ผลของโปรแกรมการให้คำแนะนำแบบสั้นในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมความร่วมมือในการใช้ยาผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2

ผู้แต่ง

  • สุปราณี บุตรสมบัติ โรงพยาบาลร่องคำ อำเภอร่องคำ จังหวัดกาฬสินธุ์

คำสำคัญ:

ผู้ป่วยโรคเบาหวาน, คำแนะนำแบบสั้น, ระดับน้ำตาลในเลือด

บทคัดย่อ

     การวิจัยนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง (Quasi Experiment Research) แบบวัดก่อนหลังกลุ่มเดียวในกลุ่มทดลองจำนวน 53 คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม โดยวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ ได้แก่ สถิติเชิงพรรณนา ในการหาค่าความถี่ (Frequency) ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean), ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation), ค่าต่ำสุด (Minimum), ค่าสูงสุด (Maximum) และสถิติใช้ในการเปรียบเทียบด้วยสถิติ paired simple t-test, , Repeated measures ANOVA กำหนดระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05
     ผลการศึกษา: หลังจากกลุ่มทดลองเข้าร่วมโปรแกรม พบว่า เมื่อเปรียบเทียบความรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวานของผู้ป่วยโรคเบาหวานมีค่าเฉลี่ยความรู้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 และระดับน้ำตาลเฉลี่ยสะสมในเลือด (HbA1c), ค่าเฉลี่ยระดับน้ำตาลในเลือด Fasting Blood Sugar (FBS) หลังดำเนินการ พบว่ามีค่าเฉลี่ยลดลงเมื่อเปรียบเทียบก่อนเข้าร่วมโปรแกรม ซึ่งมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05

References

กรมควบคุมโรค กระทรงสาธารณสุข. กรมควบคุมโรค รณรงค์วันเบาหวานโลก 2566 มุ่งเน้นให้ความรู้ประชาชนถึงความเสี่ยงโรคเบาหวานและหากตรวจพบก่อนจะลดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้. สำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ. จังหวัดนนทบุรี; 2566.

American diabetes association. Standards of medical care in diabetes-2018 abridged for primary care providers. Diabetes care [Internet]. 2018 Jan [cited 2018 May 15]. 41(Suppl.1); S1-S159. Available from: http://clinical.diabetesjournals. org/content/36/1/14

International diabetes federation. IDF clinical practice recommendations for managing type 2 diabetes in primary care. Brussels, Belgium: International diabetes federation, 2017.

สมคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย. แนวทางเวชปฏิบัติสำหรับโรคเบาหวาน 2560. กรุงเทพฯ: ร่วมเย็นมีเดีย, 2560

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์. อัตราการป่วยด้วยโรคเบาหวาน จังหวัดกาฬสินธุ์ HDC จังหวัดกาฬสินธุ์ 2565 - 2567 [อินเทอร์เน็ต]. กาฬสินธุ์: สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์; 2567 [เข้าถึงเมื่อ 4 ส.ค. 2567]. เข้าถึงได้จาก: https://ksn.hdc.moph.go.th/hdc/reports/page.php?cat_id=6a1fdf282fd28180eed7d1cfe0155e11

เทอดศักดิ์ เดชคง. ผลของโปรแกรมการสนทนาแบบสร้างแรงจูงใจต่อค่าซีสโตลิคและไดแอสโตลิคในผู้ป่วยความดันโลหิตสูง. วารสารวิชาการกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ. 2566;3(2):59-68. เข้าถึงจาก: https://thaidj.org/index.php/jdhss/article/view/9503

พนิตนันท์ วงศ์สุวรรณ. การพัฒนาเครื่องมือแบบประเมินแรงจูงใจในการรับประทานยา และพฤติกรรมการรับประทานยาอย่างต่อเนื่องในผู้สูงอายุ โรคความดันโลหิตสูงในชุมชน. วารสารการพยาบาลและการศึกษา. 2560;10(1).

สุนันทา ภักดีอำนาจ เชาวกิจ ศรีเมืองวงศ์ และสุรีรัตน์ ณ วิเชียร. (2566). ผลของโปรแกรมพัฒนาความรู้และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพต่อความรู้ พฤติกรรม และระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ในเขตเมือง. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุพรรณบุรี; 6(2). 53-66

นงลักษณ์ เทศนา จมาภรณ์ ใจภักดี บุญทนากร พรหมภักดี กนกพร พินิจลึก. (2558). รายงานการวิจัยเรื่องการพัฒนารูปแบบการป้องกันการป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ในประชาชนกลุ่มเสี่ยง. สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 จังหวัดขอนแก่น, น.49-55

ณัฐนนท์ พีระภาณุรักษ์. (2565). ประสิทธิผลของโปรแกรมการสร้างเสริมพลังในการดูแลสุขภาพตนเองของผู้ป่วยโรคเบาหวาน อำเภอศรีเมืองใหม่ จังหวัดอุบลราชธานี วารสารสุขภาพและสิ่งแวดล้อมศึกษา;7(4). 199-209 สืบค้นจาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/hej/article/view/260585/176253

Xu, R., Xing, M., Javaherian, K., Peters, R. M., Ross, W., & Bernal-Mizrachi, C. (2020). Improving HbA1c with glucose self-monitoring in diabetic patients with EpxDiabetes, a phone call and text message-based telemedicine platform: A randomized controlled trial. Telemedicine and E-Health, 26(1), 42–48. https://doi.org/10.1089/tmj.2019.0035

Kebede, M. M., Zeeb, H., Peters, M., Heise, T. L., & Pischke, C. (2018). Effectiveness of digital interventions for improving glycemic control in persons with poorly controlled type 2 diabetes: A systematic review, meta-analysis, and meta-regression analysis. Diabetes Technology & Therapeutics, 20(11), 767–782. https://doi.org/10.1089/dia.2018.0216

เกสราวรรณ ประดับพจน์ และศิริลักษณ์ แก่นอินทร์. (2564). ผลของโปรแกรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ 3 self ต่อการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำตาลในเลือด ความดันโลหิตสูง และเส้นรอบเอวของกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิตสูง อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์; 8(5):148-161.

ปรางค์ บัวทองคำวิเศษ, ดวงกมล ปิ่นเฉลียว, และสุทธีพร มูลศาสตร์. (2560). ประสิทธิผลของโปรแกรมการจัดการตนเองในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ในตำบลท่าก๊อ อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย. วารสารพยาบาลตำรวจ, 9(1). 105-116.

Rusdiana, Savira, M., & Amielia, R. (2018). The Effect of Diabetes Self-Management Education on Hba1c Level and Fasting Blood Sugar in Type 2 Diabetes Mellitus Patients in Primary Health Care in Binjai City of North Sumatera, Indonesia. Open Access Maced J Med Sci., 6(4), 715-718.

Dong Y., Wang P., Dai Z., Liu K., Jin Y., Li A., et al. (2018). Increased self-care activities and glycemic controlrate in relation to health education via Wechat among diabetes patients: A randomized clinicaltrial. Medicine (Baltimore) 97(50): e13632

Madmoli M., Madmoli M., Aliabad M.A., Khodadadi M., Ahmadi F.P. (2019). A systematic review on theimpact of empowerment in improving self-care behaviors and some other factors in diabeticpatients. International Journal of Health and Biological Sciences; 2(1): 11-16.

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2025-02-28

How to Cite

บุตรสมบัติ ส. . (2025). ผลของโปรแกรมการให้คำแนะนำแบบสั้นในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมความร่วมมือในการใช้ยาผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2. วารสารอนามัยสิ่งแวดล้อมและสุขภาพชุมชน, 10(1), 57–67. สืบค้น จาก https://he03.tci-thaijo.org/index.php/ech/article/view/3809