ผลของโปรแกรมการส่งเสริมสุขภาพสตรีตั้งครรภ์ต่ออัตราการเกิด ภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด และการคลอดก่อนกำหนด
Effect of Health Promotion Program for Pregnant Women on the Prevalence of Preterm Labor and Preterm Birth.
คำสำคัญ:
โปรแกรมการส่งเสริมสุขภาพ, สตรีตั้งครรภ์, เจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด, การคลอดก่อนกำหนดบทคัดย่อ
การศึกษานี้เป็นการวิจัยแบบกึ่งทดลอง เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมการส่งเสริมสุขภาพสตรีตั้งครรภ์ต่ออัตราการเกิดภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด และการคลอดก่อนกำหนด กลุ่มตัวอย่างเป็นสตรีตั้งครรภ์อายุครรภ์ระหว่าง 24 – 36 สัปดาห์ ที่มารับบริการแผนกฝากครรภ์ โรงพยาบาลนครพนม จังหวัดนครพนม แบ่งเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม กลุ่มละ 32 ราย เครื่องมือการวิจัยประกอบด้วย โปรแกรมการส่งเสริมสุขภาพสตรีตั้งครรภ์ แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล แบบประเมินความรู้ของสตรีตั้งครรภ์ และแบบบันทึกผลลัพธ์การตั้งครรภ์ ดำเนินการทดลองและเก็บรวบรวมข้อมูลในช่วงเดือนตุลาคม 2567 ถึงเดือนมีนาคม 2568 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา สถิติไคสแคว และสถิติทดสอบที
ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มทดลองมีอัตราการเกิดภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดน้อยกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < .05) อัตราการเกิดภาวะคลอดก่อนกำหนดน้อยกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < .05) และมีค่าเฉลี่ยคะแนนความรู้มากกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < .001) ผลการศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่า การใช้โปรแกรมการส่งเสริมสุขภาพสตรีตั้งครรภ์สามารถลดอัตราการเกิดภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดและอัตราการเกิดภาวะคลอดก่อนกำหนดได้
เอกสารอ้างอิง
World Health Organization (WHO). Preterm birth [Internet]. Preterm Birth. World Health Organization; 2020. [cited 2025 Apr 5]. Available from: https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/preterm-birth
Practice Bulletin No. 171: Management of Preterm Labor. Obstet Gynecol. 2016;128(4):e155–64.
งานห้องคลอด, สถิติห้องคลอด โรงพยาบาลนครพนม ปี 2564-2566. นครพนม: โรงพยาบาลนครพนม; 2567.
ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย, คณะอนุกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ.แนวทางเวชปฏิบัติของราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์ แห่งประเทศไทย เรื่องการดูแลรักษาภาวะเจ็บครรภ์คลอดและถุงน้ำคร่ำรั่วก่อนกำหนด; 2024. [cited 2025 Apr 5]. Available from: https://www.rtcog.or.th/files/1721716962_44081a80cc14759e3f7f.pdf
ชเนนทร์ วนาภิรักษ์, ธีระ ทองสง. การเจ็บครรภ์และการคลอดก่อนกำหนด. ใน: ธีระ ทองสง, บรรณาธิการ. สูติศาสตร์. พิมพ์ครั้งที่ 6. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่; 2564. หน้า 244-259.
อุษา คงคา. การพยาบาลสตรีตั้งครรภ์ที่มีภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดโดยประยุกต์ใช้ทฤษฎีการเป็นหุ้นส่วนทางการพยาบาล: การศึกษาวิจัยแบบพหุกรณี. วารสารวิชาการและการพยาบาล วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี จักรีรัช. 2565; 2(1):50-65.
Johnson, Samantha, and Neil Marlow. "Early and long-term outcome of infants born extremely preterm." Archives of disease in childhood. 2017;102(1):97-102.
อุ่นใจ กออนันตกุล. การคาดการณ์การคลอดก่อนกำหนด เพื่อป้องกันรักษา. สูตินรีแพทย์สัมพันธ์; 2562. หน้า 8-15.
Becker, M. H. The health belief model and personal health behavior. Health Education Monographs. 1974;2: 324-508. doi: 10.1177/109019817400200407.
สุนันท์ กิจเกตุ. การศึกษาผลของโปรแกรมการมีส่วนร่วมทางการพยาบาลเพื่อป้องกันภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดในหญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ 24+6 – 36+6 สัปดาห์. กาญจนบุรีเวชสาร. 2564; 11(31): 26-39.
สุพัตรา ปิ่นแก้ว, เอมพร รตินธร, เยาวลักษณ์ เสรีเสถียร, และวิบูลย์ เรืองชัยนิคม. ผลของโปรแกรมการดูแลสตรีตั้งครรภ์ที่มีภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดต่ออัตราการเกิดภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดและอัตราการคลอดก่อนกำหนด. วารสารคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา. 2557; 22(4): 58-71.
นงค์คราญ วิเศษกุล. การพัฒนาสื่อการเรียนการสอนทางการพยาบาล: แนวคิดและการประยุกต์. เชียงใหม่: โชตนาพริ้นท์; 2562.
อมราวดี แสงมณี และทัศณีย์ หนูนารถ. ผลของโปรแกรมการให้ความรู้ผ่านสื่อแอปพลิเคชันต่อพฤติกรรมการป้องกันภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดในสตรีตั้งครรภ์กลุ่มเสี่ยง. วารสารสาธารณสุขและสุขภาพศึกษา. 2568; 5(1): e271889 1-17.
