EFFECT OF PEOPLE BASED SAFETY (PBS) PROGRAM ON PERCEPTION AND ATTITUDE OF SAFETY AMONG MAINTENANCE WORKERS IN A PETROCHEMICAL FACTORY, RAYONG PROVINCE
Thanakit Pitakpeng
Abstract
การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบกึ่งทดลอง 1 กลุ่ม มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของโปรแกรม People Based Safety (PBS) ที่มีต่อการรับรู้ และทัศนคติด้านความปลอดภัย ของพนักงานฝ่ายซ่อมบำรุง โรงงานอุตสาหกรรมปิโตรเคมีแห่งหนึ่ง จังหวัดระยอง โปรแกรม PBS ที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้มีทั้งหมด 4 ขั้นตอน ประกอบด้วย 1) ชี้บ่งพฤติกรรมเป้าหมาย 2.) การสำรวจการรับรู้ และทัศนคติด้านความปลอดภัย 3) ดำเนินการส่งเสริมและปรับปรุงการรับรู้ และทัศนคติ 4) ทดสอบเพื่อวัดผล เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถาม แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ แบบสอบถามข้อมูลทั่วไป, แบบสอบถามการรับรู้ด้านความปลอดภัย และแบบสอบถามทัศนคติด้านความปลอดภัย ผลการศึกษากลุ่มตัวอย่างจำนวน 16 คน เป็นพนักงานชายทั้งหมด มีอายุ 30-39 ปี ร้อยละ 50.0 การศึกษาระดับ ปวส. ร้อยละ 50.0 เป็นตำแหน่งช่างเทคนิค ร้อยละ 50.0 ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุในช่วง 3 ปี ที่ผ่านมา ร้อยละ 81.2 มีประสบการณ์ทำงาน 3-5 ปี ร้อยละ 43.7 ผลการศึกษาการรับรู้ และทัศนคติด้านความปลอดภัย พบว่าคะแนนเฉลี่ย 35.1 ระดับการรับรู้ปานกลาง หลังทดลอง คะแนนเฉลี่ย 44.4 ระดับการรับรู้ดี ในส่วนทัศนคติด้านความปลอดภัย คะแนนเฉลี่ย 74.4 ระดับทัศนคติปานกลาง หลังทดลอง คะแนนเฉลี่ย 95.1 ระดับทัศนคติดีซึ่งค่าเฉลี่ยระดับการรับรู้ และทัศนคติด้านความปลอดภัยของพนักงาน พบว่า ก่อนและหลังดำเนินโปรแกรม PBS มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 การศึกษาครั้งนี้สามารถนำโปรแกรม PBS ไปเป็นแนวทางประยุกต์ใช้เพื่อสร้างการรับรู้ และทัศนคติด้านความปลอดภัย อันจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยส่งผลให้องค์กรเกิดวัฒนธรรมความปลอดภัยได้ต่อไป
คำสำคัญ : โปรแกรม People Based Safety (PBS), การรับรู้ด้านความปลอดภัย, ทัศนคติด้านความปลอดภัย, โรงงานอุตสาหกรรมปิโตรเคมี
Published
Issue
Section
License
Copyright (c) 2022 SAFETY & ENVIRONMENT REVIEW

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
This article is published under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License (CC BY-NC-ND 4.0), which allows others to share the article with proper attribution to the authors and prohibits commercial use or modification. For any other reuse or republication, permission from the journal and the authors is required.