การพัฒนารูปแบบการพยาบาลหญิงตั้งครรภ์ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง โดยการมีส่วนร่วมของครอบครัว คลินิกฝากครรภ์ โรงพยาบาลคลองหลวง
คำสำคัญ:
การพยาบาล, หญิงตั้งครรภ์, ระดับน้ำตาลในเลือดสูง, การมีส่วนร่วม, รูปแบบการพยาบาลบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (Participatory Action Research : PAR) มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพการณ์การพยาบาลหญิงตั้งครรภ์ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง 2) พัฒนารูปแบบการพยาบาลหญิงตั้งครรภ์ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง และ 3) ศึกษาผลของการใช้รูปแบบดังกล่าว โดยการมีส่วนร่วมของครอบครัว คลินิกฝากครรภ์ และโรงพยาบาลคลองหลวง กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วย 2 กลุ่ม ได้แก่ 1) ทีมร่วมพัฒนา จำนวน 20 คน ซึ่งได้จากการคัดเลือกแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive Sampling) ได้แก่ สูติแพทย์ อายุรแพทย์ กุมารแพทย์ เภสัชกร พยาบาลวิชาชีพ ทีมพยาบาลเยี่ยมบ้าน นักโภชนาการ ผู้ช่วยเหลือคนไข้ และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และ 2) พยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลคลองหลวง จำนวน 10 คน ที่เข้าร่วมทดลองใช้รูปแบบ โดยการดำเนินการวิจัยแบ่งเป็น 3 ระยะ ได้แก่ 1) ศึกษาสภาพการณ์การพยาบาลและความต้องการพัฒนารูปแบบ 2) พัฒนารูปแบบโดยใช้เทคนิคการวางแผนแบบมีส่วนร่วม (A-I-C Technique) และ 3) ศึกษาผลการใช้รูปแบบโดยประเมินจากประสิทธิภาพ ความเหมาะสม และความเป็นไปได้ของการนำไปใช้ วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา เปรียบเทียบก่อนหลัง โดยใช้สถิติ pair t -test ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ .05 ข้อมูลเชิงคุณภาพ ใช้วิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า รูปแบบการพยาบาลที่พัฒนาขึ้นสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลหญิงตั้งครรภ์ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงได้อย่างมีนัยสำคัญ ครอบครัวและบุคลากรที่เกี่ยวข้องมีความพึงพอใจในระดับสูง และสามารถประยุกต์ใช้เป็นแนวทางการพยาบาลในบริบทโรงพยาบาลชุมชนได้อย่างเหมาะสม
เอกสารอ้างอิง
ณัฐนันท์ วารีเศวตสุวรรณ์.(2561). การตรวจสอบเฝ้าระวังอุบัติการณ์ของโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ (GDM) โดยใช้แผนภูมิควบคุม p ปรับแก้ [ดุษฎีนิพนธ์]. บางแสน: วิทยาลัยวิทยาการวิจัยและวิทยาการปัญญา มหาวิทยาลัยบูรพา; 2561.
IDF.(2013). Diabetes Atlas. Sixth edition. International Diabetes Federation; 2013. Available from: http://www.idf.org/diabetesatlas.
รุ่งฤดี เพ็งวิชัย.(2566). การพยาบาลหญิงตั้งครรภ์ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงขณะตั้งครรภ์ในชุมชน. วารสารอนามัยสิ่งแวดล้อม และสุขภาพชุมชน. 2566;8(3):558-64.
คลินิกฝากครรภ์ โรงพยาบาลคลองหลวง.(2567). สถิติหญิงตั้งครรภ์เป็นโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ โรงพยาบาลคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ในปีงบประมาณ 2564–2566. ปทุมธานี: โรงพยาบาลคลองหลวง; 2567.
Zurawska-Klisl M, et al.(2016). Obstetric results of the multicenter, nationwide, scientific-educational program for pregnant women with gestational diabetes mellitus (GDM). Ginekologia Polska. 2016;87(9):651-8.
สุนันทา ยังวนิชเศรษฐ.(2559). การพยาบาลสตรีตั้งครรภ์ที่เป็นเบาหวาน. สงขลา: ภาควิชาการพยาบาลสูติ-นรีเวชและผดุงครรภ์ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์; 2559.
เจนพล แก้วกิติกุล, และคณะ.(2555). ภาวะแทรกซ้อนของมารดาและทารกในหญิงตั้งครรภ์ที่เป็นเบาหวาน ที่มารับบริการในโรงพยาบาลพิจิตร. วารสารโรงพยาบาลพิจิตร. 2555;27(2):70-82.
สุชยา ลือวรรณ.(2558). โรคเบาหวานในสตรีตั้งครรภ์. เชียงใหม่: ภาควิชาสูติศาสตร์และนารีเวชวิทยา คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่; 2558 [cited 2565 Aug 25]. Available from: https://w1.med.cmu.ac.th/obgyn/lessons/pregnancy-with-diabetes-mellitus/
Carolan M.(2013). Women’s experiences of gestational diabetes self-management: A qualitative study. Midwifery. 2013;29(6):637-45.
กฤษณี สุวรรณรัตน์, ตติรัตน์ เตชะศักดิ์ศรี, สุพิศ ศิริอรุณรัตน์.(2562). ผลของโปรแกรมสนับสนุนการจัดการตนเองต่อพฤติกรรมการจัดการภาวะเบาหวานด้วยตนเองและระดับน้ำตาลในเลือดของหญิงที่มีภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์. วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี. 2562;30(2):1-13.
กนกวรรณ ฉันธนะมงคล.(2566). การพยาบาลสตรีตั้งครรภ์ที่มีภาวะแทรกซ้อนทางอายุรกรรมนรีเวชและศัลยกรรม. กรุงเทพฯ: จามจุรีโปรดักท์; 2556.
Schumacher KL, Meleis AI.(1994). Transition: A central concept in nursing. IMAGE J Nurs Sch. 1994;26(2):119-27.
กนกพร นทีธนสมบัติ.(2555). ทฤษฎีการเปลี่ยนผ่าน : กรณีศึกษาสตรีตั้งครรภ์. มฉก.วิชาการ. 2555;6(13):103-15.
Shelton D, et al.(1687). Family-centered care: A concept analysis. J Pediatr Nurs. 1987;2(1):13-20.
Orem DE.(2001). Nursing: Concepts of practice. 6th ed. St Louis: Mosby; 2001.
ธนพร นิลวิเชียร, สุมาลี ทองสง, วราภรณ์ ศรีบุญเรือง.(2562). การมีส่วนร่วมของครอบครัวต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของหญิงตั้งครรภ์ที่เป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์. วารสารพยาบาลศาสตร์. 2562;30(2):112-21.
Kolb DA.(1984). Experiential learning: Experience as the source of learning and development. Englewood Cliffs: Prentice Hall; 1984.
Jin X, Chen Y, Wang L, Zhang H.(2021). Effectiveness of multidisciplinary approach and clinical guidelines on diabetes management: A systematic review. J Nurs Manag. 2021;29(3):450-62.

