ผลของโปรแกรมการให้ความรู้และส่งเสริมพฤติกรรมการดูแลเท้าในผู้ป่วยที่มีแผลเบาหวานที่เท้า หอผู้ป่วยศัลยกรรมหญิง 1 โรงพยาบาลสกลนคร
Effects of a Program to Provide Knowledge and Promote Behavior Taking Care for Foot Wounds among Diabetic Patients, Female Surgery ward 1, Sakon Nakhon Hospital
คำสำคัญ:
โปรแกรมการให้ความรู้, การส่งเสริมพฤติกรรมการดูแลเท้า, ผู้ป่วยโรคเบาหวาน หอผู้ป่วยศัลยกรรมหญิง 1 โรงพยาบาลสกลนครบทคัดย่อ
การวิจัยนี้เป็นวิจัยแบบกึ่งทดลองชนิดกลุ่มเดียว วัดผลก่อน-หลัง มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมการให้ความรู้และส่งเสริมพฤติกรรมการดูแลตนเองในผู้ป่วยเบาหวานที่มีแผลที่เท้าในหอผู้ป่วยศัลยกรรมหญิง 1 โรงพยาบาลสกลนคร ระหว่างเดือนมีนาคมถึงมิถุนายน พ.ศ.2567 จำนวน 35 คน ระยะเวลาในการวิจัย 8 สัปดาห์ เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วย 1) โปรแกรมการให้ความรู้และส่งเสริมพฤติกรรมการดูแลเท้าในผู้ป่วยเบาหวานที่มีแผลที่เท้า 2) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลประกอบด้วย แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล แบบประเมินความรู้โรคเบาหวาน 15 ข้อ แบบประเมินพฤติกรรมการดูแลเท้าของผู้ป่วยเบาหวานที่มีแผลที่เท้า 3) เครื่องมือกำกับการวิจัยเพื่อบันทึกข้อมูลประกอบด้วยแบบบันทึกการตรวจเท้าและการดูแลเท้า แบบบันทึกการบริหารเท้าบนเก้าอี้ 10 ท่า และแบบบันทึกการติดตามเยี่ยมทางโทรศัพท์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และ dependent t-test
ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มทดลองมีคะแนนความรู้โรคเบาหวาน ก่อนได้รับโปรแกรมมีคะแนนเฉลี่ยความรู้ระดับปานกลาง (SD = 1.24) หลังทดลองมีคะแนนเฉลี่ยความรู้ระดับสูง (SD = 0.77) และมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ( p< 0.001) ผลการศึกษาพฤติกรรมการดูแลเท้าหลังได้รับโปรแกรมการส่งเสริมพฤติกรรมการดูแลเท้าผู้ป่วยเบาหวานที่มีแผลที่เท้าพบว่ามีค่าเฉลี่ยคะแนน สูงกว่าก่อนได้รับโปรแกรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ p< 0.001 )
ผลที่ได้จากการศึกษาครั้งนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการให้ความรู้กับกลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวานและครอบครัวเพื่อให้มีพฤติกรรมในการดูแลสุขภาพเท้าของตนเองในการป้องกันเกิดแผลที่เท้าและลดความพิการ
เอกสารอ้างอิง
สมาพันธ์เบาหวานนานาชาติ (IDF: International Diabetes Federation ). สถานการณ์โรคเบาหวานปี 2560. 2560 [เข้าถึงเมื่อ 5 ตุลาคม 2566]. เข้าถึงได้จาก: https://www.hfocus.org/content/2019/11/18054.
กระทรวงสาธารณสุข สำนักโรคไม่ติดต่อ. รายงานประจำปี 2562. 2562. [เข้าถึงเมื่อ 5 ตุลาคม 2566]. เข้าถึงได้จาก: https://ddc.moph.go.th/uploads/publish/1035820201005073556.pdf.
สุมาลี เชื้อพันธ์. ผลของโปรแกรมการดูแลเท้าแบบบูรณาการต่อพฤติกรรมดูแลเท้าสภาวะเท้าและระดับ HbA1c ของผู้ป่วยเบาหวานความเสี่ยงสูงต่อการเกิดแผลที่เท้า. วารสารสภาการพยาบาล. 2559; 31: 111-123.
เวชระเบียน หอผู้ป่วยศัลยกรรมหญิง 1 โรงพยาบาลสกลนคร. สรุปผลการดำเนินงาน ปีงบประมาณ 2564-2566. โรงพยาบาลสกลนคร; 2566.
อุไรวรรณ นนท์ปัญญา, แสงทอง ธีระทองคำ, จิราพร ไลนิงเกอร์. ผลของโปรแกรมเสริมสร้าง สมรรถนะ แห่งตนในการดูแลเท้าต่อพฤติกรรมการดูแลเท้าและการสูญเสียความรู้สึกที่เท้าในผู้ที่เป็น เบาหวานชนิดที่ 2. วารสารการปฏิบัติการพยาบาลและการผดุงครรภ์ไทย. 2563; 76-91.
ธนาภรณ์ สาลี,เบญจา มุกตพันธุ์, พิษณุ อุตตมะเวทิน. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลเท้าของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2. วารสารโรงพยาบาลสกลนคร. 2561; 21: 87-98.
สิริอร ข้อยุ่ย. คุณภาพชีวิตของผู้ป่วย โรคเบาหวานชนิดที่ 2 ที่มีแผลเบาหวานเรื้อรังที่เข้ารับการ รักษาที่หอผู้ป่วยศัลยกรรม โรงพยาบาลอุดรธานี. วารสารการพยาบาลสุขภาพและการศึกษา. 2562; 2: 12-21.
อโนทัย ผลิตนนท์เกียรติ. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการเกิดแผลที่เท้าของผู้ป่วยเบาหวานในโรงพยาบาลของเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ. วารสารวิชาการสมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย. 2560; 6: 56-67.
ต้องจิตร เอี่ยมสมบูรณ์และคณะ. ผลของโปรแกรมส่งเสริมพฤติกรรมการดูแลเท้าและแผลที่เท้าด้วยตนเองของผู้ป่วยเบาหวานโรงพยาบาลกระทุ่มแบนจังหวัดสมุทรสาคร. วารสารสาธารณสุขศาสตร์. 2560; 47: 289-300.
สุปรียา เสียงดัง. พฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเองของผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ได้. วารสารเครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและการสาธารณสุขภาคใต้. 2560; 4: 191-204.
กรวรรณ ผมทอง, เขมารดี มาสิงบุญ, วัลภา คุณทรงเกียรติ. ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรม การดูแลเท้าของผู้ป่วยเบาหวานกลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดแผลที่เท้า. 2562. { 5 ตุลาคม 2566}. เข้าถึงได้จาก https://nurse.buu.ac.th/rsh/file/journal/0000001102.pdf
กมลวรรณ วงวาส, ศากุล ช่างไม้และ วีนัส ลีฬหกุล. ผลของโปรแกรมลดความเสี่ยงต่อการเกิดแผลที่เท้าของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2. วารสารโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์. 2562; 15: 34-45.
Pender.N.J. Health promotion in nursing practice. Stanford: Appleton & Lange; 1996.
นอเดีย รอนิง. ผลของโปรแกรมส่งเสริมความสามารถในการดูแลตนเองต่อพฤติกรรมการดูแลเท้าสุขภาพเท้าและระดับน้ำตาลในเลือดในผู้สูงอายุมุสลิมโรคเบาหวานที่ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด. 2562. [10 ตุลาคม 2566] เข้าถึงได้จาก https://www.nur.psu.ac.th/researchdb/file_ warasarn/15408journal2.pdf
กมลพรรณ จักรแก้ว. การดูแลตนเองของผู้สูงอายุที่ป่วยด้วยโรคเบาหวานตำบลวงเหนืออำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่. 2561. [5 ตุลาคม 2566] เข้าถึงได้จากhttp://www.cmruir.cmru.ac.th/bitstream/123456789/1901/1/กมลพรรณ.pdf
Bloom, Benjamin S. Handbook on Formative and Summative Evaluation of Student Leaning. New York: McGraw-Hill; 1957.
อนุชา คำไสวและคณะ. ผลของโปรแกรมส่งเสริมสุขภาพในผู้ป่วยโรคเบาหวานต่อพฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเองของผู้ป่วยเบาหวาน ตำบลสงเปลือย อำเภอนามน จังหวัดกาฬสินธุ์. วารสารวิชาการแพรวากาฬสินธุ์. 2560; 4: 316-328.
Best, J.W.. Research in Education. New Jersey: Prentice-Hall; 1981.
สำรวย กัลยณีและศศิวรรณ ทัศนเอี่ยม. ผลของการประยุกต์ใช้หลัก 3 อ.2 ส.ร่วมกับแรงสนับสนุนทางสังคมเพื่อลดความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงของประชาชนกลุ่มเสี่ยงรายใหม่. วารสารราชฟฤกษ์. 2562; 17: 95-104.
ทัศพร ชูศักดิ์, เนตรนภา สาสังข์, และสายสมร เฉลยกิตติ. ผลการใช้โปรแกรมการดูแลเท้าเพื่อป้องกันการถูกตัดขาของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ตำบลสำโรงชัย อำเภอไพศาลี จังหวัดนครสวรรค์. เวชสารแพทย์ทหารบก. 2561; 71: 105-112.
