ประสิทธิผลโปรแกรมการส่งเสริมพฤติกรรมการป้องกันอันตรายจากการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชของเกษตรกรผู้ปลูกอ้อยตำบลข่อยสูง อำเภอตรอน จังหวัดอุตรดิตถ์
คำสำคัญ:
ประสิทธิผล, โปรแกรมการส่งเสริมพฤติกรรมการป้องกันอันตรายจากการใช้สารเคมี, สารเคมีกำจัดศัตรูพืช, เกษตรกรผู้ปลูกอ้อยบทคัดย่อ
บทคัดย่อ
การวิจัยกึ่งทดลองเป็นการศึกษาแบบกลุ่มเดียววัดผลก่อนและหลังการทดลองมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประสิทธิผลของโปรแกรมการส่งเสริมพฤติกรรมการป้องกันอันตรายจากการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช กลุ่มตัวอย่างคือ เกษตรกรผู้ปลูกอ้อยตำบลข่อยสูง จำนวน 32 ราย โปรแกรมการส่งเสริมพฤติกรรมการป้องกันอันตรายจากการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช พัฒนาขึ้นโดยการนำผลการวิจัยจากระยะที่ 1มาใช้ในการออกแบบโปรแกรมฯ ได้แก่ ตัวแปรที่มีความสัมพันธ์ต่อพฤติกรรมการป้องกันอันตรายจากการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ประกอบด้วย การรับรู้ด้านสุขภาพ ได้แก่ การรับรู้ประโยชน์ของการป้องกัน การรับรู้อุปสรรค สิ่งชักนำให้เกิดการป้องกัน และระยะเวลาในการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช โดยประยุกต์ทฤษฎีการรับรู้ด้านสุขภาพ ร่วมกับแรงสนับสนุนทางสังคม การสนับสนุนให้กำลังใจ และการกระตุ้นเตือนโดยใช้แรงสนับสนุนทางสังคม ประกอบด้วย 5 กิจกรรม ได้แก่ กิจกรรมที่ 1 กิจกรรมเกษตรกรกับการจัดการตนเอง กิจกรรมที่ 2 กิจกรรมสร้างการรับรู้ด้านสุขภาพ กิจกรรมที่ 3การสร้างเสริมพฤติกรรมการป้องกันอันตรายจากการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช กิจกรรมที่ 4กิจกรรมการสร้างแรงสนับสนุนเพื่อลดการเจ็บป่วยด้วยโรคและภัยจากการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช กิจกรรมที่ 5 เวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ระยะเวลาทดลอง 4 เดือน เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูลคือ แบบสอบถาม การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติ Independent t-test ผลการวิจัยพบว่า ภายหลังการทดลองตัวแปรที่มีค่าคะแนนเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับก่อนทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ประกอบด้วย การรับรู้ด้านสุขภาพ (P-Value<0.001) พฤติกรรมสุขภาพ (P-Value=0.001) ตามลำดับ
เอกสารอ้างอิง
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงสาธารณสุข. (2567). คลังข้อมูลสุขภาพ Health Data Center (HDC-Dashboard).
https://hdcservice.moph.go.th/hdc/main/index.php.
จุฑามาศ ศรีมานนท์ และ คณะ. (2564) ผลของโปรแกรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการป้องกันตนเองจาก
สารเคมีกำจัดศัตรูพืชของ เกษตรกรที่มีผลเลือดอยู่ในระดับเสี่ยงและไม่ปลอดภัย โดยประยุกต์ใช้ ทฤษฎีแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพ.วารสารสหวิชาการเพื่อสุขภาพ, 3(2), 32-48
ชัชวาล จันทรวิจิตร และ คณะ. (2564). คู่มือการใช้สารกำจัดศัตรูพืชอย่างปลอดภัย. บริษัท สยามพิมพ์นาวา
จำกัด.
ณัฐวุฒิ กกกระโทก และ พุฒิพงศ์ สัตยวงศ์ทิพย์. (2562). ผลของโปรแกรมสื่อสารความเสี่ยงด้านสุขภาพต่อ
แรงจูงใจเพื่อป้องกันอันตรายจากการใช้สารเคมีกาจัดศัตรูพืชของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว อำเภอหนองหงส์ จังหวัดบุรีรัมย์.วารสารชุมชนวิจัย, 13, 239-250
บุญยงค์ บุคำ. (2567).ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการป้องกันอันตรายจากการใช้สารเคมีกำจัด
ศัตรูพืชของเกษตรกรผู้ปลูกอ้อย ในพื้นที่ตำบลข่อยสูง อำเภอตรอน จังหวัดอุตรดิตถ์.วารสาร
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนอร์ทเทิร์น. 5(4): 49-61.
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลข่อยสูง. (2567). รายงานสรุปผลการดำเนินงานด้านสาธารณสุขประจำปี
งบประมาณ 2567. โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลข่อยสูง จังหวัดอุดิตถ์.
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุตรดิตถ์. (2567). คลังข้อมูลสุขภาพ Health Data Center (HDC-
Dashboard).https://utt.hdc.moph.go.th/hdc/reports/page.php?cat_id=f16421e617aed29602f9f09d951cce68
วรรณา วรรณศรี, น้ำทิพย์ อยู่ยืน และ ยุพมาศ สุกใส. (2564). ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการใช้สารเคมีกำจัด
ศัตรูพืชของเกษตรกรในพื้นที่บ้านปลื้มพัฒนา ตำบลโคกมะม่วง อำเภอปะคา จังหวัดบุรีรัมย์.
วารสารวิชาการเฉลิมกาญจนา, 8, 128-141.
Cronbach. (1997). Essentials of Psychological Testing. New york: Harper and Row.
Orem, D. E. (2001). Nursing: Concepts of practice (4th ed.). St. Louis: Mosby Year Book.
Rosenstock, I. M. (1974). Historical origins of the health belief model. Health
Education Monographs, 2(4), 328-335
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
