การพัฒนารูปแบบการป้องกันผลกระทบจากการใช้สมาร์ทโฟนในเด็กปฐมวัย โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านนากอก ตำบลบุ่งค้า อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร

ผู้แต่ง

  • ครรชิต จักรสาร โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านนากอก ตำบลบุ่งค้า อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร

คำสำคัญ:

เด็กปฐมวัย, พ่อแม่หรือผู้ปกครองเด็กปฐมวัย, สมาร์ทโฟน

บทคัดย่อ

     การวิจัยเชิงปฏิบัติการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสถานการณ์การใช้สมาร์ทโฟนในเด็กปฐมวัยและการส่งเสริมพัฒนาการเด็ก ในบริบทพื้นที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านนากอก จังหวัดยโสธร 2) พัฒนารูปแบบการป้องกันผลกระทบจากการใช้สมาร์ทโฟนในเด็กปฐมวัย และ 3) ประเมินผลการดำเนินงานตามรูปแบบการป้องกัน กลุ่มตัวอย่างคัดเลือกจากพ่อแม่หรือผู้ปกครองที่มีเด็กปฐมวัย(เด็กอายุ 2 – 5 ปี) คัดเลือกแบบเจาะจง จำนวน 37 คน เครื่องมือในการวิจัย ประกอบด้วย 2 ส่วน ส่วนที่ 1. เป็นแบบสัมภาษณ์สำหรับของพ่อแม่ผู้ปกครองเด็กปฐมวัย ส่วนที่ 2. เป็นแนวคำถามปลายเปิดสำหรับการสนทนากลุ่ม ค่าความเชื่อมั่นของเครื่องมือทดสอบโดยค่าสัมประสิทธิ์อัลฟาของคอนบาร์ช ได้ค่าความเชื่อมั่น(Confidence Level :cl) 0.83 เก็บข้อมูลโดยการสัมภาษณ์แบบโครงสร้าง (Structured Interview) และบันทึกข้อมูลที่ได้จากการสนทนากลุ่ม (Focus group- discussion) วิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคลโดยใช้สถิติการแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และเปรียบเทียบข้อมูลด้านความรู้ พฤติกรรมและทัศนคติด้วยสถิติทดสอบ t-test

     ผลการศึกษา พบว่าการใช้สมาร์ทโฟนในเด็กปฐมวัย ผู้ปกครองให้เด็กเล่นสมาร์ทโฟนร้อยละ 70.30 ในจำนวนนี้ เล่น 2 ครั้ง/วัน ร้อยละ 61.50 ใช้เวลาเล่นน้อยกว่า 30 นาที/ครั้ง ร้อยละ 50.00 เหตุผลสำคัญที่ให้เด็กเล่นสมาร์ทโฟนเพื่อให้เด็กเก่ง ฉลาด, เด็กอยู่นิ่งและไม่ร้องไห้ งอแงคิดเป็นร้อยละ 50.00, 42.30 และ 7.70 ตามลำดับ และในบริบทของครอบครัวแนวทาง "กิน กอด เล่น" มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็ก ในขณะที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเน้น "กิน อ่าน เล่น" เป็นหลัก รูปแบบการป้องกันผลกระทบจากการใช้สมาร์ทโฟนในเด็กปฐมวัยที่พัฒนาขึ้น พบว่า พ่อแม่ ผู้ปกครองมีความรู้เกี่ยวกับผลกระทบการใช้สมาร์ทโฟนกับเด็กปฐมวัยเพิ่มมากขึ้นจากค่าเฉลี่ยก่อนการวิจัย 7.70 เป็น 14.92 ทัศนคติ เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 69.81 เป็นร้อยละ 97.30 และพฤติกรรมการเลี้ยงดูเด็กเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 82.62 เป็นร้อยละ 98.97

เอกสารอ้างอิง

อาทิตยา แก่นไกรและกุลธิดา เกตุแก้ว. 2564;44(1):39–48 บทบาทพยาบาลต่อการใช้สื่อหน้าจออิเล็กทรอนิกส์ในเด็กปฐมวัย:ข้อแนะนำตามหลักฐานเชิงประจักษ์. วารสารสุขศึกษา..

มาณริกา จันทาโก. 2566;13(19):1–14. ภัยมืดจากสมาร์ทโฟนต่อพัฒนาการเด็กปฐมวัย. ห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์วุฒิสภา.

กระทรวงสาธารณสุข. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลพัฒนาการเด็กปฐมวัย กระทรวงสาธารณสุข 2565 [Internet]. [cited 2024 Oct 9]. Available from: https://nich.anamai.moph.go.th/th/kpr66/

ธีรชัย บุญยะลีพรรณ. 2566 ห้องเรียนฟื้นฟูหลังโควิด-19 [Internet]. [cited 2024 Oct 1]. Available from: https://www.eef.or.th/news-tsqp-011122/

กลุ่มสถิติเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กองสถิติเศรษฐกิจ สำนักงานสถิติแห่งชาติ. การสำรวจการมีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในครัวเรือน พ.ศ. 2565(ไตรมาสที่ 4) [Internet]. 2566 [cited 2024 Oct 9]. Available from: https://www.nso.go.th/

ตวงพร ชุมประเสริฐ.2562. ความสัมพันธ์ระหว่างการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์กับพัฒนาการเด็กอายุ 2 - 5 ปี ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จังหวัดสงขลา. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.

จีระวรรณ ศรีจันทร์ไชยและสุจิมา ติลการยทรัพย์.2564;8(10):113–24. ผลกระทบจากการใช้สมาร์ทโฟนในเด็กปฐมวัย:บทบาทของพยาบาลในการช่วยเหลือดูแล. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์.

อภิรพี เศรษฐรักษ์ ตันเจริญวงศ์. 2561;6(2):60–9. พฤติกรรมการใช้หน้าจอของเด็กไทยวัย 0-3 ปี ในเขตกรุงเทพมหานคร. วารสารวิชาการนวัตกรรมสื่อสารสังคม.

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยโสธร. Health Data Center [Internet]. 2567 [cited 2024 Jan 2]. Available from: https://yst.hdc.moph.go.th/hdc/reports/report.php?cat_id=e71a73a77b1474e63b71bccf727009ce&id=dbec55e36330055a8cf0b6d05c2c354a

โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านนากอก. สรุปผลการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567.

Kemmis S, Mc Taggart R. The action research planner. Victoria: Deakin University press; 1990.

สถาบันราชานุกูล กรมสุขภาพจิต. คู่มือการจัดกิจกรรมการเสริมสร้างความ ผูกพันทาง อารมณ์สำหรับพ่อแม่หรือผู้เลี้ยงดูเด็กวัยแรกเกิด 5 ปีด้วย “กิน กอด เล่น เล่า.” พิมพ์ครั้ง. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย; 2559.

ประไพพิศ สิงหเสมและคณะ. 2560;4(3):226–35. การส่งเสริมโภชนาการในเด็กวัยก่อนเรียน. วารสารเครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและการสาธารณสุขภาคใต้.

ณัฐพร จันทร์โชคพงษ์. 2564 การนอนกลางวันช่วยพัฒนาความจำในเด็ก [Internet]. [cited 2667 Oct 1]. Available from: https://th.theasianparent.com/daytime- sleep-helps- improve-memory-of-child

Bloom BS. Mastery learning. In: Block JH, 1971. p. 47-63. editor. Mastery learning: Theory and practice. New York: Holt, Rinehart, and Winston;

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-04-30

รูปแบบการอ้างอิง

จักรสาร ค. (2025). การพัฒนารูปแบบการป้องกันผลกระทบจากการใช้สมาร์ทโฟนในเด็กปฐมวัย โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านนากอก ตำบลบุ่งค้า อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร. วารสารอนามัยสิ่งแวดล้อมและสุขภาพชุมชน, 10(2), 341–353. สืบค้น จาก https://he03.tci-thaijo.org/index.php/ech/article/view/4297