การลดความรุนแรงโดยใช้กิจกรรมบทบาทสมมติเสมือนจริงผ่านแพลตฟอร์มเมตาเวิร์ส สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ในจังหวัดเพชรบุรีและจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนากิจกรรมบทบาทสมมติเสมือนจริงเพื่อลดความรุนแรงของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น 2) เพื่อเปรียบเทียบพฤติกรรมการลดความรุนแรงของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นก่อนและหลังการใช้กิจกรรมบทบาทสมมติเสมือนจริง วิธีการดำเนินการวิจัยเป็นการวิจัยและพัฒนา (R&D) แบ่งเป็น 4 ขั้นตอน ได้แก่ 1) ศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน 2) ออกแบบและพัฒนา 3) ทดลองใช้ และ 4) ประเมินผล โดยกลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยขั้นทดลองใช้เป็นนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี และโรงเรียนธนาคารออมสิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โรงเรียนละ 30 คน รวมทั้งหมด 60 คน โดยการสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง ดำเนินการทดลองสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ๆ ละ 30 นาที จำนวน 6 สัปดาห์ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ 1) กิจกรรมบทบาทสมมติเสมือนจริงผ่านแพลตฟอร์มเมตาเวิร์สสำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นในจังหวัดเพชรบุรีและจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น 2) แบบทดสอบพฤติกรรมการลดความรุนแรง การวิเคราะห์ข้อมูลใช้การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื้อหา ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่า t-test dependent ผลการวิจัยพบว่า
1. กิจกรรมบทบาทสมมติเสมือนจริงเพื่อลดความรุนแรงของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ซึ่งได้กิจกรรมบทบาทสมมติเสมือนจริง ทั้งหมด 3 สถานการณ์ ดังนี้ 1) การลดความรุนแรงทางเพศ 2) การลดความรุนแรงทางสังคมและทางไซเบอร์ และ 3) การลดความรุนแรงทางกายภาพและทางวาจา มีค่า IOC 0.93
2. พฤติกรรมการลดความรุนแรงของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่ได้รับการจัดกิจกรรมบทบาทสมมติเสมือนจริงหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
Article Details
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์การกีฬาและนวัตกรรมสุขภาพ กลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งประเทศไทย ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสาร ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์การกีฬาและนวัตกรรมสุขภาพ กลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งประเทศไทย ถือเป็นลิขสิทธิ์ของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใด จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารวิทยาศาสตร์การกีฬาและนวัตกรรมสุขภาพ กลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งประเทศไทย ก่อนเท่านั้น
เอกสารอ้างอิง
Boonlue, S. (2022). Metaverse for Education: The Connection between the Metaverse with The Real World of Learning to Create Immersive Learning. Academic Journal of North Bangkok University, 11(1), 9-16 (In Thai)
Child and Adolescent Mental Health Rajanagarindra Institute. (2018). A practical guide to preventing and managing bullying in schools. Bangkok: Beyond Publishing. (In Thai)
Department of Health Service Support. (2024). “Bullying” is not a child’s play [Online]. Retrieved April 3, 2025. https://prgroup.hss.moph.go.th/medias/article/3522 (in Thai)
Kachendecha, S., Sirawong, N. & Trirat, N. (2023). The Concept of Metaverse Using in Teaching Culinary Arts. Dusit Thani College Journal, 17(3), 205-218. (In Thai)
Khammanee, T. (2024). Teaching Science: Knowledge for Effective Learning Process. 23rd ed. Bangkok: Chulalongkorn University Press. (In Thai)
Suepheng, P. & Pakdeewong, P. (2019). The Guidelines for Managing Peace Education for Reduce Violence in Basic Education Schools. Journal of Education Naresuan University. 21(2), 225-238. (In Thai)
Suwannasri, P., Suwannasri, P., Mannoy , T. & Thiwong, T. (2024). Developing Learning Innovative in The Metaverse World of a Computing Science Course at The Upper Primary Level. Journal of Graduate Research, 15(1), 53-66. (In Thai)
Thathom, N., Sucher, S. & Sonboon, C. (2022). Effects of Using Role-Playing Activities to Enhance the Social Behaviors of Kindergarteners in a Multicultural Classroom. Journal of Education Studies Chulalongkorn University, 50(3), 1-12. (In Thai)