รายงานการศึกษา การระบาดของโรคไข้เลือดออก ตำบลโนนเมือง อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู ระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม - 16 พฤศจิกายน 2566
คำสำคัญ:
การสอบสวนโรค, การระบาด, ไข้เลือดออกบทคัดย่อ
การศึกษาการระบาดโรคไข้เลือดออกในพื้นที่ตำบลโนนเมือง อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู ระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม - 16 พฤศจิกายน 2566 เพื่อศึกษาการระบาดของโรคไข้เลือดออก ตามการกระจายของบุคคล เวลา และสถานที่ โดยการสำรวจแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายในพื้นที่ การศึกษาการรับรู้ และความตระหนักของประชาชนต่อโรคไข้เลือดออก และเพื่อประเมินประสิทธิภาพเครื่องพ่นสารเคมี และหามาตรการควบคุมการระบาดของโรคไข้เลือดออก ผลการศึกษา พบช่วงการระบาดระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นนักเรียน อายุ 5 - 9 ปี ลักษณะอาการเป็นไข้เดงกี (Dengue Fever, DF) ในพื้นที่ตำบลโนนเมือง พบการระบาด 46 ราย ทั้ง 15 หมู่บ้าน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมจนถึงตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูฝน มีการระบาดสูงในหมู่ที่ 1, 8, 12 และ 15 จากการสอบสวนพบว่า เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการควบคุมโรคระดับพื้นที่ (Communicable Disease Control Unit, CDCU) ดำเนินการควบคุมโรคตามมาตรการ 3-3-1 การควบคุมยุงพาหะโรคไข้เลือดออก โดยการพ่นสารเคมีในบ้านของผู้ป่วยและรัศมี 100 เมตร จากการสำรวจพบพื้นที่มีค่าดัชนีความชุกชุมของลูกน้ำยุงลายในบ้าน มากกว่า 5 ทั้งนี้ การผสมสารเคมีในการพ่นแบบ Ultra Low Volume (ULV) ผสมอัตราน้อยกว่าเกณฑ์ และชุมชนมีมาตรการกำจัดลูกน้ำยุงลาย โดยใช้การเลี้ยงปลาในภาชนะ แต่ยังไม่ครอบคลุมทุกภาชนะ การศึกษาการรับรู้และความตระหนักของประชาชน โดยส่วนใหญ่ ทราบอาการเบื้องต้นของโรคไข้เลือด ร้อยละ 75.00 มีการรับรู้การห้ามกินยาแก้บรรเทาอาการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (Non-Steroidal Anti-Inflammatory Drugs, NSAIDs) ร้อยละ 50.00 รับรู้ว่าเมื่อป่วยเป็นไข้เลือดออกแล้วไม่รีบรักษามีโอกาสเสียชีวิตได้ ร้อยละ 87.50 ดำเนินการกำจัดแหล่งวางไข่ยุงลายในบ้าน และบริเวณบ้าน ร้อยละ 87.50 โดยวิธีเลี้ยงปลากินลูกน้ำ ร้อยละ 62.50 กางมุ้ง ร้อยละ 50.00 กำจัดลูกน้ำยุงลายบริเวณบ้านร้อยละ 43.80 และกำจัดยุงลายในบ้าน ร้อยละ 43.80 การระบาดโรคไข้เลือดออกครั้งนี้ คาดว่าเป็นการนำเชื้อไวรัสเดงกีเข้ามาแพร่ในพื้นที่ เนื่องจากนักเรียนมีการศึกษาอยู่นอกพื้นที่ และไม่มีการป้องกันการถูกยุงกัด รวมทั้งอยู่ในช่วงฤดูฝน เป็นปัจจัยเพิ่มโอกาส ในการเพาะพันธุ์ของยุงพาหะนำโรคตามภาชนะที่พบทั้งในบ้านและนอกบ้าน ส่วนใหญ่ประชาชนมีความตระหนักต่อโรคไข้เลือดออก ควรมีการรณรงค์เรื่องการป้องกันยุงลายอย่างต่อเนื่องในชุมชน ด้านการใช้เครื่องพ่นสารเคมี ควรผสมสารเคมีในอัตราส่วนที่ถูกต้อง บำรุงรักษาเครื่องพ่นให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมหามาตรการดำเนินการควบคุมโรค และให้การเฝ้าระวังโรคเป็นไปอย่างเข้มงวด
เอกสารอ้างอิง
กองโรคติดต่อนำโดยแมลง กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. แนวทางการดำเนินงานเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคติดต่อนำโดยยุงลาย สำหรับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข พ.ศ. 2564. กรุงเทพฯ: อักษรกราฟฟิคแอนด์ดีไซน์; 2564.
กองโรคติดต่อนำโดยแมลง กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. คู่มือสารเคมีและเครื่องพ่นสารเคมี เพื่อควบคุมยุงพาหะนำโรค. กรุงเทพฯ: อักษรกราฟฟิคแอนด์ดีไซน์; 2565.
รุจิรา เลิศพร้อม. ผลการสำรวจลูกน้ำยุงลายกับการเกิดโรคไข้เลือดออกในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 4 ปี พ.ศ.2560-2562. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. 2563;1(2):59-66.
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข. ยุงร้ายกว่าเสือ. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย; 2559.
สำนักโรคติดต่อนำโดยแมลง กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. คู่มือการใช้เครื่องพ่นสำหรับผู้ปฏิบัติการ เพื่อป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก. พิมพ์ครั้งที่ 4. นนทบุรี: สำนักโรคติดต่อนำโดยแมลง กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข; 2560.
กฤษณะ สุกาวงค์, เชาวชื่น เชี่ยวการรบ, คเณศวร โคตรทา, ทรงเกียรติ ยุระศรี, ธนวัฒน์ ชนะแสบง, ผไทมาศ เปรื่องปรีชาศักดิ์ และคณะ. การสอบสวนการระบาดของโรคไข้เด็งกี เดือนสิงหาคม-กันยายน พ.ศ.2566 ในหมู่ 7 และหมู่ 10 ตำบลกุดดู่ อำเภอโนนสัง จังหวัดหนองบัวลำภู. วารสารสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 ขอนแก่น. 2567;31(2): 29-44.



อัพเดต : วันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 
