ประสิทธิผลของโปรแกรมการพัฒนาทักษะการพยาบาลทวารเทียมและความคงทนของความรู้ เรื่องทวารเทียมของพยาบาลวิชาชีพจบใหม่ โดยใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ โรงพยาบาลราชบุรี
คำสำคัญ:
ทวารเทียม, ทวารเทียม, โปรแกรมการพัฒนาทักษะการพยาบาลทวารเทียม, ความคงทนของการเรียนรู้เรื่องทวารเทียม, ความคงทนของความรู้, พยาบาลวิชาชีพจบใหม่บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์ : การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบความรู้และทักษะการพยาบาลทวารเทียมของพยาบาลวิชาชีพจบใหม่ก่อนและหลังได้รับโปรแกรมการพัฒนาทักษะผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และเพื่อศึกษาความคงทนของความรู้เกี่ยวกับการดูแลทวารเทียมในพยาบาลวิชาชีพจบใหม่
รูปแบบการวิจัย : การวิจัยนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง (Quasi-experimental research) โดยใช้การวัดผลแบบกลุ่มเดียวก่อนและหลังการทดลอง (One-group pretest-posttest design)
วิธีดำเนินการวิจัย : กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วยพยาบาลวิชาชีพจบใหม่ จำนวน 34 คน ที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลราชบุรีระหว่างปี พ.ศ. 2564 -2566 โปรแกรมการพัฒนาทักษะใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ในรูปแบบวิดีโอที่ครอบคลุมเนื้อหาเกี่ยวกับทวารเทียม 6 หัวข้อ เครื่องมือวิจัยประกอยด้วยแบบทดสอบความรู้เรื่องทวารเทียม จำนวน 20 ข้อ และแบบประเมินทักษะการพยาบาล จำนวน 15 ข้อ โดยมีการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ใช้และการทดสอบ Paired t-test และ Repeated measure ANOVA
ผลการวิจัย : ผลการวิจัยพบว่า ความรู้และทักษะการพยาบาลของพยาบาลวิชาชีพจบใหม่หลังจากได้รับโปรแกรม มีค่าสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value < 0.001) และความคงทนของความรู้ยังคงอยู่ในสัปดาห์ที่ 7
สรุปและข้อเสนอแนะ : ควรมีการพัฒนาระบบในการพยาบาลการดูแลทวารเทียมเพื่อใช้ประกอบการให้การพยาบาลทวารเทียมทุกขั้นตอนจนจำหน่ายเพื่อใช้ในการพยาบาลอย่างครบกระบวนการ
เอกสารอ้างอิง
กองยุทธศาสตร์และแผนงาน กระทรวงสาธารณสุข สถิติสรุปรายงานการป่วย พ.ศ. 2560. สรุปรายงานการป่วย พ.ศ.2560. https://spd.moph.go.th/wp-content/uploads/2023/04/ill_2560_full.pdf
นุชนาฏ สุทธิ และณัฏฐชา เจียรนิลกุลชัย. (2562). การออกแบบและพัฒนาแบบจำลองทวารเทียมสำหรับฝึกทักษะหัตถการดูแลทวารเทียม. รามาธิบดีพยาบาลสาร, 25(2), 227-241.
นูรมา อาลี. (2559). ผลการจัดการเรียนรู้แบบ 4 MAT ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนความคงทนในการเรียนรู้และความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิตไม่ได้ตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.
ภาสิต ศิริเทศ และณพวิทย์ ธรรมสีหา. (2562). ทฤษฎีการรับรู้ความสามารถของตนเองกับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพของสูงอายุ. วารสารพยาบาลทหารบก, 20(2), 58-65.
โรงพยาบาลราชบุรี. (2567). ข้อมูลสารสนเทศ โรงพยาบาลราชบุรี ปี 2562. โรงพยาบาลราชบุรี
วีรนุช เจียมบุญศรี, จุฑามาศ แก้วจันดี, และมนัสนันท์ ลิมปวิทยากุล. (2566) ประสิทธิผลของโปรแกรมการประยุกต์ใช้ทฤษฎีการรับรู้ความสามารถของตนเองร่วมกับแรงสนับสนุนทางสังคมต่อพฤติกรรมการป้องกันภาวะแทรกซ้อนของผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ที่มีทวารเทียม. วารสารวิทยาศาสตร์สุขภาพ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนี สรรพสิทธิประสงค์, 7(1), 80-90.
สุจินดา ลดาสุนทร, นิโรบล กนกสุนทรรัตน์, และสุชิรา ชัยวิบูลย์ธรรม. (2561). ผลของโปรแกรมการสื่อวีดีทัศน์ช่วยสอนต่อความรู้และทักษะการดูแลทวารเทียมในญาติผู้ดูแลผู้มีทวารเทียมรายใหม่. Rama Nurs J, 25(1), 43-57.
แสงหล้า พลนอก (ม.ป.ป.). แบบทดสอบความรู้ทวารเทียม [เอกสารที่ไม่ได้ตีพิมพ์]. ภาควิชาการพยาบาลพื้นฐาน คณะพยาบาลศาสตร์, มหาวิทยาลัยนเรศวร.
Brown, P. C., Roediger, H. L., & McDaniel, M. A. (2020). Make it stick: The science of successful learning. Harvard University Press.
Roediger, H. L., & Butler, A. C. (2011). The critical role of retrieval practice in long-term retention. Trends
Cogn Sci, 15(1), 20-7. https//doi.org/10.1016/j.tics.2010.09.003
World Health Organization. (2014). Overview; Self-care for health and well-being. https://www.who.int/health-topics/self-care#tab=tab_1