียง ดำเนินการวิจัยในพื้นที่อำเภอหล่มสัก โรงพยาบาลหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ระหว่างเดือน พฤศจิกายน 2563 ถึง มีนาคม 2564 วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยวิธีการตรวจสอบแบบสามเส้า (data triangulation) และวิเคราะห์เนื้อหาใจความหลัก (contentanalysis) เพื่อหาโครงสร้างเนื้อหา (themes)
ผลการศึกษา พบว่าประสบการณ์ของผู้ดูแลผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายที่ได้รับการรักษาแบบประคับประคองที่บ้าน แบ่งเป็น 3 ประเด็น ได้แก่ 1) การรับรู้ยามอร์ฟีนเป็นยาแก้ปวดและยาเสพติด 2) วิธีการใช้ยามอร์ฟีนของผู้ดูแลมีการปฏิบัติ 3 ขั้นตอน คือ เป้าหมายการใช้มอร์ฟีน การประเมินก่อนให้ยา และวิธีให้ยามอร์ฟีน โดยผู้ดูแลมีเป้าหมายให้ยาเพื่อไม่ให้ผู้ป่วยทรมานและประเมินอาการปวดก่อนให้มอร์ฟีนโดยให้ยาตามเวลาหรือตามอาการปวด และ 3) อุปสรรคของการใช้ยามอร์ฟีน คือ รสชาติของยามอร์ฟีน ความเชื่อว่ามอร์ฟีนเป็นยาเสพติด และกลัวการใช้อุปกรณ์เพื่อให้ยามอร์ฟีน โดยสรุปบุคลากรทางการแพทย์จำเป็นต้องสื่อสารกับผู้ป่วยและญาติผู้ดูแลเกี่ยวกับการใช้ยามอร์ฟีนเพื่อให้ผู้ดูแลเกิดความเข้าใจและมีเป้าหมายการใช้ยาที่ตรงกัน นอกจากนี้ควรมีการแนะนำวิธีประเมินอาการปวดวิธีการใช้ยา อุปกรณ์การให้ยาและช่องทางการขอคำปรึกษาจากบุคลากรการแพทย์ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ดูแลใช้ยามอร์ฟีนในการจัดการอาการปวดได้อย่างเหมาะสมและมีคุณภาพในผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายที่ได้รับการรักษาแบบประคับประคองที่บ้าน
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.