การพัฒนาแนวปฏิบัติการช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บฉุกเฉินในโรงพยาบาลทุ่งเสลี่ยม
คำสำคัญ:
ผู้บาดเจ็บฉุกเฉิน, แนวทางปฏิบัติบทคัดย่อ
การวิจัยและพัฒนาฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและประเมินผลแนวปฏิบัติการช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บฉุกเฉิน โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ตามกรอบแนวคิด Evidence - based Practice Model ของ Soukup (2000) กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้ป่วยบาดเจ็บและฉุกเฉิน ที่มารับบริการช่วงเดือน มีนาคม 2561-กันยายน 2562 เลือกแบบเจาะจงตามเกณฑ์คัดเข้าจำนวน 98 รายและทีมฉุกเฉิน จำนวน 12 คน เครื่องมือ ประกอบด้วยแบบสนทนา แนวปฏิบัติ และแบบประเมินผลการใช้ตรวจสอบความตรงโดยผู้เชี่ยวชาญ 3 ท่าน ขั้นตอนได้แก่การวิเคราะห์สถานการณ์ การพัฒนาแนวปฏิบัติ ทดลองใช้และประเมินผล สถิติที่ใช้ ความถี่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ เปรียบเทียบข้อมูลด้วยการทดสอบ Paired t- test ผลการวิจัยพบว่า การมีแนวปฏิบัติที่ชัดเจน โดยกำหนดบทบาทหน้าที่การจัดเตรียมอุปกรณ์และเวชภัณฑ์ให้พร้อมใช้ส่งผลให้เกิดความปลอดภัย โดยวัดได้จากค่าความเข้มข้นของออกซิเจนก่อนและหลังแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P< .05) การช่วยเหลือในห้องฉุกเฉินเฉลี่ย 75.34 นาที ซึ่งใช้เวลาน้อยกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้และความพึงพอใจของทีมในการใช้แนวปฏิบัติโดยรวมหลังพัฒนามากกว่าก่อนการพัฒนาในระดับมากที่สุด(ค่าเฉลี่ย 4.37) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติสรุปได้ว่าการพัฒนาแนวปฏิบัติการช่วยชีวิตโดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์มีประโยชน์สามารถนำไปใช้เกิดผลลัพธ์ที่ดีกับผู้ป่วย
References
กรมการแพทย์กระทรวงสาธารณสุข.(2560). การขับเคลื่อนตัวชี้วัด Service Plan Trauma & Emergency. พิมพ์ครั้งที่ 2. สืบค้นจาก www.pi.ac.th/news/file/532.(วันที่ค้นข้อมูล : 10 ตุลาคม 2561).
กรองได อุณหสูต และเครือข่ายพยาบาลอุบัติเหตุ แห่งประเทศไทย. (2551). ผลการใช้แนวปฏิบัติการพยาบาลผู้ป่วยบาดเจ็บจากภาวะคุกคามชีวิตในการจัดการช่วยชีวิตในห้องฉุกเฉิน. การประชุมวิชาการคณะพยาบาลศาสตร์ประจำปี2551 ครั้งที่ 1 กรุงเทพฯ: ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็น พีเพลส.
พนอ เตชะอธิก, สุนทราพร วนสุพงศ์ และ สุมนา สมฤทธิ์รินทร์. (2554). ผลการใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ในการพยาบาลผู้บาดเจ็บหน่วยผู้ป่วยนอกอุบัติเหตุและฉุกเฉิน. วารสารพยาบาลศาสตร์และสุขภาพ.34(3),65-74.
เพ็ญศรี ดำรงจิตติ์, รสสุคนธ์ศรีสนิท, พรเพ็ญ ดวงดี. (2557). แนวทางปฏิบัติทางการพยาบาลในการช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บรุนแรงในโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร.เข้าถึงได้จาก : URL: http://phpn.ph.mahidol.ac.th/Journal. (สืบค้นเมื่อ 26 พฤศจิกายน 2560).
วราภรณ์ ดีน้ำจืด, กรองได อุณหสูต และ ทิพา ต่อสกุลแก้ว. (2551). การพัฒนาแนวปฏิบัติการพยาบาลเพื่อจัดการภาวะคุกคาม ชีวิตในผู้ป่วยอุบติเหตุ. วชิรสารการพยาบาล.10(1),33-50.
สุนิดา อรรถอนุชิต, วิภา แซ่เซี้ย และ ประณีต ส่งวัฒนา. (2553). การพัฒนาแนวปฏิบัติการพยาบาลในการประเมินสภาพแรกรับของผู้ป่วยได้รับการบาดเจ็บหลายระบบที่เข้ารักษาในหอผู้ป่วยอุบัติเหตุ.วารสารมหานราธิวาสราชนครินทร์.2(2),16-28.
โสภณ กฤษณะรังสรรค์และคณะบรรณาธิการ. (2558). คู่มือการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานและเครื่องช็อกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ(เออีดี: AED). พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร: บจก.ปัญจมิตรการพิมพ์.
Soukup, S. M. (2000). Evidence-based practice model promoting the scholarship of practice. In S. M. Soukup & C. F. Beason Eds). Nursing Clinic of North America. (pp.301-309). Philadelphia: W. B. Saunders.
Strauss, R.W., Halterman, M.K., Garmel, G.M. (2013). Strauss and Mayer’s Emergency Department Management. (2nd ed).New York : Mc Graw-hill.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2020 วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนอร์ทเทิร์น
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.