การพยาบาลผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังในคลินิกโรคเรื้อรังโรงพยาบาลบ้านฝาง กรณีศึกษา 2ราย

บทคัดย่อ

     การศึกษานี้เป็นกรณีศึกษา 2 ราย มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาเปรียบเทียบการใช้กระบวนการพยาบาล และหน้าที่หลักทางคลินิกของพยาบาลวิชาชีพ( 7 Aspect of care )เป็นแนวทางในการพยาบาลผู้ป่วยโรคโรคไตเรื้อรัง กรณีศึกษา 2 รายที่มารับบริการในโรงพยาบาลบ้านฝาง ผลการศึกษาพบว่า รายที่ 1 วินิจฉัยเป็น DM ,HT ,CKD 4 และรายที่ 2 วินิจฉัยเป็น DM ,HT, Gout ,CKD 3 มีการรวบรวมข้อมูลภาวะสุขภาพผู้ป่วยอย่างครบถ้วน ทำให้ข้อมูลครบถ้วนมีคุณภาพเพียงพอแก่การวินิจฉัยปัญหาการวางแผนการพยาบาล

     ผลการศึกษา พบว่า ปฏิบัติการพยาบาลและการประเมินผลการพยาบาลจากการติดตามประเมินอาการมีข้อวินิจฉัยการพยาบาลเหมือนกันคือ1)เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนไตวาย 2)มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูง และมีพฤติกรรมการดูแล ตนเองไม่เหมาะสมกับโรคเบาหวาน3) )มีความดันโลหิตสูงและมีพฤติกรรมการดูแลตนเองไม่เหมาะสมกับโรคความดันโลหิตสูง4)ไม่สุขสบายเนื่องจากมีอาการปวดขาและข้อเข่าข้อวินิจฉัยที่ต่างกันคือ กรณีศึกษาที่1 1)เสี่ยงต่อการได้รับอันตรายเนื่องจากเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูงหรือต่ำ 2)เสี่ยงต่อเนื้อเยื่อขาดออกซิเจนเนื่องจากภาวะซีด3)เสี่ยงต่อการได้รับยาฉีดควบคุมระดับน้ำตาลไม่ครบตามแผนการรักษา 4)มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับโรคไตเรื้อรังและการเตรียมพร้อมก่อนการบำบัดทดแทนไต กรณีศึกษาที่2 1)เสี่ยงต่อการได้รับอันตรายพลัดตกหกล้มเนื่องจากการปวดบวมข้อเท้าและเข่า 2)มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับอาการปวดข้อเท้าและปวดเข่า 3)เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคความดันโลหิตสูง ผลลัพธ์พบว่าการใช้กระบวนการควบคู่กับการปฏิบัติตามหน้าที่หลักทางคลินิกของพยาบาลวิชาชีพทำให้ผู้ป่วยไตเรื้อรังได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับปัญหาและความต้องการของผู้ป่วยแต่ละรายครอบคลุมทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม ผู้ป่วยสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลตนเอง ควบคุมปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลต่อโรคและภาวะสุขภาพได้ถูกต้อง เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของผู้ป่วยและชุมชน ทำให้ผู้ป่วยปลอดภัยจากภาวะของโรค ลดการเกิดอันตรายหรือภาวะแทรกซ้อนที่ป้องกันได้ รวมถึงทำให้ผู้ป่วยและครอบครัวเกิดความพึงพอใจต่อคุณภาพการบริการพยาบาล ส่งผลให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีและปลอดภัย