ผลการพัฒนาความรอบรู้ด้านสุขภาพสำหรับผู้ป่วยความดันโลหิตสูงที่ควบคุมความดันโลหิตไม่ได้ อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด

ผู้แต่ง

  • เฉลิมขวัญ มลิพันธ์ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด

คำสำคัญ:

ผู้ป่วยความดันโลหิตสูง, ควบคุมความดันโลหิตไม่ได้, ความรอบรู้ด้านสุขภาพ

บทคัดย่อ

     การวิจัยเชิงปฏิบัติการครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาความรอบรู้ด้านสุขภาพสำหรับผู้ป่วยความดันโลหิตสูงที่ควบคุมความดันโลหิตไม่ได้ อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 239 คน โดยการเลือกแบบเจาะจงตามเกณฑ์การคัดเข้าและเกณฑ์การคัดออก เก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสัมภาษณ์ความรอบรู้ด้านสุขภาพ แบบสัมภาษณ์พฤติกรรมสุขภาพ และแบบรายงานข้อมูลค่าความดันโลหิต วิเคราะห์ข้อมูล โดยการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา (Content Analysis) ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
     ผลการวิจัย พบว่า บริบทชุมชนเป็นสังคมชนบทอีสาน กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม นิยมใช้ปลาร้าเป็นส่วนประกอบสำคัญของการปรุงอาหารและรับประทานข้าวเหนียวเป็นหลัก   มีการออกกำลังกายตามวิถีชีวิต เป็นเพศหญิง ร้อยละ 57.32 มีค่าดัชนีมวลกายเฉลี่ย 27.66 Kg/m2 ความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพอยู่ในระดับไม่ดี ร้อยละ 56.07 และร้อยละ 53.97 ตามลำดับ หลังการดำเนินงาน กลุ่มตัวอย่างมีค่าความดันโลหิตอยู่ในเกณฑ์ปกติ ร้อยละ 78.24 ค่าดัชนีมวลกายเฉลี่ยลงดลงเป็น 25.04 Kg/m2 และมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ร้อยละ 82.85

References

สมาคมโรคความดันโลหิตสูงแห่งประเทศไทย Thai Hypertension Society.[เข้าถึงเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2566].เข้าถึงได้จาก https://www.thaihypertension.org/hypertensiondetail.php?n_id=338

คลังข้อมูลสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข.(2566). ร้อยละผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่ควบคุมความดันโลหิตได้ดี.[เข้าถึงเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2566].เข้าถึงได้จาก

https://ret.hdc.moph.go.th/hdc/reports/report.php?cat_id=b2b59e64c4e6c92d4b1ec16a599d882b&id=2e3813337b6b5377c2f68affe247d5f9

กองโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข.(2564).รายงานประจำปี 2563.กรุงเทพฯ.สำนักพิมพ์อักษรกราฟฟิคแอนด์ดีไซน์. [เข้าถึงเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2566].เข้าถึงได้จาก http://www.thaincd.com/2016/media-detail.php?id=13969&tid=&gid=1-015-005

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข.(2564).คู่มือกระบวนการสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพ ในการป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพ.พิมพ์ครั้งที่ 1.บริษัท อาร์ เอ็น พี พี วอเทอร์ จำกัด.นนทบุรี.

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข.(2551). การออกกำลังกายในวัยทำงาน.สื่อและเอกสารเผยแพร่การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ. [เข้าถึงเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566].เข้าถึงได้จาก dhttps://dopah.anamai.moph.go.th/web-upload/8x6b2a6a0c1fbe85a9c274e6419fdd6071/tinymce/KPI2564/KPI119/25640111922.pdf

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข.(2564).โรคความดันโลหิตสูง (Hypertension). [เข้าถึงเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2566].เข้าถึงได้จาก https://ddc.moph.go.th/disease_detail.php?d=52,2562.

วิรัติ ปานศิลา. (2544). หลักการวิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ. ขอนแก่น: ขอนแก่นการพิมพ์.

นภาพร อติวานิชยพงศ์. (2557). คนชนบทอีสานกับการทำมาหากิน: ความเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย. วารสารสังคมวิทยามานุษยวิทยา, 33(2),103-127.

สุปราณี โรจน์สุพร ลัฆวี ปิยะบัณฑิตกุล และ อรุณณี ใจเที่ยง (2564). การจัดการอาหารของผู้เป็นโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงในชุมชน.วารสารสุขภาพและการศึกษาพยาบาล, 27(2), 96-111.

อุดมศักดิ์ มหาวีรวัฒน์, อัศวิน อมรสิน, ศิรินาถ ตงศิริ, วรรณิศา ชาวดร, ชุติมณฑน์ ปัดถามัง และรักษ์สุดา ขันธพัฒน์. (2559).การเปรียบเทียบผลของปริมาณน้ำตาลในเลือดระหว่างผู้บริโภคแกนตะวันกับข้าวเหนียวพันธุ กข.6.วารสารวิจัยสาธารณสุขศาสตร มหาวิทยาลัยขอนแกน, 9(1),15-20.

ชูศักดิ์ เอกเพชร. (2561).ความรู้พื้นฐานการจัดทำงานวิจัยพัฒนา (Routine to Research: R2R). [เข้าถึงเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2566].เข้าถึงได้จาก https://graduate.sru.ac.th/wpcontent/uploads/2018/11/R2R.pdf.

Bandura, A. (1997). Self-efficacy: The exercise of control. W.H. Freeman and Company.

ธัญชนก ขุมทอง วิราภรณ์ โพธิศิริ, และ ขวัญเมือง แก้วดำเกิง. (2559).ปัจจัยที่มีผลต่อความรอบรู้ด้านสุขภาพของผู้ที่เสี่ยงเป็นโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงในจังหวัดอุทัยธานีและจังหวัดอ่างทอง. วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยศิลปากร,3(6),67-85.

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2025-02-28

How to Cite

มลิพันธ์ เ. . (2025). ผลการพัฒนาความรอบรู้ด้านสุขภาพสำหรับผู้ป่วยความดันโลหิตสูงที่ควบคุมความดันโลหิตไม่ได้ อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด. วารสารอนามัยสิ่งแวดล้อมและสุขภาพชุมชน, 10(1), 355–364. สืบค้น จาก https://he03.tci-thaijo.org/index.php/ech/article/view/3857