ผลการใช้แนวทางการพยาบาลในผู้ป่วยเด็กที่ได้รับการบำบัดด้วยออกซิเจน อัตราการไหลสูง
คำสำคัญ:
การบำบัดด้วยออกซิเจน, ออกซิเจนอัตราการไหลสูง, แนวทางการพยาบาลในผู้ป่วยเด็กบทคัดย่อ
การบำบัดรักษาด้วยออกซิเจนอัตราการไหลสูงเป็นการรักษาที่สำคัญและมีแนวโน้มสูงขึ้นในผู้ป่วยเด็กที่มีปัญหาทางระบบการหายใจ การวิจัยกึ่งทดลองครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและศึกษาผลของแนวทางการพยาบาลผู้ป่วยเด็กที่ได้รับการบำบัดด้วยออกซิเจนอัตราการไหลสูง ดำเนินการศึกษาระหว่างเดือนตุลาคม 2564-เมษายน 2565 กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยเด็กที่มีภาวะหายใจลำบาก อายุ 1 เดือน–12 ปี และได้รับการบำบัดด้วยออกซิเจนอัตราการไหลสูง
(Heated Humidified High flow nasal canula: HHHFNC) ในหอผู้ป่วยกุมารเวชกรรม โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช คัดเลือกตัวอย่างแบบเจาะจง จำนวน 60 คน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มควบคุมได้รับการบำบัดด้วยออกซิเจนอัตราการไหลสูงก่อนพัฒนาแนวทางการพยาบาล และกลุ่มทดลองได้รับการบำบัดด้วยออกซิเจนอัตราการไหลสูงหลังการพัฒนาแนวทางการพยาบาล กลุ่มละ 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แนวทางการพยาบาลในผู้ป่วย
ผลการวิจัย พบว่าระยะเวลาการรักษาด้วย HHHFNC และวันนอนโรงพยาบาลของผู้ป่วยเด็ก เปรียบเทียบระหว่างกลุ่มก่อนกับหลังการพัฒนาแนวทางการพยาบาลไม่แตกต่างกัน (p>0.05) กลุ่มหลังการใช้แนวทางการพยาบาลมีอุบัติการณ์การเกิดภาวะแทรกซ้อนของ epistaxis ขณะ on HHHFNC ลดลง (3.3, 13.3, p<0.001) แต่อุบัติการณ์ความล้มเหลวจากการ on HHHFNC เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มก่อนการใช้แนวทางการพยาบาล (20.0, 13.3, p<0.001) นอกจากนี้พยาบาลมีค่าเฉลี่ยคะแนนความรู้หลังการพัฒนาและใช้แนวทางการพยาบาลสูงกว่าก่อนการใช้แนวทางการพยาบาล (12.9, 10.5, p<0.001) โดยสรุปแนวทางการพยาบาลผู้ป่วยเด็กที่ได้รับการบำบัดด้วยออกซิเจนอัตราการไหลสูงที่พัฒนาขึ้น มีประสิทธิภาพในการลดภาวะแทรกซ้อนของการบำบัดด้วยออกซิเจนอัตราการไหลสูง ผลการวิจัยเสนอแนะควรนำแนวทางการพยาบาลที่พัฒนาขึ้นไปใช้ในงานประจำ และพัฒนาแนวทางการหย่าเครื่องให้ออกซิเจนอัตราไหลสูงที่มีความเฉพาะในแต่ละช่วงอายุและพยาธิสภาพของโรคในผู้ป่วยเด็กที่มีปัญหาของระบบทางเดินหายใจเด็กที่ได้รับการบำบัดด้วยออกซิเจนอัตราการไหลสูงที่พัฒนาขึ้น ตรวจสอบความตรงโดยผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 3 คน 2) แบบบันทึกข้อมูลสำหรับผู้ป่วยและพยาบาลวิชาชีพ 3) แบบประเมินตัวชี้วัดทางคลินิก 4) แบบประเมินความรู้ของพยาบาลวิชาชีพในการดูแลผู้ป่วยเด็กที่ได้รับการบำบัดด้วยออกซิเจนอัตราการไหลสูง วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ จำนวน ร้อยละ ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน paired t-test และ chi-square test กำหนดระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.