พฤติกรรมทางเพศที่มีความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งที่มีเชื้อ Human papillomavirus (HPV) เป็นตัวก่อโรค ของวัยรุ่นในเขตสุขภาพที่ 9

ผู้แต่ง

  • สุกัญญา รอดอารีย์ Lahansai Hospital
  • กุลชญา ลอยหา
  • ปัทมา ล้อพงค์พานิชย์

คำสำคัญ:

พฤติกรรมทางเพศ , โรคมะเร็งที่มีเชื้อ Human papillomavirus (HPV) เป็นตัวก่อโรค , วัยรุ่น

บทคัดย่อ

           การวิจัยแบบภาคตัดขวางเชิงวิเคราะห์นี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมทางเพศที่มีความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งที่มีเชื้อ Human papillomavirus (HPV) เป็นตัวก่อโรค ของวัยรุ่นในเขตสุขภาพที่ 9 คำนวณขนาดตัวอย่างกำหนดขนาดตัวอย่างโดยเปิดตารางของ Krejcie & Morgan ทำการสุ่มตัวอย่างด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน จากนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย ม.4-ม.6 ในเขตสุขภาพที่ 9 จำนวน 384 คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม โดยมีค่าสัมประสิทธิ์อัลฟา (Alpha Coefficient) ของ Cronbach  เท่ากับ 0.84 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติพรรณนา ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ สถิติอนุมานใช้ Binary logistic regression analysis และ Multivariable logistic regression analysis เพื่อหาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมทางเพศที่มีความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งที่มีเชื้อ Human papillomavirus (HPV) เป็นตัวก่อโรคของวัยรุ่นในเขตสุขภาพที่ 9 ซึ่งกำหนดนัยสำคัญทางสถิติที่ P-value<.05

          ผลการวิจัยพบว่า ปัจจัยด้านเพศ เกรดเฉลี่ย รายได้เฉลี่ยต่อเดือน ความรู้เกี่ยวกับการป้องกัน ทัศนคติเกี่ยวกับบทบาทตามเพศวิถีในวัยรุ่น การรับรู้ต่อโอกาสเสี่ยงของการเกิดโรค การรับรู้ต่อความรุนแรงของ การรับรู้ประโยชน์ของการปฏิบัติเพื่อป้องกัน การรับรู้ต่อการรับรู้อุปสรรคของการปฏิบัติตนเพื่อป้องกันโรค สิ่งชักนำหรือแรงสนับสนุนทางสังคมสู่การปฏิบัติป้องกันโรค การรับรู้ตามแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพเกี่ยวกับโรคมะเร็งที่มีเชื้อ Human papillomavirus (HPV) ในภาพรวม และปัจจัยด้านทักษะพฤติกรรม (การรับรู้ความสามารถในการปฏิเสธพฤติกรรมที่นำไปสู่การมีเพศสัมพันธ์) มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมทางเพศที่มีความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งที่มีเชื้อ Human papillomavirus (HPV) เป็นตัวก่อโรค อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ P-value<.05 ส่วนปัจจัยด้านอายุ ระดับชั้นการศึกษา และสถานภาพครอบครัว พบว่า มีความสัมพันธ์อย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ

เอกสารอ้างอิง

กรมสุขภาพจิต. พฤติกรรมวัยรุ่น: ปัญหาสุขภาพจิตในปัจจุบัน. นนทบุรี: กระทรวงสาธารณสุข; 2559.

กองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค. สถานการณ์โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในประเทศไทย ปี พ.ศ. 2555-2560. นนทบุรี: กระทรวงสาธารณสุข; 2564.

กรมควบคุมโรค. สถานการณ์โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในประเทศไทย ปี 2564. นนทบุรี: กระทรวงสาธารณสุข; 2564.

UNAIDS. 2012 UNGASS Global AIDS Response Country Progress Report in Thailand. Geneva: UNAIDS; 2013.

Sirian J, Guest F. The influence of alcohol and substance abuse on sexual behavior among youth. J Youth Stud 2013;15(3):257-68.

Jensen KE, Schmiedel S, Norrild B, Frederiksen K, Iftner T, Kjaer SK. Human papillomavirus genotypes in cervical and other HPV-related cancers, and implications for vaccination strategies. Future Microbiol 2014;9(3):237-50.

สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์. รายงานสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัส Human Papilloma Virus (HPV) ในประเทศไทย. นนทบุรี: กระทรวงสาธารณสุข; 2564.

Forman D, de Martel C, Lacey CJ, et al. Global burden of cancers attributable to infections in 2012: a synthetic analysis. Lancet Glob Health 2016;4(9):114-19.

ทิพย์สุดา เครือยศ, ธนวรรณ สำลีรัตน์. การศึกษาการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อเอชพีวีในกลุ่มวัยรุ่น. วารสารวิทยาศาสตร์สุขภาพ 2559;18(1):45-56.

Supaattagorn P, Wongmek N, Chairat W. Knowledge and attitudes about HPV among high school students in Nakhon Ratchasima Province. J Public Health Dev 2022;20(3):25-34.

Jit M, Brisson M, Portnoy A, Hutubessy R. Cost-effectiveness of female human papillomavirus vaccination in 179 countries: a PRIME modelling study. Lancet Glob Health 2019;7(11):e1340-e1353.

Pendergrass L, Ma Y, Walker T. HPV Awareness, Vaccination Status, and Preventative Behavior Among College Students. J Am Coll Health 2021;69(4):453-60.

สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข. การทบทวนวรรณกรรมระบบเกี่ยวกับพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศของวัยรุ่นไทย. กรุงเทพฯ: สวรส.; 2565.

สำนักงานเขตสุขภาพที่ 9. รายงานสถิติและข้อมูลนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ปีการศึกษา 1/2566. กรุงเทพมหานคร: กระทรวงศึกษาธิการ; 2566.

Krejcie RV, Morgan DW. Determining sample size for research activities. Educ Psychol Meas 1970;30(3):607-10.

Cronbach LJ. Coefficient alpha and the internal structure of tests. Psychometrika 1984;16(3):297-334.

พัชราพร ควรรณสุ, ธนพงษ์ ภูมิพันธ์, ชลธิชา พิพัฒน์อานันท์. การตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ของวัยรุ่นหญิงในจังหวัดนครพนม. วารสารวิจัยและพัฒนาสุขภาพ 2562;14(2):123-35.

พีระดา มานพพิรุฬห์, ธวัชชัย สุทธิเมธา, นฤมล พัฒนาวิทย์. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 54 อำเภอเมืองอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ. วารสารสุขภาพและการแพทย์ 2563;21(3):201-10.

ศิริพร ศรีอินทร์. ปัจจัยทำนายการตั้งครรภ์โดยไม่ตั้งใจในวัยรุ่น อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี. วารสารวิจัยและพัฒนาสุขภาพ 2564;15(2):89-101.

ณิชาภัทร ปุ่นมีกิจ, ธนวรรณ ศรีสุข, อรพินท์ สืบสาย. ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศของนักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นเมืองพัทยา. วารสารวิจัยการศึกษา 2563;12(2):112-24.

Folch C, García-Linares MC, Montero E, et al. Factors associated with unprotected sex among general men, temporary male partners, and female sex workers having sex with men in Barcelona, Spain. AIDS Behav 2007;11(5):711-20.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

16-06-2025

รูปแบบการอ้างอิง

1.
รอดอารีย์ ส, ลอยหา ก, ล้อพงค์พานิชย์ ป. พฤติกรรมทางเพศที่มีความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งที่มีเชื้อ Human papillomavirus (HPV) เป็นตัวก่อโรค ของวัยรุ่นในเขตสุขภาพที่ 9. Health. R10. J. [อินเทอร์เน็ต]. 16 มิถุนายน 2025 [อ้างถึง 9 ธันวาคม 2025];13(1):65-89. available at: https://he03.tci-thaijo.org/index.php/HPC10Journal/article/view/4092