สุขภาพช่องปากของแม่: พื้นฐานสำคัญสำหรับสุขภาพลูกในครรภ์
คำสำคัญ:
การดูแลสุขภาพช่องปาก, แม่และเด็กปฐมวัยบทคัดย่อ
บทนำ
สุขภาพช่องปากของแม่มีผลกระทบต่อชีวิตของลูกในท้องมากกว่าที่ทุกคนคิด เพราะเมื่อแม่เกิดการตั้งครรภ์จะมีการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน ทำให้เหงือกอักเสบได้ง่ายกว่าปกติ มีโอกาสเป็นโรคปริทันต์รุนแรง(1) และเกิดการคลอดก่อนกำหนด ทั้งยังเสี่ยงคลอดลูกน้ำหนักตัวน้อย(2, 3) อีกทั้งพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่เปลี่ยนไปเมื่อเริ่มตั้งครรภ์ เช่น การรับประทานอาหารว่างบ่อยครั้งมากขึ้น รวมถึงพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากที่เปลี่ยนไป เช่น บางท่านมีอาการแพ้ท้องรุนแรง การแปรงฟันอาจกระตุ้นการอาเจียน ทำให้ไม่สามารถดูแลสุขภาพช่องปากได้เต็มที่เช่นเดิม จึงเกิดโรคฟันผุ ได้ง่ายกว่าคนทั่วไป โดยคุณแม่ที่มีโรคฟันผุแต่ยังไม่ได้รับการรักษา มีโอกาสที่จะส่งต่อเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดฟันผุสู่ลูกผ่านทางน้ำลาย เช่น การเป่า เคี้ยว กัดแบ่งอาหาร จากข้อมูล พบว่า เด็กที่แม่มีสุขภาพช่องปากไม่ดีจะมีปัญหาสุขภาพช่องปากมากกว่าเด็กที่แม่มีสุขภาพช่องปากดีถึง 5 เท่า(4) จากข้อมูลคลังข้อมูลสุขภาพ Health Data Center (HDC) ในเขตสุขภาพที่ 10 เดือนกุมภาพันธ์ 2568 จำนวนหญิงตั้งครรภ์ที่ได้รับการตรวจฟันและวางแผนการรักษามีเพียงร้อยละ 58.94 เท่านั้น แสดงให้เห็นว่ายังมีคุณแม่บางกลุ่มที่ลืมนึกถึงการดูแลสุขภาพช่องปากของตนก่อนคลอดทั้งที่เป็นช่วงที่มีความเสี่ยงในการเกิดโรคในช่องปากอย่างยิ่ง
เนื้องอกจากการตั้งครรภ์ (Pregnancy tumor)(5) เป็นโรคในช่องปากที่พบได้มากที่สุดในหญิงตั้งครรภ์ อาการชัดเจนในช่วง ไตรมาสที่ 2 และ 3 มีอาการรุนแรงมากที่สุดในช่วงเดือนที่ 8 ลักษณะของเหงือกจะบวมแดง ตอนแปรงฟันมักจะมีเลือดซึมออกบริเวณซอกฟัน ซึ่งเป็นบริเวณที่ทำความสะอาดได้ยาก เมื่อปล่อยนานเข้าจะเกิดหินปูนหรือหินน้ำลายร่วมด้วย มองเห็นเป็น แถบสีขาว ออกเหลืองแข็ง แปรงไม่ออกเป็นที่สะสมของเชื้อโรค ทำให้เกิดการอักเสบของเหงือกรุนแรงมากขึ้นได้ นอกจากการอักเสบของเหงือกจากเชื้อแบคทีเรียแล้ว การบวมของเหงือกที่มีลักษณะเป็นก้อนระหว่างฟัน (อาจเกิดบางจุดหรือเกิดทั้งปาก) ทั้งนี้ก้อนเนื้อที่ว่าจะมีขนาดค่อย ๆ เล็กลง และหายไปหลังคลอด ในบางคนเล็กลงแต่ไม่หายไป อาจต้องให้คุณหมอรักษาด้วยการตัดออก
เอกสารอ้างอิง
Carpenter W, Glick M, Nelson S, Roser S, Patton L. American Dental Association Council on Access, Prevention,
and Intserprofessional Relations. Women’s Oral Health. 2009.
Dasanayake AP. Poor periodontal health of the pregnant woman as a risk factor for low birth weight. Annals of
periodontology. 1998;3(1):206-12.
Jeffcoat MK, GEURS NC, REDDY MS, CLIVER SP, GOLDENBERG RL, HAUTH JC. Periodontal infection and preterm
birth: results of a prospective study. The Journal of the American Dental Association. 2001;132(7):875-80.
Brambilla E, FELLONI A, GAGLIANI M, MALERBA A, GARCIÍA-GODOY F, STROHMENGER L. Caries prevention during
pregnancy: results of a 30-month study. The Journal of the American Dental Association. 1998;129(7):871-7.
Daley, Tom D., Nii O. Nartey, and George P. Wysocki. "Pregnancy tumor: an analysis." Oral surgery, oral medicine,
oral pathology. 1991;72(2):196-199.
Whitaker EJ. Primary, secondary and tertiary treatment of dental caries: a 20-year case report. The Journal of the
American Dental Association. 2006;137(3):348-52.
Chiodo, Gary T., and David I. Rosenstein. "Dental treatment during pregnancy: a preventive approach." The
Journal of the American Dental Association. 1985;110(3): 365-368.
กรมอนามัย. คู่มือการฝากครรภ์ สำหรับบุคลากรสาธารณสุข. 2565:53-57.
Marinho VC, Higgins JP, Logan S, Sheiham A, Group COH. Topical fluoride (toothpastes, mouthrinses, gels or
varnishes) for preventing dental caries in children and adolescents. Cochrane Database of Systematic Reviews.
;2010(1).
Worthington HV, MacDonald L, Pericic TP, Sambunjak D, Johnson TM, Imai P, et al. Home use of interdental
cleaning devices, in addition to toothbrushing, for preventing and controlling periodontal diseases and dental
caries. Cochrane Database of Systematic Reviews. 2019(4).
กรมการแพทย์. แนวทางการตรวจสุขภาพที่จำเป็นและเหมาะสมสำหรับประชาชน ฉบับปรับปรุง 2565.
Weintraub J, Prakash P, Shain S, Laccabue M, Gansky S. Mothers’ caries increases odds of children’s caries.
Journal of dental research. 2010;89(9):954-8.
Bennadi D, Reddy C. Oral health related quality of life. Journal of international society of preventive and
community dentistry. 2013;3(1):1-6.