การใช้ยา Meropenem ในโรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช

ผู้แต่ง

  • นลินวรรณ วงษ์สวัสดิ์ กลุ่มงานอายุรกรรม โรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช

คำสำคัญ:

การสั่งใช้ยา, ยา meropenem, ความเหมาะสมการใช้ยา

บทคัดย่อ

     การศึกษานี้เป็นการศึกษาแบบย้อนหลังมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการใช้ยา Meropenem ความเหมาะสมการสั่งใช้ยาผลการรักษาของยา Meropenem และปัจจัยที่สัมพันธ์กับการสั่งใช้ยา Meropenem ที่ไม่เหมาะสมในโรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช โดยศึกษา ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2561 – 30 กันยายน พ.ศ. 2565 กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้ป่วยที่มารับการรักษาแบบผู้ป่วยใน โรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราชที่ได้รับยา meropenem จำนวน 350 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบบันทึกข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพรรณนา (Descriptive statistics) และการวิเคราะห์ถดถอยลอจิสติก (Multiple logistic regression)
     ผลการวิจัย : จากจำนวนกลุ่มตัวอย่าง 350 คน โดยได้รับยาในแผนกอายุรกรรมจำนวน 236 คน (ร้อยละ 67.43) แผนกศัลยกรรมจำนวน 114 คน (ร้อยละ 32.57) ซึ่งลักษณะของผู้ป่วยทั้งสองกลุ่มส่วนใหญ่ไม่มีความแตกต่างกัน ยกเว้น อายุของผู้ป่วยในแผนกศัลยกรรมที่อายุ 15-45 ปี การใส่ท่อช่วยหายใจ และการติดเชื้อที่เกี่ยวข้องกับชุมชน มีสัดส่วนมากกว่าแผนกอายุรกรรม ผู้ที่ได้รับการสั่งใช้ยา Meropenem ไม่เหมาะสมตามข้อบ่งชี้จำนวน 53 คน (ร้อยละ 15.15) เมื่อวิเคราะห์ปัจจัยร่วมทำนาย พบว่า การรับส่งตัวมารักษา (refer in), ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ และรูปแบบการรักษาแบบ Empirical treatment มีความสัมพันธ์กับการสั่งใช้ยา Meropenem ที่ไม่เหมาะสมในโรงพยาบาล                      พระนารายณ์มหาราชอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05)

References

เกศรินทร์ ชัยศิริ. (2560). การประเมินการสั่งใช้ยาและผลการรักษาของ ยากลุ่มคาร์บาพีเนม ในแผนกศัลยกรรมและอายุรกรรม โรงพยาบาลชลบุรี. https://www.google.com/search?q.

ชลดา ผิวผ่อง. (2559). อุบัติการณ์การติดเชื้อแบคทีเรียกลุ่ม Enterobacteriaceae ที่ดื้อต่อยา Carbapenem โรงพยาบาลสุราษฏร์ธานี. วารสารวิชาการแพทย์; 30:1-12.

นฤมล ธูปสมพงศ์ และชมพิศ ศิริวงศ์. (2558). การประเมินการใช้ยาปฏิชีวนะกลุ่ม Restricted Antibiotics แผนกผู้ป่วยในโรงพยาบาลพังงา. วารสารวิชาการแพทย์เขต 11;29:621-32.

ธารทิพย์ มุกดาเพชรรัตน์. (2562). ความชุกของเชื้อ Carbapenem-Resistant Enterobacteriaceae (CRE) และมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อในผู้ป่วยในโรงพยาบาลตราด. วารสารวิชาการ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ; 15 : 51-61.

อนุวัฒน์ สุรินราช, อนุศักดิ์ เกิดสิน และ ประภัสสร สมศรี. (2562). ปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรียดื้อยาคาร์บาพีแนม ในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง โรงพยาบาลสกลนคร. วารสารโรงพยาบาลสกลนคร; 22:40-51.

Chotiprasitsakul D, Srichatrapimuk S, Kirdlarp S, Pyden AD, Santanirand P. (2019). Epidemiology of carbapenem-resistant Enterobacteriaceae: a 5-year experience at a tertiary care hospital. Infection and drug resistance;12:461-8.

Gharbi M ML, Gilchrist M, Thomas CP, Bamford K, Brannigan ET, et al. (2015). Forecasting carbapenem resistance from antimicrobial consumption surveillance: Lessons learnt from an OXA-48- producing Klebsiella pneumoniae outbreak in a West London renal unit. International Journal of Antimicrobial Agents. 2015;46(2):150-6.

Guanghui Z, Jing L, Guojun Z, Hong L. (2019). Epidemiology and risk factors of neuro-surgical bacterial meningitis / encephalitis induced by carbapenem resistant Entero-bacteriaceae. J Infect Chemother Off J Jpn Soc Chemother; 21: 256-267.

Nordmann P, Poirel L. (2019). Epidemiology and Diagnostics of Carbapenem Resistance in Gram-negative Bacteria. Clinical Infectious Diseases. ;69(Supplement_7): 21-28.

Ruh E, Zakka J, Hoti K, Fekrat A, Guler E, Gazi U, et al. (2019). Extended-spectrum β-lactamase, plasmidmediated AmpC β-lactamase, fluoroquinolone resistance, and decreased susceptibility to carbapenems in Entero-bacteriaceae: fecal carriage rates and associated risk factors in the community of Northern Cyprus. Antimicrob Resist Infect Control; 8: 98.

Wang Q, Zhang Y, Yao X, Xian H, Liu Y, Li H, et al. (2016). Risk factors and clinical outcomes for carbapenem¬resistant Enterobacteriaceae nosocomial infections. Eur J Clin Microbiol Infect Dis Off Publ Eur Soc Clin Microbiol; 35(10): 1679–1689.

Zhang Y, Wang Q, Yin Y, Chen H, Jin L, Gu B, et al. (2018). Epidemiology of Carbapenem-Resistant Enterobac¬teriaceae Infections: Report from the China CRE Network. Antimicrob Agents Chemother; 62(2): 216-236.

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2024-02-29