การประเมินผลการดำเนินงานการพัฒนาหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายหน่วยบริการ ปฐมภูมิตามเกณฑ์คุณภาพมาตรฐานในการให้บริการสุขภาพปฐมภูมิ จังหวัดปทุมธานี

ผู้แต่ง

  • สัญญา เหมือนโพธิ์ทอง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี

คำสำคัญ:

หน่วยบริการปฐมภูมิ, การประเมินผล, CIPP Model

บทคัดย่อ

     การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาบริบท ปัจจัยนำเข้า กระบวนการดำเนินงาน และผลการดำเนินงานของหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิ จังหวัดปทุมธานี (2) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างบริบท ปัจจัยนำเข้า และกระบวนการดำเนินงานกับผลการดำเนินงาน (3) ศึกษาระดับความพึงพอใจของบุคลากรในหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิ และ (4) ศึกษาปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะในการดำเนินงานตามเกณฑ์คุณภาพมาตรฐานในการให้บริการสุขภาพปฐมภูมิ ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงสำรวจวิเคราะห์ข้อมูลแบบผสมผสาน กลุ่มตัวอย่างจำนวน 148 คน เป็นบุคลากรที่ปฏิบัติงานในหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิ เครื่องมือที่ใช้คือแบบสอบถามซึ่งผ่านการตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหาและความเชื่อมั่น วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณด้วยสถิติเชิงพรรณนา และการวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน ข้อมูลเชิงคุณภาพวิเคราะห์ด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา

     ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างมีความคิดเห็นเกี่ยวกับบริบท ปัจจัยนำเข้า กระบวนการ และผลการดำเนินงานอยู่ในระดับปานกลางถึงสูง โดยด้านผลการดำเนินงานมีค่าเฉลี่ยสูงสุด (equation = 3.93) รองลงมาคือด้านกระบวนการ (equation = 3.92) และบริบท (equation = 3.82) ตามลำดับ ส่วนด้านปัจจัยนำเข้ามีค่าเฉลี่ยต่ำสุด (equation = 3.56) นอกจากนี้ บริบท ปัจจัยนำเข้า และกระบวนการ มีความสัมพันธ์กับผลการดำเนินงานอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < .001) โดยเฉพาะกระบวนการมีความสัมพันธ์สูงสุด (r = .750) รองลงมาคือปัจจัยนำเข้า (r = .650) และบริบท (r = .643) ขณะที่บุคลากรในหน่วยบริการมีความพึงพอใจในระดับมาก (equation = 3.89) โดยเฉพาะด้านความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย (equation = 4.07) และการทำงานตามบทบาทหน้าที่ (equation = 3.98) สำหรับผลการวิเคราะห์เชิงคุณภาพพบปัญหาสำคัญ ได้แก่ การขาดแคลนบุคลากร งบประมาณไม่เพียงพอ ภาระงานซ้ำซ้อน และระบบบริหารจัดการที่ไม่คล่องตัว

เอกสารอ้างอิง

สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. ยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2561–2580. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ; 2561.

สุพัตรา ศรีวณิชชากร, ทัศนีย์ ญาณะ, บำรุง ชลอเดช, พฤกษา บุกบุญ. สถานการณ์การพัฒนาระบบบริการปฐมภูมิ พ.ศ. 2547–58. นนทบุรี: สหมิตรพริ้นติ้งแอนด์พับลิสชิ่ง; 2558.

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี. รายงานสถานการณ์ระบบบริการสุขภาพปฐมภูมิ จังหวัดปทุมธานี ปีงบประมาณ 2567. ปทุมธานี: กลุ่มงานการสาธารณสุขมูลฐานและระบบสุขภาพปฐมภูมิ; 2567.

Stufflebeam DL. The CIPP model for evaluation. In: Kellaghan T, Stufflebeam DL, Wingate LA, editors. International handbook of educational evaluation. New York: Springer; 2003. p. 31–62.

Krejcie RV, Morgan DW. Determining sample size for research activities. Educ Psychol Meas. 1970;30(3):607–10.

Best JW. Research in education. 3rd ed. Englewood Cliffs (NJ): Prentice-Hall; 1977.

มยุรี เข็มทอง. การศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการพัฒนาคุณภาพเครือข่ายบริการปฐมภูมิ จังหวัดพิจิตร. วารสารวิจัยและวิชาการสาธารณสุขจังหวัดพิจิตร. 2563;1(1):35–48.

สุรสิทธิ์ เทียมทิพย์. ปัจจัยที่มีผลต่อการปฏิบัติงานพัฒนาระบบบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิของบุคลากรสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล จังหวัดเชียงใหม่. วารสารวิชาการป้องกันควบคุมโรค สคร.2 พิษณุโลก. 2566;10(1):92–105.

มินตรา รวงผึ้ง, ผจงจิต ไกรถาวร, กมลรัตน์ กิตติพิมพานนท์. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความพึงพอใจในการปฏิบัติงานของพยาบาลในหน่วยบริการปฐมภูมิ เขตบริการสุขภาพที่ 4. วารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยคริสเตียน. 2565;9(2):1–18.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-06-30

รูปแบบการอ้างอิง

เหมือนโพธิ์ทอง ส. . (2025). การประเมินผลการดำเนินงานการพัฒนาหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายหน่วยบริการ ปฐมภูมิตามเกณฑ์คุณภาพมาตรฐานในการให้บริการสุขภาพปฐมภูมิ จังหวัดปทุมธานี. วารสารอนามัยสิ่งแวดล้อมและสุขภาพชุมชน, 10(3), 285–293. สืบค้น จาก https://he03.tci-thaijo.org/index.php/ech/article/view/4482