ผลของการส่งเสริมการรับรู้สมรรถนะแห่งตนร่วมกับแรงสนับสนุนทางสังคมต่อพฤติกรรมการดูแลสุขภาพของหญิงตั้งครรภ์วัยรุ่น โรงพยาบาลเคียนซา จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ผู้แต่ง

  • อาธัญญา แดงหนำ โรงพยาบาลเคียนซา จังหวัดสุราษฎร์ธานี

คำสำคัญ:

กิจกรรมการดูแลตนเองร่วมกับแรงสนับสนุนทางสังคม, หญิงตั้งครรภ์วัยรุ่น, พฤติกรรมการดูแลสุขภาพ

บทคัดย่อ

     การวิจัยกึ่งทดลองนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการส่งเสริมการรับรู้สมรรถนะแห่งตนร่วมกับแรงสนับสนุนทางสังคมต่อพฤติกรรมการดูแลสุขภาพของหญิงตั้งครรภ์วัยรุ่นโรงพยาบาลเคียนซา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ใช้แบบแผนการวิจัยแบบ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มทดลอง ได้รับโปรแกรมการส่งเสริมการรับรู้สมรรถนะแห่งตนร่วมกับแรงสนับสนุนทางสังคมต่อพฤติกรรมการดูแลสุขภาพของหญิงตั้งครรภ์วัยรุ่น กลุ่มควบคุมได้รับการดูแลตามมาตรฐานการดูแลหญิงตั้งครรภ์ ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ วัดผลการทดลองในระยะก่อนการทดลองกับระยะหลังการทดลอง กลุ่มตัวอย่างได้จากการคำนวณ และใช้วิธีการสุ่มอย่างง่าย กลุ่มละ 12 คน รวม 24 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ประกอบด้วย 1) กิจกรรมการดูแลตนเองร่วมกับแรงสนับสนุนทางสังคม 2) แบบสอบถาม จำนวน 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 ข้อมูลทั่วไป ส่วนที่ 2 พฤติกรรมการดูแลสุขภาพของหญิงตั้งครรภ์วัยรุ่น ใช้ระยะเวลา 8 สัปดาห์ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา และสถิติอ้างอิง ได้แก่ สถิติทดสอบ nonparametric (Wilcoxon Signed Ranks Test) และ nonparametric (Mann-Whitney Test)

     ผลการวิจัยพบว่า ภายหลังเข้าร่วมกิจกรรมการส่งเสริมการรับรู้สมรรถนะแห่งตนร่วมกับแรงสนับสนุนทางสังคมในหญิงตั้งครรภ์วัยรุ่นที่มาฝากครรภ์ โรงพยาบาลเคียนซา จังหวัดสุราษฎร์ธานี กลุ่มทดลอง มีพฤติกรรมการดูแลตนเองดีกว่าก่อนเข้าร่วมกิจกรรม และดีกว่ากลุ่มควบคุม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

เอกสารอ้างอิง

บุญฤทธิ์ สุขรัตน์. การตั้งครรภ์ในวัยรุ่น: นโยบาย แนวทางการดำเนินงานและติดตามประเมินผล. พิมพ์ครั้งที่ 2. นนทบุรี: กระทรวงสาธารณสุข; 2557.

Ganchimeg, T., Ota, E., Morisaki, N., et al. Pregnancy and Childbirth Outcomes among Adolescent Mothers: A World Health Organisation Multicountry Study. BJOG 2014; 121, 40-48. from https://doi.org/10.1111/1471-0528.12630

ปัญญ์กรินทร์ หอยรัตน์, ปราโมทย์ วงศ์สวัสดิ์. วัยรุ่นไทยกับการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร. วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี 2560; 2: 173-82.

World Health Organization. Coronavirus. Geneva: World Health Organization, 2020.

สำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว. รายงานประจำปี 2556 สำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว / สำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์. กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์. สำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว; 2556.

Osterman, M. J. K. Births: Final Data for 2020. National Vital Statistics Reports 2020, February, Vol. 70(17)7, 1-22.

สำนักอนามัยเจริญพันธ์ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. รายงานประจำปี 2565. [อินเตอร์เน็ต]. 2565 [เข้าถึงเมื่อ 10 สิงหาคม 2567]. เข้าถึงได้จาก: https://rh.anamai.moph.go.th/

คลินิกฝากครรภ์ โรงพยาบาลเคียนซา จังหวัดสุราษฎร์ธานี. สถิติหญิงตั้งครรภ์วัยรุ่นที่มารับบริการฝากครรภ์ คลินิกฝากครรภ์ โรงพยาบาลเคียนซา จังหวัดสุราษฎร์ธานี. โรงพยาบาลเคียนซา

จังหวัดสุราษฎร์ธานี; 2567.

สำนักงานส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. (2555). คู่มือการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ. [อินเตอร์เน็ต]. 2555 [เข้าถึงเมื่อ 16 กันยายน 2567]. เข้าถึงได้จาก http://hp.anamai.moph.go.th/

Bandura A. Social Learning Theory. New York: General Learning Press; 1997.

Bandura, A. The explanatory and predictive scope of self – efficacy theory. Journal of Social and Clinical Psychology 1986; 4: 359–373.

Brouse, A.J. Easing the translation to the maternal role. Journal of Advanced Nursing 1988; 13: 167-172.

Sander, L. W., & Buckner, E. B. The newborn behavioral observations system as a nursing intervention to enhance engagement in first time mothers: feasibility and desirability. Pediatric Nursing 2006; 32(5), 455-459.

Tedder, J. LGive then the HUG: An innovative approach to helping parents understand the language their newborn. The Journal of Parinatal Education 2008; 35(2), 68-71.

พิกุล อุทธิยา. ผลของโปรแกรมการส่งเสริมการรับรู้สมรรถนะแห่งตนที่บ้านต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองของหญิงตั้งครรภ์วัยรุ่นครรภ์แรก. วิทยานิพนธ์หลักสูตรพยาบาลศาตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพยาบาลเวชปฏิบัติชุมชนคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา; 2557.

House, J.S. Thenatureof social support in M.A.Reading (Ed.), Work stressand social support. California: Addison–Wesley; 1981.

Orem, D. E. Nursing: concepts of practice (4thed.). St. Louis: Mosby Year Book; 1991.

Cohen, J. Statistical power analysis. Current Directions in Psychological Science 1992; 1(3), 98–101.

Orem, D. E. Nursing concepts practice (6th ed.). St. Louis: Mosby-year book; 2001.

Best, J. W. Research in Education. Englewood Cliffs, New Jersy: Pretice Hall; 1977.

เพ็ญพยงค์ ตาระกา, กินรี ชัยสวรรค์ และ ธนพร แย้มสุดา. ผลของโปรแกรมส่งเสริมการรับรู้ความสามารถแห่งตนต่อพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพของหญิงตั้งครรภ์วัยรุ่นครรภ์แรก. วารสารแพทย์นาวี. 2562; 46(2), 319-335.

สุมาลี ทองสวนส้ม และ ณัฐพัชร์ บัวบุญ. ผลของโปรแกรมส่งเสริมการรับรู้สมรรถนะแห่งตนต่อพฤติกรรมการเลี้ยงทารกด้วยนมมารดาของมารดาวัยรุ่นที่มีบุตรคนแรก. วารสารวิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ. 2564; 15(3),1-13.

นิภาพร คนเชี่ยว. ผลของโปรแกรมการส่งเสริมสมรรถนะแห่งตนและการมีส่วนร่วมของสามีต่อพฤติกรรมการป้องกันการตั้งครรภ์ซ้ำในมารดาวัยรุ่น. วิทยานิพนธ์หลักสูตรพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพยาบาลเวชปฏิบัติชุมชน คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์; 2562.

พีรพล ไชยชาติ และ เกศินี สราญฤทธิชัย. ผลของโปรแกรมการพัฒนาความรอบรู้ด้านสุขภาพร่วมกับแรงสนับสนุนทางสังคมต่อพฤติกรรมการป้องกันการตั้งครรภ์ของวัยรุ่นตอนต้น. วารสารการพยาบาลและการดูแลสุขภาพ. 2562; 37(4), 42-51.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-06-30

รูปแบบการอ้างอิง

แดงหนำ อ. (2025). ผลของการส่งเสริมการรับรู้สมรรถนะแห่งตนร่วมกับแรงสนับสนุนทางสังคมต่อพฤติกรรมการดูแลสุขภาพของหญิงตั้งครรภ์วัยรุ่น โรงพยาบาลเคียนซา จังหวัดสุราษฎร์ธานี. วารสารอนามัยสิ่งแวดล้อมและสุขภาพชุมชน, 10(3), 128–139. สืบค้น จาก https://he03.tci-thaijo.org/index.php/ech/article/view/4370