การพัฒนาคุณภาพการรายงานอุบัติการณ์หอผู้ป่วยหนักทารกแรกเกิดและเด็ก โรงพยาบาลลำพูน

ผู้แต่ง

  • จุฑามาศ คำพฤกษ์ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
  • กุลวดี อภิชาติบุตร คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
  • อรอนงค์ วิชัยคำ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

คำสำคัญ:

การรายงานอุบัติการณ์, การพัฒนาคุณภาพ, หอผู้ป่วยหนักทารกแรกเกิดและเด็ก

บทคัดย่อ

การศึกษาเชิงพัฒนานี้มุ่งพัฒนาคุณภาพการรายงานอุบัติการณ์ในหอผู้ป่วยหนักทารกแรกเกิดและเด็ก โรงพยาบาลลำพูน โดยใช้กระบวนการพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่องโฟกัสพีดีซีเอ ประชากรในการศึกษาครั้งนี้ คือ บุคลากรที่ปฏิบัติงานในหอผู้ป่วยหนักทารกแรกเกิดและเด็ก โรงพยาบาลลำพูนจำนวน 21 คน เครื่องมือที่ใช้ในการดำเนินการศึกษา ได้แก่ 1) แนวคำถามในการสนทนากลุ่ม 2) คู่มือการรายงานอุบัติการณ์ 3) แบบบันทึกเวลาการรายงานอุบัติการณ์ ซึ่งได้รับการตรวจสอบความชัดเจนของเนื้อหา ความเหมาะสมของเนื้อหา และการจัดลำดับคำถาม และ 4) แบบตรวจสอบการรายงานอุบัติการณ์ด้วยการบันทึกซึ่งมีค่าดัชนีความตรงของเนื้อหาเท่ากับ 1.0 และ 5) แบบสังเกตการรายงานอุบัติการณ์ด้วยวาจาซึ่งมีค่าดัชนีความตรงของเนื้อหาเท่ากับ 1.0 และมีค่าความสอดคล้องของการสังเกตเท่ากับ .94 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา

ผลการวิจัยพบว่าบุคลากรที่ปฏิบัติงานในหอผู้ป่วยหนักทารกแรกเกิดและเด็กสามารถปฏิบัติการรายงานอุบัติการณ์ด้วยการบันทึกได้ถูกต้อง ครบถ้วน อยู่ระหว่างร้อยละ 91.34 - 100 สามารถรายงานอุบัติการณ์ด้วยวาจาได้ถูกต้อง ครบถ้วนอยู่ระหว่างร้อยละ 85.78-100 สามารถรายงานอุบัติการณ์ด้วยการบันทึกในระยะเวลาที่กำหนด อยู่ระหว่างร้อยละ 97.27 - 100 และสามารถรายงานอุบัติการณ์ด้วยวาจาในระยะเวลาที่กำหนดอยู่ระหว่างร้อยละ 85.71 - 100

การพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่องช่วยส่งเสริมให้เกิดการรายงานอุบัติการณ์ที่มีประสิทธิภาพ ผู้บริหารทางการพยาบาลควรนำผลการวิจัยไปใช้โดยการกำหนดนโยบายที่สนับสนุนการรายงานอุบัติการณ์ที่มีคุณภาพ จัดอบรมเกี่ยวกับแนวทางการรายงานอุบัติการณ์แก่บุคลากรทางการพยาบาลทุกระดับทั่วทั้งโรงพยาบาล นิเทศกำกับติดตามการปฏิบัติตามแนวทางการรายงานอุบัติการณ์ และพัฒนาการบริการพยาบาลเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติการณ์ที่มี การรายงานอุบัติการณ์

เอกสารอ้างอิง

กณิกนันต์ ศรทอง, ปรัชญานันท์ เที่ยงจรรยา, และศศิธร ลายเมฆ. (2566). การวิเคราะห์สถานการณ์การรายงานอุบัติการณ์ความเสี่ยงในโรงพยาบาลกรุงเทพสุราษฎร์. พยาบาลสาร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 50(3), 17-30.

งานบริหารความเสี่ยงโรงพยาบาลลำพูน. (2565). นโยบายบริหารความเสี่ยงโรงพยาบาลลำพูน. โรงพยาบาลลำพูน.

งานบริหารความเสี่ยงโรงพยาบาลลำพูน. (2566). รายงานอุบัติการณ์ปีงบประมาณ 2566. โรงพยาบาลลำพูน.

งานบริหารทรัพยากรสุขภาพ. (2566). 7 QC Tool. คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

จิราวรรณ รุ่งเรืองวารินทร์, พรพิมล พลอยประเสริฐ, และ สมทรง บุตรชีวัน. (2560). การพัฒนาระบบการจัดการความเสี่ยง กลุ่มการพยาบาล โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา. วารสารสมาคมเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย, 7(1), 24-36.

จีระกุล ตันวัฒนากูล. (2555). การวิเคราะห์สถานการณ์การบริหารความเสี่ยงในหน่วยให้ยาเคมีบำบัดผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ [การค้นคว้าอิสระพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, เชียงใหม่.

ปรีดี นุกุลสมปรารถนา. (2564). รวมเทคนิคการระดมสมอง (Brainstorming) ที่น่าสนใจ. https://www.popticles.com/business/brainstorming-technique-examples/

วันรัตน์ จันทกิจ. (2563). 17 เครื่องมือนักคิด Problem Solving Devices. สำนักพิมพ์สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ.

ศูนย์ความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. (2561). คู่มือความปลอดภัยในการทำงาน. สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล. (2552). มาตรฐานโรงพยาบาลและบริการสุขภาพ ฉบับที่ 4. สำนักพิมพ์หนังสือดีวัน.

สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล. (2561). เป้าหมายความปลอดภัยของบุคลากรสาธารณสุขของประเทศไทย พ.ศ. 2561 (Personnel Safety Goals: SIMPLE Thailand 2018). เฟมัสแอนท์ซัคเซ็สฟูล.

สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน). (2565). มาตรฐานโรงพยาบาลและบริการสุขภาพ ฉบับที่ 5. บริษัท ก.การพิมพ์เทียนกวง จำกัด

อนุวัฒน์ ศุภชุติกุล. (2564). เรียงร้อยและตกผลึกแนวคิดคุณภาพฐานของการสร้างความไว้วางใจ. บริษัท ก.การพิมพ์เทียนกวง จำกัด

Arruum, D. (2019). Nurses’ barriers to incident reporting in patient safety culture: A literature review. Indonesian Journal of Global Health Research, 2(4), 385-392. https://doi.org/10.37287/IJGHR.V2I4.302

Christine, T. (2025). Five Steps of the Risk Management Process 2025. https://www.360factors.com/blog/five-steps-of-risk-management-process/

Hwang, J. I., Lee, S. I., & Park, H. A. (2012). Barriers to the operation of patient safety incident reporting systems in Korean general hospitals. Healthcare informatics research, 18(4), 279–286. https://doi.org/10.4258/hir.2012.18.4.279

Kodate, N., & Dodds, A. (2008). Factors affecting willingness to report patient safety incidents in hospitals. NIHR King's Patient Safety and Service Quality Centre. http://www.academia.edu/.../Factor_affecting_willingness_to_report_patient

Kotler, P. (2003). Marketing management. Pearson Education

Lama, S., & Khanal, D. (2021). Knowledge and barriers of incident report among nurses in teaching hospital, Bharatpur. Journal of Chitwan Medical College, 11(37), 115-118. https://doi.org/10.54530/jcmc.430

Mansouri, N., Azimi Hosseini, S., Azizinezhad, R., & Karimzadegan, H. (2019). Prioritization of patient safety management performance assessment criteria in healthcare centers. Journal Healthcare Management, 11(37), 79-89.

McLaughlin, C. P., & Kaluzny, A. D. (1999). Continuous Quality Improvement in Health Care: Theory, Implement, and Applications. Aspen.

Nakamura, N., Yamashita, Y., Tanihara, S., & Maeda, C. (2014). Effectiveness and sustainability of education about incident reporting at a university hospital in Japan. Healthcare Informatics Research, 203, 209-215. https://doi.org/10.4258/hir.2014.20.3.209.

National Patient Safety Agency. (2004). Seven Steps to Patient Safety. The Full Reference Guides. National Patient Safety Agency. http://www.npsa.nhs.uk/sevensteps

Pfeiffer, Y., Manser, T., & Wehner, T. (2010). Conceptualizing barriers to incident reporting: A psychological framework. Quality and Safety in Health Care, 19(6), 1-10. https://doi.org/10.1136/qshc. 2008.030445

Pham, J. C, Girard, T., & Pronovost, P. J. (2013). What to do with healthcare incident reporting systems. Journal of Public Health Research, 2(e27), 154-159.

Tansirisittikul, R. (2012). The Report of Patient Safety System Development Review. from http://www.shi.or.th. (In Thai)

Terzibanjan, A. R., Laaksonen, R., Weiss, M., Airaksinen, M., & Wuliji, T. (2007). Medication Error Reporting Systems-Lessons Learnt. http://www.fip.org/files/fip/Patien%20Safety/ Medication%20Error%20Reporting%20-020Lessons%20Learnt2008.pdf

Umberfield, E., Ghaferi, A. A., Krein, S. L., & Manojlovich, M. (2019). Using incident reports to assess communication failures and patient outcomes. The Joint Commission Journal on Quality and Patient Safety, 45(6), 406–413. https://doi.org/10.1016/j.jcjq.2019.02.007

Wang, J., Chen, K., Li, X., Jin, X., An, P., Fang, Y., & Mu, Y. (2019). Postoperative adverse events in patients with diabetes undergoing orthopedic and general surgery. Medicine, 98(14), e15089. https://doi.org/10.1097/MD.0000000000015089

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-07-26

รูปแบบการอ้างอิง

1.
คำพฤกษ์ จ, อภิชาติบุตร ก, วิชัยคำ อ. การพัฒนาคุณภาพการรายงานอุบัติการณ์หอผู้ป่วยหนักทารกแรกเกิดและเด็ก โรงพยาบาลลำพูน. NURS HEALTH & PUB J [อินเทอร์เน็ต]. 26 กรกฎาคม 2025 [อ้างถึง 25 ธันวาคม 2025];4(2):91-104. available at: https://he03.tci-thaijo.org/index.php/nhphj/article/view/4168

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย