ผลของโปรแกรมการเตรียมความพร้อมต่อความรู้และความวิตกกังวล ของผู้ป่วยมะเร็งที่จะเข้ารับรังสีรักษา แผนกผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต
คำสำคัญ:
โปรแกรมการเตรียมความพร้อม, ความวิตกกังวล, ผู้ป่วยมะเร็งที่จะเข้ารับรังสีรักษาบทคัดย่อ
การวิจัยเชิงกึ่งทดลอง แบบกลุ่มเดียววัดผลก่อนและหลังการทดลองนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบคะแนนความรู้และคะแนนความวิตกกังวลของผู้ป่วยมะเร็งที่จะเข้ารับรังสีรักษาก่อนและหลังได้รับโปรแกรมการเตรียมความพร้อม กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยมะเร็งที่จะเข้ารับรังสีรักษาแผนกผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต จำนวน 43 ราย สุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ 1) โปรแกรมการเตรียมความพร้อมประกอบด้วยการให้ข้อมูล การสร้างแรงจูงใจ และการสอนทักษะที่จำเป็น เป็นเวลา 4 สัปดาห์ 2) แบบประเมินความรู้เกี่ยวกับรังสีรักษา 3) แบบประเมินความวิตกกังวลผ่านการหาความตรงเชิงเนื้อหาและการทดสอบความเชื่อมั่น โดยด้วยวิธีของคูเดอร์ริชาร์ทสัน 20 เท่ากับ .76 วิเคราะห์ข้อมูลเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยโดยใช้สถิติ Paired t-test พบว่า
- ผู้ป่วยมะเร็งมีคะแนนความรู้เฉลี่ยเกี่ยวกับรังสีรักษาเพิ่มขึ้นจากก่อนได้รับโปรแกรม ( = 13.79 SD.= 2.51) และหลังได้รับโปรแกรม ( = 18.98 SD.= .82) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (t = 17.18 p<0.001
- ผู้ป่วยมะเร็งมีคะแนนความวิตกกังวลเฉลี่ยลดลงจากก่อนได้รับโปรแกรมคะแนนอยู่ในระดับมาก
( = 7.07 SD.= 1.26) และหลังได้รับโปรแกรมคะแนนอยู่ในระดับน้อย ( = 2.77 SD. = 1.19) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (t = 36.51 p<0.001)
ดังนั้นจึงควรสนับสนุนให้นำโปรแกรมการเตรียมความพร้อมไปใช้อย่างต่อเนื่องกับผู้ป่วยมะเร็งที่จะเข้ารับรังสีรักษาที่อยู่ในเขตความรับผิดชอบ เพื่อให้ผู้ป่วยมีความรู้ให้ความร่วมมือและลดความวิตกกังวล มีคุณภาพชีวิตที่ดีในระหว่างกระบวนการรับรังสีรักษา
เอกสารอ้างอิง
Feb 1 [cited 2025 Mar 26]. Available from: https://www.who.int/news/item/01-02-2024-global-cancer-burden-growing--amidst-mounting-need-for-services
สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข. ทะเบียนมะเร็งระดับโรงพยาบาล พ.ศ. 2563. กรุงเทพฯ: บริษัท นิวธรรมดาการพิมพ์ จำกัด; 2563.
โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต. ข้อมูลเวชระเบียนผู้ป่วยโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ปี 2563–2566. 2566.
โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย. การฉายรังสีสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง: สาขารังสีรักษาและมะเร็งวิทยา ฝ่ายรังสีวิทยา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย [Internet]. 2562 [cited 2025 Mar 26]. Available from: https://chulalongkornhospital.go.th/kcmh/dept/
ชลันดา จดจำ, คะนึงนิจ พงศ์ถาวรกมล, ศศิมา กุสุมา ณ อยุธยา. ผลของโปรแกรมให้ความรู้และประคับประคองจิตใจต่อคุณภาพชีวิตในสตรีมะเร็งปากมดลูกที่ได้รับรังสี รักษา. J Nurs Sci. 2559;34(1):143–55. Available from: https://he02.tci-thaijo.org/index.php/ns/article/view/77377/62068
พวงทอง จินดากุล, อำภาพร นามวงศ์พรหม, น้ำอ้อย ภักดีวงศ์. ประสิทธิผลของโปรแกรมการสนับสนุนและให้ความรู้ต่อความสามารถในการดูแลตัวเอง การรับรู้ความรุนแรงของอาการข้างเคียงจากเคมีบำบัด และความวิตกกังวลในผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะแรกที่เข้ารับการรักษาเสริมด้วยเคมีบำบัด. วารสารโรคมะเร็ง. 2561;38(3):105–16.
Fisher JD, Fisher WA. Changing AIDS-risk behavior. Psychol Bull. 1992;111(3):455–74. Available from: https://doi.org/10.1037/0033-2909.111.3.455
Cohen J. Statistical power analysis for the behavioral sciences. 2nd ed. Hillsdale (NJ): Lawrence Erlbaum Associates; 1988.
Gaberson KB. The effect of humorous distraction on preoperative anxiety: A pilot study. AORN J. 1991;54(6):1258–64.
จันทร์จิรา เกื้อกาญจน์. ผลของโปรแกรมส่งเสริมการจัดการตนเองด้านโภชนาการต่อความเหนื่อยล้าในผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับรังสีรักษา. วารสารสภาการพยาบาล. 2558;30(2):20–32.
สุวิมล สอนศรี, วาริณี เอี่ยมสวัสดิกุล, ชื่นจิตร โพธิศัพท์สุข. ผลของโปรแกรมส่งเสริมการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกสตรีกลุ่มเสี่ยง อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด. วารสารพยาบาล. 2564;70(3):11–9.
เฟื่องฟ้า สีสวย, พวงสร้อย วรกุล. คุณภาพชีวิตของผู้ดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์. จุฬาลงกรณ์เวชสาร. 2551;52(ฉบับพิเศษ):15–28.
Orem DE, Taylor SG, Repenning KM. Nursing: Concepts of practice. St. Louis (MO): Mosby Year Book; 2001.
ธีรนุช ห้านิรัติศัย, ปริญญา แร่ทอง. การรับรู้ความพร้อมของผู้ดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง. วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. 2556;21(7):634–9.
สุดารัตน์ เลียบเลิศหิรัญ. ผลของโปรแกรมการฝึกการแก้ปัญหาต่อความเครียดในการดูแลของผู้ดูแลในครอบครัวผู้สูงอายุโรคหลอดเลือดสมอง [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2557.
กนกวรรณ เหล่าสาร, มณฑิชา รักศิลป์, ชวนชัย เชื้อสาธุชน. ผลของโปรแกรมการพยาบาลองค์รวมที่มีต่อการลดความวิตกกังวลในผู้ป่วยผ่าตัดมะเร็งเต้านม. วารสารวิจัยสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี. 2563;9(2):125–35.
Li M, Zhu H. Application of intervention of information motivation behavior skill (IMB) model in the cardiac rehabilitation of patients with coronary heart disease. Pak J Med Sci. 2022;38(6):1627–32. doi: 10.12669/pjms.38.6.5721. PMID: 35991234; PMCID: PMC9378367.
ปัทมาภรณ์ คงขุนทด, อังสนา วิศรุตเกษพงศ์, ปาลิตา โพธิ์ตา. ผลของโปรแกรมการเตรียมความพร้อมต่อความรู้ ความเครียดและสมรรถนะการปฏิบัติการพยาบาลของนักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 4 ในการพยาบาลสตรีตั้งครรภ์ที่มีภาวะเสี่ยงสูงในระยะคลอด. The Southern College Network Journal of Nursing and Public Health. 2564;8(3):173–84.
Shapiro SL, Schwartz GE, Bonner G. Effects of mindfulness-based stress reduction on medical and premedical students. J Behav Med. 1998;21:581–99. Available from: https://doi.org/10.1023/A:1018700829825
Breedvelt JJS, et al. The effects of meditation, yoga, and mindfulness on depression, anxiety, and stress in tertiary education students: A meta-analysis. Front Psychiatry. 2019;10:1–15. Available from: https://doi.org/10.3389/fpsyt.2019.00193
