ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการป้องกันโรคพยาธิใบไม้ตับของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ตำบลธาตุ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี
คำสำคัญ:
พฤติกรรมการป้องกันโรคพยาธิใบไม้ตับ, อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน, ปัจจัยทำนายบทคัดย่อ
การวิจัยแบบภาคตัดขวาง มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพทำนายพฤติกรรมการป้องกันโรคพยาธิใบไม้ตับของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน จังหวัดอุบลราชธานี กลุ่มตัวอย่างคือ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ตำบลธาตุ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 84 คน มีการคัดเลือกกลุ่มตัวอย่างโดยการใช้วิธีการสุ่มอย่างง่าย เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น ระหว่างวันที่ 20 กรกฎาคม 2566 – 15 กันยายน 2566 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และใช้สถิติเชิงอนุมานในการหาปัจจัยทำนายด้วยการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณแบบ Stepwise ผลการวิจัยพบว่า กลุ่ม อสม. ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ไม่มีโรคประจำตัว ระดับการศึกษาสูงสุด ชั้นประถมศึกษา อาชีพหลักคือ เกษตรกร มีรายได้เฉลี่ย 5,676.19 บาทต่อเดือน ระยะเวลาในการเป็น อสม. เฉลี่ย 13.42 ปี เข้ามาเป็น อสม. โดยได้รับการคัดเลือก มีประวัติการตรวจอุจจาระหาไข่พยาธิทุกปี มีประวัติการรับประทานอาหารดิบ ไม่เคยฝึกอบรมเรื่องการป้องกันโรคพยาธิใบไม้ตับ ไม่เคยมีประวัติป่วยและไม่เคยมีบุคคลในครอบครัวเคยป่วยเป็นโรคพยาธิใบไม้ตับ การรับรู้แบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพต่อโรคของกลุ่ม อสม. พบว่า การรับรู้โอกาสเสี่ยงของการเป็นโรคอยู่ในระดับปานกลาง การรับรู้ความรุนแรงของโรคอยู่ในระดับสูง การรับรู้ประโยชน์ของการป้องกันโรคอยู่ในระดับสูง การรับรู้อุปสรรคของการป้องกันโรคอยู่ในระดับต่ำ และพฤติกรรมการป้องกันโรคพยาธิใบไม้ตับอยู่ในระดับปานกลาง ปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการป้องกันโรคพยาธิใบไม้ตับของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 จำนวน 2 ตัวแปร คือ การรับรู้ประโยชน์ของการป้องกันโรคพยาธิใบไม้ตับ สามารถอธิบายความผันแปร ได้ร้อยละ 48.5 (R2 = 0.485) และประวัติการรับประทานอาหารดิบ สามารถร่วมกันอธิบายความผันแปร ได้ร้อยละ 61.4 (R2 = 0.614, R2adj = 0.605, P < 0.001) ดังนั้น จึงควรมีการพัฒนาการสร้างนวัตกรรมรูปแบบการส่งเสริมพฤติกรรมการป้องกันโรคพยาธิใบไม้ตับของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เน้นไปที่การกระตุ้นการรับรู้ประโยชน์ของการป้องกันโรค โดยเน้นการสื่อสารการป้องกันโรคพยาธิใบไม้ตับ ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยลดโอกาสการเจ็บป่วย แต่ยังเพิ่มคุณภาพชีวิตของตนเองและครอบครัวในระยะยาว รวมไปถึงการจัดกิจกรรมรณรงค์ การมีสื่อสุขภาพที่แสดงผลลัพธ์ด้านสุขภาพจากการป้องกันอย่างมีประสิทธิภาพ นำเสนอข้อมูลของบุคคลต้นแบบที่สามารถดูแลสุขภาพได้อย่างถูกต้อง แนะนำเลี่ยงการบริโภคอาหารดิบและปฏิบัติตามสุขอนามัยที่ดี จะช่วยสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนปฏิบัติตามแนวทางป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด ซึ่งอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เป็นกำลังสำคัญในการดำเนินกิจกรรมและเป็นตัวแทนในการสื่อสารประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบความรุนแรงของโรค เพื่อให้เกิดความตระหนักในการป้องกันโรคอย่างยั่งยืน
เอกสารอ้างอิง
กรมควบคุมโรค. แนวทางการดําเนินงานป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพสำหรับพื้นที่ ประจำปี 2564 ภายใต้แผนพัฒนาด้านการป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพของประเทศ ระยะ 20 ปี พ.ศ. (2561-2580) [อินเทอร์เน็ต]. 2564 [เข้าถึงเมื่อ 10 กันยายน 2567]. เข้าถึงได้จาก: https://ddc.moph.go.th/dsp
Health Information System Development Office (HISO). สถิติสุขภาพประเทศไทย [อินเทอร์เน็ต]. [เข้าถึงเมื่อ 13 สิงหาคม 2567]. เข้าถึงได้จาก: https://www.hiso.or.th/thaihealthstat/topic/index.php?t=02&m=01
กระทรวงสาธารณสุข. อัตราตายจากมะเร็งตับ [อินเทอร์เน็ต]. 2561 [เข้าถึงเมื่อ 17 สิงหาคม 2567]. เข้าถึงได้จาก: http://healthkpi.moph.go.th/kpi2/kpi-list/view/?id=786
สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ. สช.ร่วมงานมหกรรมการตรวจคัดกรองโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี [อินเทอร์เน็ต]. [เข้าถึงเมื่อ 17 สิงหาคม 2567]. เข้าถึงได้จาก: https://www.nationalhealth.or.th/th/node/4840
อมราภรณ์ พุทโธ. บทบาทของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านในการป้องกันและควบคุมโรคมะเร็งท่อน้ำดีตำบลหมูม่น อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี. วารสารอนามัยสิ่งแวดล้อมและสุขภาพชุมชน. 2562;4(1):51-9.
กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย. คู่มือมาตรฐานงานสาธารณสุขมูลฐาน [อินเทอร์เน็ต]. [เข้าถึงเมื่อ 17 สิงหาคม 2567]. เข้าถึงได้จาก: https://www.dla.go.th/upload/ebook/column/2018/4/2219_5986.pdf
จุฬาภรณ์ โสตะ. แนวคิด ทฤษฎี และการประยุกต์ใช้เพื่อการพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ. พิมพ์ครั้งที่ 3. ขอนแก่น; คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น; 2554.
อรุณ จิรวัฒน์กุล และคณะ. ชีวสถิติ. พิมพ์ครั้งที่ 4. ขอนแก่น: ภาควิชาชีวสถิติและประชากรศาสตร์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น; 2550.
ธีรศักดิ์ พรหมพันใจ. ปัจจัยที่มีอิทธิพลตอความตั้งใจในการปองกันโรคพยาธิใบไมตับของชาวบานในหมูบาน แหงหนึ่งของจังหวัดชัยภูมิ [อินเทอร์เน็ต]. [เข้าถึงเมื่อ 17 สิงหาคม 2567]. เข้าถึงได้จาก: https://odpc9.ddc.moph.go.th/Research/Teerasak4-2558.pdf
Rosenstock IM. Historical origins of the Health Belief Model. Health Educ Monogr. 1974;2:328-35.
สุรพจน์ มูลยะเทพ, วิไลลักษณ์ บุณยัษเฐียร, ดอกแก้ว ตามเดช. ความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมการป้องกันโรคพยาธิใบไม้ตับของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา จังหวัดพะเยา [อินเทอร์เน็ต]. [เข้าถึงเมื่อ 17 สิงหาคม 2567]. เข้าถึงได้จาก: https://pyo.moph.go.th/research_phayao/download.php?id=36
กิตติพงษ์ พรมพลเมือง. การศึกษาปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคพยาธิใบไม้ตับของประชาชนในพื้นที่อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู. [ปริญญานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต]. ขอนแก่น: คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น; 2557.
ขจรศักดิ์ พันธ์ชัย และคณะ.ปัจจัยที่ส่งผลต่อการบริโภคปลาดิบของประชาชน ตําบลเหล่ากวาง อําเภอโนนคูณ จังหวัดศรีสะเกษ. วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี. 2565;11(1):6-15.
สุพัฒน์ ในทอง และอารี บุตรสอน.ปัจจัยทำนายการติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับซ้ำของประชาชน อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ. วารสารอนามัยสิ่งแวดล้อม และสุขภาพชุมชน. 2566;8(2):75-87.



อัพเดต : วันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 
