การพัฒนาความรอบรู้ด้านสุขภาพโดยกลไกการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม สำหรับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านและแกนนำเยาวชน ในการเฝ้าระวังและควบคุมการบริโภคยาสูบ อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด

ผู้แต่ง

  • วิม เหมโส นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด

คำสำคัญ:

ความรอบรู้ด้านสุขภาพ, กลไกการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม, อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน, แกนนำเยาวชน, การเฝ้าระวังและควบคุมการบริโภคยาสูบ

บทคัดย่อ

      การวิจัยเชิงปฏิบัติการครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาความรอบรู้ด้านสุขภาพโดยกลไกการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมสำหรับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และแกนนำเยาวชนในการเฝ้าระวังและควบคุมการบริโภคยาสูบ อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด การวิจัยแบ่งออกเป็น 3 ระยะ โดยระยะที่ 1 ศึกษาสถานการณ์การเฝ้าระวังและควบคุมการบริโภคยาสูบ ระยะที่ 2 พัฒนาความรอบรู้ด้านสุขภาพโดยกลไกการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมสำหรับ อสม.และแกนนำเยาวชนในการเฝ้าระวังและควบคุมการบริโภคยาสูบ และระยะที่ 3 ศึกษาผลการพัฒนา กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 168 คน โดยการเลือกแบบเจาะจงตามเกณฑ์การคัดเข้าและการคัดออก เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้เครื่องมือเชิงคุณภาพ 2 ชุด ผ่านการตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือด้านความตรงเชิงเนื้อหาและโครงสร้างจากผู้เชี่ยวชาญ 3 คน และเครื่องมือเชิงปริมาณ 2 ชุด ตรวจสอบความเชื่อมั่นโดยใช้วิธีหาค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาค ได้ค่า Cronbach’s Alpha Coefficient เท่ากับ 0.900 และ 0.878 ตามลำดับ
     ผลการวิจัย พบว่า สถานการณ์การเฝ้าระวังและควบคุมการบริโภคยาสูบ อัตราการสูบบุหรี่ของประชาชนอายุ 15 ปีขึ้นไป เท่ากับ ร้อยละ 12.90 กลุ่มอายุที่มีอัตราการสูบบุหรี่สูงสุด คือ 25 - 40 ปี ร้อยละ 22.24 ผู้ที่มีโรคประจำตัว       มีพฤติกรรมการสูบบุหรี่ จำนวน 61 คน มีร้านค้าของชำที่มีการจำหน่ายบุหรี่ จำนวน 132 ร้าน กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีความรอบรู้ด้านสุขภาพอยู่ในระดับไม่ดี ร้อยละ 58.93 และมีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังและควบคุมการบริโภคยาสูบอยู่ในระดับต่ำ ค่าเฉลี่ย 0.64 ผลการเฝ้าระวังและควบคุมการบริโภคยาสูบ ประเด็นการเฝ้าระวัง ณ จุดขาย และการโฆษณาผ่านสื่อ พบว่าส่วนใหญ่ร้านค้าขายผลิตภัณฑ์ยาสูบโดยปฏิบัติตามพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 ร้อยละ 75.52 โดยประเด็นปฏิบัติไม่ถูกต้อง ได้แก่ การขายผลิตภัณฑ์ยาสูบนอกสถานที่ที่ระบุไว้ในใบอนุญาตขายยาสูบ โดยมีการจำหน่ายในงานประเพณีชุมชนที่มีการแสดงมรสพ การเฝ้าระวังพฤติกรรมการซื้อและพฤติกรรมการขายบุหรี่ พบว่ามีคนขายที่อายุอายุต่ำกว่า 18 ปีขายผลิตภัณฑ์ยาสูบในวัดและในสวนสาธารณะเมื่อมีงานประเพณีชุมชนหรือมีมหรสพ รวมถึงการขายหรือให้ผลิตภัณฑ์ยาสูบแก่บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี และมีการแบ่งซองขายเป็นมวน การเข้าถึงบริการเลิกบุหรี่ พบว่าผู้สูบบุหรี่ได้รับคำแนะนำจาก อสม.และแกนนำเยาวชนให้เลิกบุหรี่จนสามารถเลิกบุหรี่ได้ จำนวน 328 คน ลดลงร้อยละ 3.11 และผู้ที่มีโรคประจำตัวสามารถเลิกบุหรี่ได้ ร้อยละ 80.33

References

ฐิติภัทร จันทรเกษม และธนัช กนกเทศ.(2563).การประเมินนโยบายการควบคุมการบริโภคยาสูบในเยาวชนไทย ด้วยกรอบยุทธศาสตร์ MPOWER. วารสารโรคและภัยสุขภาพ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 จังหวัดนครสวรรค์ 15(3): 20-29

กองงานคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ กรมควบคุมโรค.(2565).แผนปฏิบัติการ ด้านการควบคุมยาสูบแห่งชาติ ฉบับที่สาม พ.ศ. 2565 – 2570.กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์อักษรกราฟฟิคแอนด์ดีไซน์

ศูนย์วิจัยและการจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ มหาวิทยาลัยมหิดล.(2566).กรุงเทพฯ: เจริญดีมั่นคงการพิมพ์

สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเสลภูมิ.(2565). ผลการดำเนินงานด้านสุขภาพ อำเภอเสลภูมิ ประจำปี 2565. เอกสารอัดสำนา

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข.(2563).พระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ.2560. (เข้าถึงเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2566).เข้าถึงได้จาก https://ddc.moph.go.th/uploads/ckeditor/c74d97b01eae257e44aa9d5bade97baf/files/lawbtc/001_1btc.PDF

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข.(2562).ระเบียบคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบแห่งชาติว่าด้วยหลักเกณฑ์การเปรียบเทียบตามพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560.(เข้าถึงเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2566).เข้าถึงได้จาก https://ddc.moph.go.th/uploads/ckeditor/c74d97b01eae257e44aa9d5bade97baf/files/lawbtc/007_1btc.PDF

วัชระ เพ็งจันทร์.(2561).สังคมไทยรอบรู้ด้านสุขภาพ Health Literacy Society.(เข้าถึงเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566).เข้าถึงได้จาก https://mwi.anamai.moph.go.th/web-upload/migrated/files/mwi/n1141_12724c66e35424c4bf63fd1380e6b4b1_article_20180924133511.pdf

ยุรนันท์ ตามกาล. (2561). การพัฒนากระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมตามหลักวิถีชีวิตสีเขียวเพื่อเสริมสร้างสุขภาวะของครอบครัว. Journal of HR intelligence 13(1): 20-45

ชูศักดิ์ เอกเพชร. (2561). เอกสารประกอบการบรรยายการวิจัยเชิงปฏิบัติการ.มหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานี.(เข้าถึงเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2566).เข้าถึงได้จาก https://graduate.sru.ac.th/wp-content/uploads/2018/11/Action-Research-1.pdf.

กองสุขศึกษา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข.(2563). แนวทางการพัฒนาชุมชนรอบรู้ด้านสุขภาพ. กรุงเทพฯ: บริษัท 25 มีเดีย จำกัด

กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข. (2554). คู่มือครูที่ปรึกษาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน. กรุงเทพมหานคร: ยูเรนัสอิมเมจกรุ๊ป

กองสุขศึกษา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข. (2565). คู่มือการดำเนินงานสุขศึกษา หมู่บ้านปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ.(เข้าถึงเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2566).เข้าถึงได้จาก https://skko.moph.go.th/dward/document_file/health_behavior/common_form_ upload_file/20230427104744_360301399.pdf

บุญเลิศ พิมศักดิ์.(2561).การสร้างและพัฒนากลไกการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมสำหรับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านในการเฝ้าระวังการบริโภคยาสูบ จังหวัดร้อยเอ็ด.รายงานวิจัย

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2025-02-28

How to Cite

เหมโส ว. . (2025). การพัฒนาความรอบรู้ด้านสุขภาพโดยกลไกการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม สำหรับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านและแกนนำเยาวชน ในการเฝ้าระวังและควบคุมการบริโภคยาสูบ อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด. วารสารอนามัยสิ่งแวดล้อมและสุขภาพชุมชน, 10(1), 248–258. สืบค้น จาก https://he03.tci-thaijo.org/index.php/ech/article/view/3839