การพัฒนาคุณภาพการบริการสำหรับผู้ป่วยในโครงการมะเร็งรักษาทุกที่ โรงพยาบาลลำพูน
คำสำคัญ:
คุณภาพการบริการ , โครงการมะเร็งรักษาทุกที่, ผู้ป่วยมะเร็งบทคัดย่อ
โครงการมะเร็งรักษาทุกที่เป็นบริการที่จัดสำหรับผู้ป่วยมะเร็งเพื่อสามารถเข้าถึงการรักษาได้รวดเร็ว ลดระยะเวลารอคอยคิวรักษา และได้รับการรักษาต่อเนื่อง การศึกษาเชิงพัฒนานี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาคุณภาพ การบริการโครงการมะเร็งรักษาทุกที่ โรงพยาบาลลำพูน โดยใช้กระบวนการพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่องโฟกัสพีดีซีเอ กลุ่มตัวอย่างในการศึกษาประกอบด้วย 1) บุคลากรที่ปฏิบัติงานในการให้บริการโครงการมะเร็งรักษาทุกที่แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ ทีมพัฒนาจำนวน 5 คน และทีมปฏิบัติจำนวน 32 คน และ 2) ข้อมูลผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าเป็นโรคมะเร็งในช่วงเวลาที่ศึกษา 2 ระยะจำนวน 124 ราย และ 66 ราย ตามลำดับ เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย แนวคำถามการประชุมกลุ่ม คู่มือการบริการโครงการมะเร็งรักษาทุกที่ แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล แบบตรวจสอบการบันทึกข้อมูล แบบบันทึกระยะเวลารอคอยการรักษา รวบรวมข้อมูลผลลัพธ์ ได้แก่ การบันทึกข้อมูลผู้ป่วยมะเร็ง และระยะเวลาที่ผู้ป่วยได้รับการผ่าตัด เคมีบำบัด และรังสีรักษาในโครงการมะเร็งรักษาทุกที่ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษาพบว่า พยาบาลบันทึกข้อมูลผู้ป่วยมะเร็งโปรแกรม TCB 2023 ถูกต้องครบถ้วนมากกว่าร้อยละ 80 นอกจากนี้ผู้ป่วยได้รับการผ่าตัดภายใน 4 สัปดาห์ ได้รับเคมีบำบัดภายใน 6 สัปดาห์ และได้รับรังสีรักษาภายใน 6 สัปดาห์ เท่ากับร้อยละ 100
ผู้บริหารทางการพยาบาลควรมีการติดตามประเมินผลลัพธ์ของการบันทึกและการบริการโครงการมะเร็งรักษาทุกที่ทั้งในเชิงความสมบูรณ์และความถูกต้องของการบันทึก การส่งต่อข้อมูล การประสานงานบริการ และผลลัพธ์ของการเข้าถึงการรักษาอย่างต่อเนื่อง
เอกสารอ้างอิง
จารุวรรณ เหลาสนิท, อัจฉรา มีดวง, และ จิราวรรณ โยธะมาตย์. (2567). การพัฒนารูปแบบการส่งเสริมการใช้ปฏิชีวนะอย่างสมเหตุผลโดยการมีส่วนร่วมของทีมสหวิชาชีพในโรงพยาบาลยางสีสุราช จ.มหาสารคาม. วารสารสิ่งแวดล้อมศึกษาการแพทย์และสุขภาพ, 9(4), 181-190.
จิดาภา ปิติพัฒน์ และ รินทร์ลภัส ใสยันต์. (2560). การพัฒนาคุณภาพการบันทึกทางการพยาบาลแผนกการพัฒนาคุณภาพการบันทึกทางการพยาบาลแผนก ผู้ป่วยใน โรงพยาบาลภูหลวง จังหวัดเลย. วารสารโรงพยาบาลสกลนคร, 23(1), 28-37.
ชัญญานุช พะลัง และ ปิ่นหทัย หนูนวล. (2563). การสนับสนุนทางสังคมและการปรับตัวของผู้ป่วยมะเร็งที่มารับการรักษา ที่สถาบันมะเร็งแห่งชาติ: วิจัย กรณีศึกษา. วารสารโรคมะเร็ง, 40(2), 62-75.
บุญใจ ศรีสถิตย์นรากูร. (2553). ระเบียบวิธีการวิจัยทางพยาบาลศาสตร์. คณะพยาบาลศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ศุภรดา ประเสริฐกุล, สมใจ ศิระกมล, และ บุญพิชชา จิตต์ภักดี. (2566). การพัฒนาคุณภาพการวางแผนจำหน่ายสำหรับผู้ป่วยโรคไตวายระยะสุดท้ายที่ได้รับการล้างไตทางช่องท้องอย่างต่อเนื่อง โรงพยาบาลนครพิงค์. วารสารสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สาขาภาคเหนือ, 29(1), 58-78.
ศูนย์ข้อมูล โรงพยาบาลลำพูน. (2565). ฐานข้อมูลสถิติโรคมะเร็ง. โรงพยาบาลลำพูน.
สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ. (2558). PDCA หัวใจสำคัญของการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง. https://www.ftpi.or.th/2015/2125
สถาบันมะเร็งแห่งชาติ. (2563). Cancer in Thailand Vol. X 2016-2018. กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข.
สถาบันมะเร็งแห่งชาติ. (2565). TCB online. http://www.tcb.nci.go.th/
สถาบันมะเร็งแห่งชาติ. (2567). Service Plan สาขาโรคมะเร็ง. https://www.nci.go.th›ptu›นิยามตัวชี้วัด
สมปอง พะมุลิลา, บำเพ็ญจิต แสงชาติ, และวรรษมน ปาพรม. (2562). ประสบการณ์การดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคมะเร็งท่อน้าดีและครอบครัว. วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี, 21(1), 146-154.
อนุวัฒน์ ศุภชุติกุล. (2564). เรียงร้อยและตกผลึกแนวคิดคุณภาพ ฐานของการสร้างความไว้วางใจ. สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การ มหาชน).
AlMutairi, A. N. M. (2015). The effect of using brainstorming strategy in developing creative problem solving skills among male students in Kuwait: A field study on Saud Al-Kharji school in Kuwait City. Journal of Education and Practice, 6(3), 136-145.
Gundelach, A., & Henry, B. (2016). Cancer-related psychological distress: A concept analysis. Clinical Journal of Oncology Nursing, 20(6), 630–634. https://doi.org/10.1188/16.CJON.630-634
Li, J., Talari, P., Kelly, A., Latham, B., Dotson, S., Manning, K., Thornsberry, L., Swartz, C., & Williams, M. V. (2018). Interprofessional Teamwork Innovation Model (ITIM) to promote communication and patient-centred, coordinated care. BMJ Quality & Safety, 27(9), 700–709. https://doi.org/10.1136/bmjqs-2017-007369
McLaughlin, C. P., & Kaluzny, A. D. (1999). Continuous quality improvement in health care: Theory, implement, and applications. Aspen.
National cancer institute. (2025). Cancer in Thailand vol.XI 2019-2021. https://www.nci.go.th/th/File_download/Nci%20Cancer%20Registry/Cancer%20in%20Thailand%20Vol.XI.pdf
Rhyne, J. D. (2024). Process Flows | What Is a Process Flow? https://www.nutrient.io/blog/processflows/
Salman, B. M., Ayaad, O., Ibrahim, R., AlHatrushi, M. S., Majed, M., Al Zadjali, R., AlTobi, Z. A., Atabani, A., AlHasani, G. M., AlMusheifri, M. N., El Kholy, M. I., Al Sheedi, S., AlHasni, N. S., Al-Hashar, A. K., Al-Awaisi, H. S., & Al-Baimani, K. (2025). Enhancing medication safety: Reducing administration errors in oncology setting. Asian Pacific Journal of Cancer Prevention: APJCP, 26(1), 269–277. https://doi.org/10.31557/APJCP.2025.26.1.269
Sollecito, W. A., & Johnson, J. K. (2018). The Global Evolution of Continuous Quality Improvement: From Japanese Manufacturing to Global Health Services. Jones & Bartlett Learning.
The International Agency for Research on Cancer. (2018). GLOBOCAN 2018. https://www.cancerhealth.com/article/world-health-organization-releases-latest-global-cancer-data
Trout, J. (2023). Fishbone diagram: Determining cause and effect. Reliable Plant. https://www.reliableplant.com/fishbone-diagram-31877
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี พุทธชินราช

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.