การพยาบาลผู้ป่วยหัวใจเต้นผิดจังหวะที่ได้รับการรักษาด้วยการจี้ไฟฟ้าหัวใจ ด้วยคลื่นความถี่วิทยุ: กรณีศึกษา 2 ราย

Nursing care for tachycardia patients undergoing radiofrequency ablation : A comparative study of 2 cases

ผู้แต่ง

  • จริยาภรณ์ แก้วแสนคำ โรงพยาบาลสกลนคร

คำสำคัญ:

การพยาบาลภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ, การจี้ไฟฟ้าหัวใจด้วยคลื่นความถี่วิทยุ

บทคัดย่อ

ภาวะหัวใจเต้นเร็วผิดจังหวะ ชนิด atrioventricular nodal reentrant tachycardia (AVNRT) พบได้บ่อยในผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจเต้นเร็วผิดจังหวะ (Cardiac tachycardia) ในปัจจุบันการรักษาหลักเพื่อป้องกันการเกิดซ้ำคือการจี้ไฟฟ้าหัวใจด้วยคลื่นความถี่วิทยุ (radio frequency ablation: RCFA) กรณีศึกษานี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้กระบวนการพยาบาลตามทฤษฎีทางการพยาบาลแบบองค์รวมมาประยุกต์ใช้ในการให้การพยาบาลผู้ป่วยหัวใจเต้นเร็วผิดจังหวะที่ได้รับการรักษาด้วยการจี้ไฟฟ้าหัวใจด้วยคลื่นความถี่วิทยุโดยศึกษาแบบเฉพาะเจาะจงในผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดปกติที่ได้รับการรักษาด้วยการจี้ไฟฟ้าหัวใจด้วยคลื่นความถี่วิทยุ จำนวน 2 ราย ที่เข้ารักษาในหน่วยสวนหัวใจโรงพยาบาลสกลนคร โดยศึกษาประวัติผู้ป่วย การรักษาพยาบาล รวบรวมข้อมูลจากผู้ป่วยและญาติและเวชระเบียน นำมากำหนดข้อวินิจฉัยและให้การพยาบาล ทั้งนี้เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนามาตรฐานการพยาบาลในห้องตรวจสวนหัวใจ  และหอผู้ป่วยที่รับผู้ป่วยก่อนและหลังการจี้ไฟฟ้าหัวใจได้อย่างครอบคลุม รวมทั้งสามารถวางแผนการพยาบาลผู้ป่วยในระยะต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป

 ผลการศึกษา: พบว่าผู้ป่วยทั้ง 2 ราย มีความเหมือนและแตกต่างกันในด้านปัจจัยต่างๆ โดยมีความแตกต่างกันในประเด็น อาการและอาการแสดงก่อนวินิจฉัยโรค ผลของการรักษา การวางแผนการจำหน่าย และมีความเหมือนกัน ในส่วนของการวินิจฉัยโรค การพยาบาลระยะก่อน ขณะและหลังทำหัตถการ ข้อวินิจฉัยการพยาบาล ระยะเวลาการพักรักษาตัวในโรงพยาบาล หลังจากให้การพยาบาลโดยใช้กระบวนการพยาบาลอย่างครอบคลุมองค์รวมทำให้ผู้ป่วยปลอดภัยสามารถจำหน่ายกลับบ้านได้ ครอบครัวและญาติมีส่วนร่วมในการดูแลผู้ป่วย  และสามารถดูแลผู้ป่วยอย่างต่อเนื่องได้เมื่อกลับบ้าน

สรุป:  จากการศึกษาครั้งนี้จะมีความเฉพาะเจาะจงกับข้อมูลผู้ป่วยที่ได้ทำการศึกษาเท่านั้น ซึ่งกระบวนการพยาบาลนี้ พยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์สามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้สอดคล้องกับลักษณะของผู้ป่วย  และบริบทของหน่วยงาน เพื่อพัฒนาคุณภาพการดูแลผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะชนิดเร็วต่อไป

เอกสารอ้างอิง

พีรพัฒน์ เกตุค้างพลู. (2562). แนวทางใหม่ในการรักษาภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ (Update in cardiac arrhythmia treatments). วารสารกรมการแพทย์ม, 5, 23-31.

สินีนาฏ อุ้ยคัชชะ. (2564). อัตราการเกิดโรคซ้ำในผู้ป่วยโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะเอวีเอ็นอาร์ทีหลังจี้ด้วยคลื่นวิทยุหลังงานต่ำ.พุทธชินราชเวชสาร, 1, 62-70.

โรงพยาบาลสกลนคร. (2566). สถิติผู้ป่วยที่เข้ารับบริการห้องสวนหัวใจ. โรงพยาบาลสกลนคร.

สุรีย์ เลขวรรณวิจิตร. (2556). พยาธิวิทยาของโรคหัวใจ. คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 1, 33-81

นุชจรี นักไร่. (2559). คู่มือการพยาบาลผู้ป่วยภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะชนิดเร็วที่ได้รับการรักษาโดยการจี้ไฟฟ้าหัวใจด้วยคลื่นวิทยุผ่านสายสวน. งานการพยาบาลระบบหัวใจและหลอดเลือด คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล.

David J. Wilber, Douglas L. Packer and William G. Stevenson. (2008). Catheter ablation of cardiac arrhythmias: Basic concepts and clinical applications . Pennsylvania:Blackwell futura. https://onlinelibrary.wiley.com/doi/book/10.1002/9780470696279

สุรีย์ ธรรมิกบวร. (2554). การพยาบาลองค์รวม: กรณีศึกษา. กรุงเทพฯ: ธนาเพลส จำกัด

นงณภัทร รุ่งเนย. (2560). การประเมินสุขภาพแบบองค์รวม. พิมพ์ครั้งที่ 2. นนทบุรี: โครงการสวัสดิการวิชาการสถาบันพระบรมราชชนก

อุมาพร ขานหัวโขน. (2561). คู่มือการปฏิบัติงานการพยาบาลผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาโดยการจี้ไฟฟ้าหัวใจด้วยคลื่นความถี่วิทยุ ในผู้ป่วยภาวะหัวใจเต้นเร็วผิดจังหวะ ชนิด AVNRT.งานห้องตรวจสวนหัวใจ ฝ่ายปฏิบัติการศูนย์หัวใจสิริกิติ์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น.

อมรรัตน์ แสงใสแก้ว และพัชนี สมกำลัง. (2560). การประยุกต์ใช้แนวคิดการพยาบาลแบบองค์รวมในผู้ป่วยหลังผ่าตัดกระดูกสันหลังระดับเอว. วารสารมหาวิทยาลัยนครพนม ฉบับการประชุมวิชาการครบรอบ 25 ปี,203-208.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2024-04-01

รูปแบบการอ้างอิง

แก้วแสนคำ จ. . (2024). การพยาบาลผู้ป่วยหัวใจเต้นผิดจังหวะที่ได้รับการรักษาด้วยการจี้ไฟฟ้าหัวใจ ด้วยคลื่นความถี่วิทยุ: กรณีศึกษา 2 ราย: Nursing care for tachycardia patients undergoing radiofrequency ablation : A comparative study of 2 cases. วารสารการพยาบาลและวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยนครพนม, 2(1), e2159. สืบค้น จาก https://he03.tci-thaijo.org/index.php/bcnnjournal/article/view/2159