การพัฒนาระบบการป้องกันและควบคุมการแพร่กระจายเชื้อดื้อยาควบคุมพิเศษ โรงพยาบาลศรีสังวรสุโขทัย
คำสำคัญ:
ระบบการป้องกันและควบคุมการแพร่กระจายเชื้อ, เชื้อดื้อยาควบคุมพิเศษบทคัดย่อ
การวิจัยเชิงปฏิบัติการ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาระบบการป้องกันและควบคุมการแพร่กระจายเชื้อดื้อยาควบคุมพิเศษและศึกษาผลการพัฒนา กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยที่ตรวจพบเชื้อดื้อยาควบคุมพิเศษ จำนวน 30 ราย และพยาบาลที่ปฏิบัติงานในหอผู้ป่วยในที่ให้การพยาบาลผู้ป่วยที่ตรวจพบเชื้อ จำนวน 56 ราย ระหว่าง 16 พฤษภาคม 2561 ถึง 31พฤษภาคม 2562 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แนวปฏิบัติการป้องกันและควบคุมการแพร่กระจาย เชื้อดื้อยาควบคุมพิเศษ แบบบันทึกข้อมูลผู้ป่วย แบบติดตามการปฏิบัติ และแบบสอบถามความคิดเห็นของพยาบาลต่อระบบที่พัฒนาขึ้น วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติ chi square test , fisher exact test และIndependent t test เปรียบเทียบอุบัติการณ์การติดเชื้อด้วยสถิติ Incidence rate differences
ผลการวิจัยพบว่า แนวปฏิบัติการป้องกันการติดเชื้อฯ ประกอบด้วย1) การให้ความรู้ 2) แนวปฏิบัติครอบคลุมกิจกรรมการป้องกันการติดเชื้อที่สำคัญ ได้แก่ การสื่อสาร การจัดสถานที่แยก การป้องกันการติดเชื้อจากการสัมผัส การป้องกันการแพร่กระจายเชื้อจากอุปกรณ์และสิ่งแวดล้อม การลดปริมาณเชื้อบนร่างกาย การจำหน่ายผู้ป่วย 3) เครื่องมือสนับสนุน 4) การนิเทศโดยผู้ปฏิบัติมีส่วนร่วม ผลการพัฒนาอุบัติการณ์การติดเชื้อลดลงอย่าง มีนัยสำคัญทางสถิติ (P<0.05) การปฏิบัติเพื่อป้องกันการติดเชื้อฯ ของพยาบาล คะแนนสูงขึ้นเกือบทุกกิจกรรม แต่เมื่อทดสอบความแตกต่างคะแนนเฉลี่ยรายด้านพบว่ามีเพียงการลดปริมาณเชื้อบนร่างกาย ที่คะแนนสูงขึ้นอย่าง มีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) คะแนนความพึงพอใจของพยาบาลอยู่ในระดับพึงพอใจมากทุกด้าน
เจ้าหน้าที่ควรใช้แนวปฏิบัติที่ครอบคลุมกิจกรรมการป้องกันการติดเชื้อที่สำคัญ ให้ผู้ปฏิบัติมีส่วนร่วม ใช้วิธีการที่หลากหลาย และมีการนิเทศติดตามอย่างสม่ำเสมอ
Downloads
References
กำธร มาลาธรรม, วีรวัฒน์ มโนสิทธิและคณะ. (2562). การป้องกันการติดเชื้อดื้อยาต้านจุลชีพในโรงพยาบาล. อักษรกราฟฟิคแอนด์ดีไซด์.
ชมรมป้องกันและควบคุมการติดเชื้อในโรงพยาบาล. (2557). แนวทางปฏิบัติการป้องกันและควบคุมเชื้อก่อโรคดื้อยา. สำนักงานพระพุทธศาสนา.
ประจวบ ทองเจริญ, วันชัย มุ้งตุ้ย และ อะเคื้อ อุณหเลขกะ. (2558). ผลการใช้กลวิธีหลากหลายต่อการปฏิบัติของบุคลากรสุขภาพในการป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียดื้อยาหลายขนาน. พยาบาลสาร, 42(1), 61-73. https://he02.tci-thaijo.org/index.php/cmunursing/article/view/34847/28947
ปิยะฉัตร วิเศษศิริ, อะเคื้อ อุณหเลขกะและนงเยาว์ เกษตร์ภิบาล. (2558). การพัฒนารูปแบบการส่งเสริมการปฏิบัติการป้องกันการติดเชื้อดื้อยาของบุคลากรโรงพยาบาลแผนกอายุรกรรม โรงพยาบาลระดับตติยภูมิ. 42(3), 119-134. https://he02.tci-thaijo.org/ index.php/cmunursing/article/view/43566/36005
ภานุมาศ ภูมาศ, ตวงรัตน์ โพธะ,วิษณุ ธรรมลิขิตกุล, อาทร ริ้วไพบูลย์, ภูษิต ประคองสาย และสุพล ลิ้มวัฒนานนท์. (2555). ผลกระทบด้านสุขภาพและเศรษฐศาสตร์จากการติดเชื้อดื้อยาต้านจุลชีพในประเทศไทย: การศึกษาเบื้องต้น. วารสารวิจัยระบบสาธารณสุข, 6(3), 352-360.
วิไลลักษณ์ วงศ์จุลชาติ. (2560). การใช้กลวิธีหลากหลายเพื่อส่งเสริมการปฏิบัติตามแนวทางป้องกันและควบคุมการแพร่กระจายเชื้อดื้อยา ในโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต. วารสารวิชาการแพทย์เขต 11, 31(3), 441-456. https://he02.tci-thaijo.org/index.php/Reg11MedJ/article/view/170713/122713
วัลลภา ช่างเจรจา. (2560). ผลการพัฒนาแนวปฏิบัติต่ออัตราการติดเชื้อดื้อยาที่ต้องควบคุมเป็นกรณีพิเศษ โรงพยาบาลบึงกาฬ. https://www.bkh.moph.go.th
ศรีสังวรสุโขทัย. (2558-2561). รายงานผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการโรงพยาบาลศรีสังวรสุโขทัย. เอกสารไม่ได้ตีพิมพ์.
อนุชา อภิสารธนรักษ์. (2554). ตำราระบาดวิทยาและมาตรการควบคุมของเชื้อจุลชีพดื้อยาในโรงพยาบาล (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพเวชสาร
อะเคื้อ อุณหเลขกะ. (2561). แนวทางการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อดื้อยาในโรงพยาบาล (พิมพ์ครั้ง ที่ 4). มิ่งเมืองนวรัตน์.
CDC. (2017). Vancomycin resistant Enterococci (VRE). In healthcare setting. http://www.cdc.gov/HAI/organisms/vre.html.
Jane D. Siegel, Emily Rhinehart, Marguerite Jackson, Linda Chiarello. (2006). Management of multidrug resistant organism in healthcare setting, https://www.cdc.gov/infectioncontrol/pdf/guidelines/mdro-guidelines.pdf
Lewin. K. (1948). Action research and minority problem. Journal of Social Issues, 2(4), 34-46. https://doi.org/10.1111/j.1540-4560.1946.tb02295.x
National Center for Emerging and Zoonotic infection disease. (2012). Facility guidance for control of carbapenem resistant Enterobacteriaceae (CRE). http://www.cdc.gov/hai/pdfs/cre/CRE-guidance-508.pdf.
Wayne W.D. (1995). Biostatistics: A foundation of analysis in the health science. Biometrical Journal, 37(6), 744. https://doi.org/10.1002/bimj.4710370610
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2023 วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี พุทธชินราช

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.