การพัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยที่ได้รับยาวาร์ฟารินแบบสหวิชาชีพ โดยใช้แนวคิด การจัดการตนเองร่วมกับการจัดการรายกรณี โรงพยาบาลนาหว้า จังหวัดนครพนม
The Development of Multidisciplinary Care System for Patients Receiving Warfarin by Using Self-management Combined with Case Management in Nawa Hospital Nakhon Phanom Province
คำสำคัญ:
การพัฒนาระบบ, การดูแลผู้ป่วยที่ได้รับยาวาร์ฟาริน, การจัดการตนเอง, การจัดการรายกรณีบทคัดย่อ
การวิจัยเชิงปฏิบัติการนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและประเมินผลระบบการดูแลผู้ป่วยที่ได้รับยาวาร์ฟาริน
แบบสหวิชาชีพ โดยใช้แนวคิดการจัดการตนเองร่วมกับการจัดการรายกรณี โรงพยาบาลนาหว้า จังหวัดนครพนม ระยะเวลาการวิจัยตั้งแต่เดือนเมษายน – ตุลาคม 2566 ผู้ร่วมวิจัย ประกอบด้วย 1) กลุ่มผู้พัฒนาระบบ 10 คน 2) กลุ่มผู้ร่วมวิจัยคือผู้ป่วยที่ได้รับยาวาร์ฟาริน ที่คลินิกวาร์ฟาริน โรงพยาบาลนาหว้า 40 คน เลือกผู้เข้าร่วมการวิจัยโดยวิธีเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบทดสอบความรู้ในการดูแลตนเอง แบบสอบถามการปฏิบัติตัว แบบติดตามการเกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาวาร์ฟาริน และแบบประเมินความพึงพอใจของผู้ป่วย วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน วิเคราะห์เปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยความรู้ในการดูแลตนเอง การปฏิบัติในการดูแลตนเอง และความพึงพอใจ ของผู้ป่วยที่ได้รับยาวาร์ฟาริน ก่อนและหลังการพัฒนาระบบ โดยใช้สถิติ t-test (paired samples) และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ โดยการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) ผลการวิจัยพบว่า
- ผลเชิงกระบวนการ เกิดระบบการดูแลผู้ป่วยที่ได้รับยาวาร์ฟาริน บุคลากรทางการแพทย์มีแนวปฏิบัติในการดูแลผู้ป่วยที่ได้รับยาวาร์ฟาริน (CPG) ที่ชัดเจนร่วมกัน มีการจัดประเภทการดูแลผู้ป่วยที่ได้รับยาวาร์ฟารินตามค่า International Normal Ratio (INR) จัดคลินิกวาร์ฟารินแบบ one stop มีทีมสหวิชาชีพให้บริการ และผู้ป่วยมีคู่มือการจัดการตนเองสำหรับผู้ป่วยที่ได้รับยาวาร์ฟาริน
- ผลเชิงผลลัพธ์
2.1 ผู้ป่วยได้รับการดูแลต่อเนื่องตามตัวชี้วัดที่พัฒนาขึ้น
2.2 หลังพัฒนาระบบ ผู้ป่วยมีคะแนนเฉลี่ยความรู้ การปฏิบัติ และความพึงพอใจ สูงกว่าก่อนพัฒนาระบบ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p< 0.05)
เอกสารอ้างอิง
กรมการแพทย์. แนวทางเวชปฏิบัติโรคลิ้นหัวใจพิการสำหรับโรงพยาบาลระดับปฐมภูมิ (Vulvular heart disease for primary medical care). กรุงเทพ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทยจำกัด; 2565.
สมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์. แนวทางการรักษาผู้ป่วยด้วยยาต้านการแข็งตัวของเลือดชนิดรับประทาน พ.ศ.2553. กรุงเทพฯ: สหพัฒนการพิมพ์; 2554.
Lilley, L. L, Collins, S. R., & Snyder, J. S. Pharmacology and the nursing process (10th ed). St. Louis, Missouri: Elsevier; 2023.
โรงพยาบาลนาหว้า. สรุปผลการดำเนินงานการดูแลผู้ป่วยในคลินิกวาร์ฟารินโรงพยาบาลนาหว้า ปี 2566. คณะกรรมทีมนำด้านคลินิก (PCT) โรงพยาบาลนาหว้า; 2566.
ติยารัตน์ ภูติยา. การพัฒนารูปแบบการบริบาลทางเภสัชกรรมสำหรับการดูแลผู้ป่วยในคลินิกวาร์ฟาริน โรงพยาบาลโขงเจียม อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี. ว.วิจัยสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี 12(1): 58-69; 2566.
นุชรีย์ ทองเจิม และ จิราภรณ์ อินแก้ว. ประสิทธิผลของการจัดการรายกรณีในผู้ป่วยที่ได้รับยาวาร์ฟาริน โรงพยาบาลอ่าวลึก จังหวัดกระบี่. วารสารกระบี่เวชสาร 4(1): 47-55; 2564.
วิทยา วิริยะมนต์ชัย. การพัฒนารูปแบบการดูแลผู้ป่วยที่ได้รับยาวาร์ฟารินในโรงพยาบาลปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี โดยใช้การคิดเชิงออกแบบเป็นฐาน. ว.สมาคมเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย 10(1): 118-131; 2563.
รุจิรา บุตรจันทร์, สงครามชัย ลีทองดี และ รับขวัญ เชื้อลี. การพัฒนารูปแบบคุณภาพบริการคลินิกวาร์ฟาริน ตามเกณฑ์การพัฒนาระบบบริการสุขภาพ โรงพยาบาลบุณฑริก จังหวัดอุบลราชธานี. ว.วิจัยสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี 8(1): 39-55; 2562.
