การพัฒนารูปแบบการมีส่วนร่วมของครอบครัวและชุมชนในการดูแลผู้ป่วย ฉุกเฉินวิกฤตสุขภาพจิตแบบบูรณาการ

ผู้แต่ง

  • จรรยา ใจหนุน หอผู้ป่วยจิตเวชและยาเสพติด โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จังหวัดตาก

คำสำคัญ:

รูปแบบการมีส่วนร่วม, ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติสุขภาพจิต, บูรณาการ

บทคัดย่อ

ผู้ป่วยจิตเวชและยาเสพติดมีแนวโน้มการเกิดปัญหาวิกฤตของสุขภาพจิตเพิ่มสูงขึ้นเกิดผลกระทบทั้งต่อตนเอง ผู้อื่นและสังคม ครอบครัวและชุมชนเกิดความหวาดกลัว ไม่ยอมรับและทอดทิ้งผู้ป่วย ส่งผลให้ผู้ป่วยมีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงทั้งต่อตนเองและผู้อื่นและมีปัญหาการกลับไปเสพยาซ้ำ การวิจัยและพัฒนาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบการมีส่วนร่วมของครอบครัวและชุมชนในการดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตสุขภาพจิตแบบบูรณาการ และประเมินผลการใช้รูปแบบการมีส่วนร่วมของครอบครัวและชุมชนในการดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตสุขภาพจิตแบบบูรณาการ การดำเนินการวิจัย ประกอบด้วย 3 ระยะ ได้แก่ 1) ศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการของชุมชน 2) ออกแบบและพัฒนารูปแบบในการแก้ไขปัญหาการดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตสุขภาพจิตในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดตาก 3) ประเมินผลการนำรูปแบบที่พัฒนาขึ้นไปใช้ในชุมชน กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วย ผู้นำชุมชน ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวช้องจำนวน 53 คน ผู้ป่วยและญาติผู้ป่วยที่มีภาวะฉุกเฉินวิกฤตสุขภาพจิต จำนวน 28 คน ในพื้นที่อำเภอเมืองตาก จังหวัดตาก จำนวน 22 แห่ง เครื่องมือวิจัย ได้แก่ รูปแบบการมีส่วนร่วมของครอบครัว และชุมชนในการดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตสุขภาพจิตแบบบูรณาการ แบบประเมินผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตสุขภาพจิตแบบติดตามผู้ป่วยจิตเวชเรื้อรังในชุมชน 10 ด้าน และแบบประเมินความพึงพอใจ นำไปวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิง
พรรณนาความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัยพบว่า รูปแบบการมีส่วนร่วมของครอบครัวและชุมชนในการดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตสุขภาพจิตแบบบูรณาการ ประกอบด้วย 3 ขั้นตอน ได้แก่ 1) การเฝ้าระวังในชุมชนและส่งต่อเข้าถึงการบริการ 2) การบำบัดรักษาในโรงพยาบาล และ 3) การติดตามในชุมชนหลังการบำบัดรักษา ภายหลังจากนำรูปแบบการมีส่วนร่วมของครอบครัวและ ชุมชนในการดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตสุขภาพจิตแบบบูรณาการที่พัฒนาขึ้นไปใช้ ผลการติดตามผู้ป่วยจิตเวชในชุมชนทั้ง 10 ด้าน ในระยะ 3 และ 6 เดือน อาการของผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตสุขภาพจิตทุกด้านมีอาการดีขึ้นกว่าก่อนพัฒนา ผู้ป่วยไม่มีอาการแสดงทางจิต ร้อยละ 96.4 และ 92.9 ตามลำดับ มีพฤติกรรมการกินยาสม่ำเสมอเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 96.4 และ 89.3 ตามลำดับ สัมพันธภาพภายในครอบครัวดีขึ้น ร้อยละ 89.3 และ 85.7 ตามลำดับ มีพฤติกรรมกลับไปเสพยาซ้ำลดลงเพียงร้อยละ 7.1 เท่ากันทั้ง 3 และ 6 เดือน ครอบครัวผู้ป่วย ผู้นำชุมชน ภาคีเครือข่ายในชุมชนและผู้ที่เกี่ยวข้องมีความพึง
พอใจอยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.87 และ 4.21 ตามลำดับ ข้อเสนอแนะจากผลการวิจัยควรขยายผลการนำรูปแบบการมีส่วนร่วมของครอบครัวและชุมชนในการดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตสุขภาพจิตแบบบูรณาการไปใช้ในพื้นที่อื่นๆ เพื่อเพิ่มคุณภาพการดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตสุขภาพจิตในชุมชน

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

31-08-2023

รูปแบบการอ้างอิง

1.
ใจหนุน จ. การพัฒนารูปแบบการมีส่วนร่วมของครอบครัวและชุมชนในการดูแลผู้ป่วย ฉุกเฉินวิกฤตสุขภาพจิตแบบบูรณาการ. PMJ [อินเทอร์เน็ต]. 31 สิงหาคม 2023 [อ้างถึง 27 ธันวาคม 2025];3(2):219-32. available at: https://he03.tci-thaijo.org/index.php/PMJ/article/view/3019

ฉบับ

ประเภทบทความ

นิพนธ์ต้นฉบับ