ประสิทธิผลโปรแกรมความรอบรู้สุขภาพต่อระดับความรอบรู้สุขภาพปอด และสมรรถภาพปอดในกลุ่มพนักงานโรงโม่หิน จังหวัดเพชรบูรณ์

ผู้แต่ง

  • สุดารัตน์ รอดมณี โรงพยาบาลเพชรบูรณ์
  • เยี่ยมณัฐ ชัยพฤกษ์ไพรวัน โรงพยาบาลหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์
  • สุรศักดิ์ ตั้งสมบัติกุล โรงพยาบาลเพชรบูรณ์
  • นิภาวรรณ สุจริตธรรม โรงพยาบาลหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์

คำสำคัญ:

ความรอบรู้สุขภาพ, ระดับความรอบรู้สุขภาพปอด, โรคปอดฝุ่นหิน

บทคัดย่อ

     การวิจัยกึ่งทดลองแบบศึกษาสองกลุ่ม วัดผลก่อนและหลังการได้รับโปรแกรมการทดลองนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบระดับความรอบรู้สุขภาพ การรับรู้ พฤติกรรมการป้องกันตนเองและสมรรถภาพปอด กลุ่มตัวอย่างเป็นกลุ่มพนักงานโรงโม่หินจำนวน 80 คน แบ่งเป็นกลุ่มทดลอง 40 คนและกลุ่มควบคุม 40 คน ระยะเวลาการทดลอง 4 สัปดาห์ กลุ่มทดลองได้รับโปรแกรมสร้างเสริมความรอบรู้การสร้างเสริมความรอบรู้ มีกิจกรรม 3 ครั้งในสัปดาห์ที่1-4และกลุ่มควบคุมได้รับการให้ความรู้ตามมาตรฐาน ในสัปดาห์ที่ 1 และ 4 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย โปรแกรมด้านความรอบรู้สุขภาพ ได้แก่ 1)การให้ความรู้เพื่อสร้างทักษะความรอบรู้ 2)สนทนากลุ่มเกี่ยวกับโรคปอดฝุ่นหิน เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูลประกอบด้วย 1)แบบสอบถามทั่วไป แบบประเมินความรอบรู้ แบบประเมินพฤติกรรม แบบประเมินการรับรู้และแบบสัมภาษณ์ความรู้เกี่ยวกับโรคปอดฝุ่นหิน 2)การตรวจสมรรถภาพปอดด้วยเครื่องตรวจสมรรถภาพปอด 3)เครื่องมือที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลด้วย Chi Square test, Paired t-test และ Independent t-test กำหนดระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05

     ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มที่ได้รับโปรแกรมมีความรอบรู้สูงกว่ากลุ่มควบคุมหลังการสอนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.001 กลุ่มทดลองที่ได้รับโปรแกรมมีพฤติกรรมการป้องกันอันตรายจากฝุ่นสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.001 ผลตรวจสมรรถภาพปอดกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.001

เอกสารอ้างอิง

คณากร นิราราช, และคณะ. (2563). สัดส่วนของผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยโรคซิลิโคซิส ในผู้ที่มีภาพถ่ายรังสีทรวงอกผิดปกติจากระบบเฝ้าระวังโรคซิลิโคซิสในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา. วารสารควบคุมโรค, 46(3), 347-358.

กลุ่มงานอาชีวเวชกรรม. (2568) ข้อมูลจากการรับบริการตรวจสุขภาพประจำปี และตรวจสุขภาพตามความเสี่ยง. โรงพยาบาลเพชรบูรณ์

มูลนิธิสัมมาอาชีวะ. (2561). แนวทางการตรวจและแปลผลสมรรถภาพปอดด้วยวิธีสไปโรเมตรีย์ในงานอาชีวอนามัย.มูลนิธิสัมมาอาชีวะ.

บุปพา โพธิกุล, สุรินธร กลัมพากร, & วีณา เที่ยงธรรม. (2557). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการป้องกันโรคซิลิโคซิสของคนงานโรงโม่หินในอำเภออู่ทองจังหวัดสุพรรณบุรี. https://gsbooks.gs.kku.ac.th./57/grc15/iles/mmp76

จิราภรณ์ หลาบคา, จินตนา ศิริบูรณ์พิพัฒนา, & ธนาพร ทองสิม. (2560). พฤติกรรมการป้องกันฝุ่นหินของพนักงานโรงโม่หินของอำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี. วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี, 19(1), 71–83.

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. (2562). สถานการณ์ความรอบรู้สุขภาพของไทยปี พ.ศ.2562. http://dohhl.anamai.moph.go.th

กองสุขศึกษา. (2558) แนวคิดการสร้าง Health literacy. กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ เขตสุขภาพที่ 2. (2568). อัตราป่วยโรคปอดฝุ่นหิน (Silicosis). https://hdc.moph.go.th.

จิตรประภา รุ่งเรือง. (2563). ปัจจัยทำนายพฤติกรรมการป้องกันโรคปอดจากการทำงานของลูกจ้างโรงงานอุตสาหกรรมไม้ จังหวัดสมุทรปราการ.http://www.ir.buu.ac.th/dspace/bitsream/1515/183/1/59920422.pdf

นุจรีย์ ปอประสิทธ, และคณะ. (2563). ปัจจัยที่มีผลต่อคุณภาพการตรวจสมรรถภาพปอดด้วยวิธีสไปโรเมตรีย์ ที่คลินิกอาชีวเวชศาสตร์ โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี. วารสารวิทยาศาสตร์การแพทย์และสุขภาพ, 27(3), 69–82.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-10-31

รูปแบบการอ้างอิง

รอดมณี ส., ชัยพฤกษ์ไพรวัน เ. ., ตั้งสมบัติกุล ส. . ., & สุจริตธรรม น. . . (2025). ประสิทธิผลโปรแกรมความรอบรู้สุขภาพต่อระดับความรอบรู้สุขภาพปอด และสมรรถภาพปอดในกลุ่มพนักงานโรงโม่หิน จังหวัดเพชรบูรณ์. วารสารอนามัยสิ่งแวดล้อมและสุขภาพชุมชน, 10(5), 142–153. สืบค้น จาก https://he03.tci-thaijo.org/index.php/ech/article/view/4857