ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพของผู้ต้องขังหญิงที่ติดเชื้อเอชไอวี ในทัณฑสถานแห่งหนึ่ง
คำสำคัญ:
พฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพ, ผู้ต้องขังหญิง, การติดเชื้อเอชไอวีบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาปัจจัยลักษณะเฉพาะและประสบการณ์ของบุคคล ได้แก่ อายุ ระยะเวลาที่ติดเชื้อเอชไอวี ระยะเวลาที่รับประทานยาต้านไวรัส ความรู้เรื่องโรคเอดส์ และความรู้สึกมีคุณค่าในตนเอง ที่มีผลต่อพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพของผู้ต้องขังหญิงที่ติดเชื้อเอชไอวีในทัณฑสถานแห่งหนึ่ง 2) ศึกษาปัจจัยด้านความคิดและอารมณ์ที่เฉพาะต่อพฤติกรรม ได้แก่ การรับรู้ประโยชน์ของการปฏิบัติพฤติกรรม การรับรู้อุปสรรคของการปฏิบัติพฤติกรรม การรับรู้ความสามารถของตนเอง และการสนับสนุนทางสังคม ที่มีผลต่อพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพของผู้ต้องขังหญิงที่ติดเชื้อเอชไอวีในทัณฑสถานแห่งหนึ่ง กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้ต้องขังหญิงที่มีโทษเด็ดขาดทุกระดับ อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ได้รับการวินิจฉัยโดยแพทย์ว่าติดเชื้อเอชไอวี ทั้งรายใหม่และรายเก่า ไม่มีอาการของโรคเอดส์ และได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัสเอชไอวี จำนวน 120 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม ครอบคลุมข้อมูลส่วนบุคคล ความรู้เรื่องโรคเอดส์ ความรู้สึกมีคุณค่าในตนเอง การรับรู้ประโยชน์และอุปสรรคของการปฏิบัติพฤติกรรม การรับรู้ความสามารถของตนเอง การสนับสนุนทางสังคม และพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา (ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) และสมการถดถอยพหุคูณ (Multiple Regression Analysis) โดยกำหนดระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ .05
ผลการวิจัยพบว่า ปัจจัยที่สามารถทำนายพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพของผู้ต้องขังหญิงที่ติดเชื้อเอชไอวีได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ได้แก่ การรับรู้อุปสรรคของการปฏิบัติ (β = –.776, p<.001) การรับรู้ประโยชน์ของการปฏิบัติ (β = .155, p<.05) การสนับสนุนทางสังคม (β = .212, p<.05) และความรู้เรื่องโรคเอดส์ (β = .055, p<.001) โดยปัจจัยทั้ง 4 สามารถร่วมกันอธิบายความแปรปรวนของพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพได้ร้อยละ 61.3 (R² = .613, p<.001)
เอกสารอ้างอิง
สุเมธ องค์วรรณดี, ศศิโสภิณ เกียรติบูรณกุล, อัญชลี อวิหิงสานนท์, เอกจิตรา สุขกุล, รังสิมา โล่เลขา. แนวทางการตรวจรักษาและป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีประเทศไทย ปี 2560. นนทบุรี: สำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข; 2560.
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. รายงานประจำปี 2566. กรุงเทพฯ: กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข; 2566.
กรมราชทัณฑ์. รายงานผลการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์แห่งชาติว่าด้วยการยุติปัญหาเอดส์ พ.ศ. 2560–2573: แผนยุทธศาสตร์ที่ 3 พัฒนาและเร่งรัดการรักษา ดูแล และช่วยเหลือทางสังคม ให้มีคุณภาพ รอบด้าน และยั่งยืน. กรุงเทพฯ: กรมราชทัณฑ์; 2562ก.
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ. ระบบบริการข้อมูลสารสนเทศ การให้บริการผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผู้ป่วยเอดส์ (NAP WEB REPORT). 1 ตุลาคม 2563 [เข้าถึงได้จาก: http://napdl.nhso.go.th/NAPWebReport/home.jsp]
พงศ์พล หนูดอนทราย. ปัจจัยทำนายพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพของผู้ต้องขังชายที่ติดเชื้อเอชไอวีในเรือนจำกรุงเทพมหานคร [วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต]. ชลบุรี: มหาวิทยาลัยบูรพา; 2565.
ศูนย์วิจัยโรคเอดส์. คู่มือการอบรมสร้างเสริมทักษะบุคลากรกรมราชทัณฑ์ ในด้านโรคเอดส์ วัณโรค ไวรัสตับอักเสบบี ตับอักเสบซี และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์. กรุงเทพฯ: ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย; 2562.
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ. การขับเคลื่อนคุกไทยสู่เรือนจำสุขภาวะ. กรุงเทพฯ: เดือนตุลา; 2560.
Pender N, Murdaugh C, Parsons MA. Health promotion in nursing practice. 7th ed. London: Pearson Education Inc.; 2015.
Yamane T. Statistics: an introductory analysis. New York: Harper & Row; 1973.
กัลยา วานิชย์บัญชา. สถิติสำหรับงานวิจัย. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2549.
Bloom BS. Handbook on formative and summative evaluation of student learning. New York: McGraw-Hill; 1971.
Wongpakaran N, Wongpakaran T. Prevalence of major depressive disorders and suicide in long-term care facilities: A report from northern Thailand. Psychogeriatrics. 2012; 12:11–7.
Likert R. The method of constructing an attitude scale. Archives of Psychology. 1932; 140:44–53.
บุญชม ศรีสะอาด. การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 9. กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น; 2556.
สุวรีย์ ศิริโภคาภิรมย์. การวิจัยทางการศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 3. ลพบุรี: มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี; 2546.
Pender NJ, Murdaugh CL, Parsons MA. Health promotion in nursing practice. 6th ed. Upper Saddle River (NJ): Pearson; 2011.
งานยาต้านไวรัส ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์. รายงานผลการดำเนินงานบริการด้านการปรึกษาและการรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวีในเรือนจำเขตกรุงเทพมหานคร. กรุงเทพฯ: กรมราชทัณฑ์; 2564.

