การพยาบาลผู้ป่วยไข้เลือดออกเดงกีที่มีภาวะช็อก: กรณีศึกษา

บทคัดย่อ

ไข้เลือดออกเดงกี เป็นปัญหาที่สำคัญของสาธารณสุขไทยโดยมียุงลายเป็นพาหะนำโรค และพบมากในช่วงฤดูฝน พบการระบาดสูงขึ้นในปี 2566 เมื่อเทียบกับปี 2565 และอัตราการตายมีแนวโน้มสูงขึ้น พบได้ทุกกลุ่มวัย โดยเฉพาะกลุ่มเด็กโตอายุ 5-14 ปี การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาการดำเนินของโรค  เฝ้าระวังอาการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ เมื่อผู้ป่วยเข้าสู่ระยะวิกฤตและมีภาวะช็อกจากการรั่วของพลาสมา หากไม่ได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่ทำให้ผู้ป่วยมีอาการทรุดลงจนเสียชีวิตได้ ดังนั้นการใช้กระบวนการพยาบาลในการประเมินปัญหา การวินิจฉัยทางการพยาบาล การวางแผนการพยาบาล ปฏิบัติการพยาบาล และการประเมินผลลัพธ์ทางการพยาบาล อย่างถูกต้อง รวดเร็ว และครอบคลุม จะช่วยให้ผู้ป่วยพ้นภาวะวิกฤตได้อย่างปลอดภัย กรณีศึกษานี้ เป็นผู้ป่วยเด็กที่มารับการรักษาที่แผนกผู้ป่วยใน โรงพยาบาลบางพลี แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคไข้เลือดออก ซึ่งเมื่อเข้าสู่ระยะวิกฤต ผู้ป่วยเกิดภาวะวิกฤตหลายด้านทั้งภาวะ Hypovolemic shock การแข็งตัวของเลือดผิดปกติ ภาวะไม่สมดุลของเกลือแร่ในร่างกาย และมีภาวะน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอด มีความเสี่ยงสูงต่อการเสียชีวิตจากความรุนแรงของโรค ดังนั้นบทบาทที่สำคัญของพยาบาลคือ การเฝ้าระวังอาการเปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิด ความรวดเร็วในการรายงานแพทย์ การดูแลให้สารน้ำอย่างเคร่งครัด รวมถึงการให้ข้อมูลการรักษาพยาบาลเป็นระยะๆ ช่วยทำให้ผู้ป่วยและญาติคลายความวิตกกังวลลง และให้ความร่วมมือในการรักษาพยาบาล จนผู้ป่วยพ้นจากภาวะวิกฤตได้ โดยตระหนักถึงการดูแลที่ครอบคลุมทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์และสังคม