การพัฒนารูปแบบการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลตนเองเพื่อป้องกันโรคเบาหวาน ของประชาชนกลุ่มเสี่ยง ในเขตพื้นที่ของศูนย์สุขภาพชุมชนโพนงาม จังหวัดอุบลราชธานี
บทคัดย่อ
การวิจัยและพัฒนานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาการพัฒนาและประเมินผลรูปแบบการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลตนเองเพื่อป้องกันโรคเบาหวานของประชาชนกลุ่มเสี่ยง และนำผลการพัฒนารูปแบบไปใช้ในการแก้ไขปัญหากลุ่มอื่นที่มีลักษณะปัญหาใกล้เคียงกันต่อไป กระบวนการวิจัยครอบคลุม 3 ระยะดังนี้ ระยะที่ 1 ศึกษาปัญหาในเรื่อง พฤติกรรมการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของกลุ่มเสี่ยงเบาหวาน รูปแบบการวิจัย การวิจัยเชิงสำรวจและการสนทนากลุ่ม ระยะที่ 2 การพัฒนารูปแบบในการแก้ปัญหาโดยการยกร่างโปรแกรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพเพื่อการดูแลตนเองของกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน ดังนี้ 1. กำหนดสภาพปัญหาและความจำเป็น 2.วัตถุประสงค์ของการพัฒนาโปรแกรม 3.องค์ประกอบของโปรแกรม 4.จัดทำรายละเอียดกิจกรรมของโปรแกรม 5.เครื่องมือที่ใช้ 6.การประเมินคุณภาพของรูปแบบโปรแกรมที่พัฒนาโดยผู้ทรงคุณวุฒิ ระยะที่ 3 การประเมินผลรูปแบบ สำหรับกลุ่มตัวอย่างมาจากการสุ่มอย่างง่าย แบ่งเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มเปรียบเทียบกลุ่มละ 40 คน เครื่องมือวิจัยประกอบด้วย 1.เครื่องมือที่เป็นรูปแบบโปรแกรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลตนเอง 2.เครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถาม ระยะเวลาดำเนินการ 12 สัปดาห์ วิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา เปรียบเทียบความแตกต่างค่าเฉลี่ยคะแนน วิเคราะห์ด้วยสถิติ Paired Sample t-test และ Independent t-test ที่ระดับนัยสำคัญ 0.05
ผลการวิจัย พบว่า กลุ่มทดลองที่เข้าร่วมโปรแกรม มีผลลัพธ์ที่ดีขึ้นกว่าก่อนการทดลองและกลุ่มเปรียบเทียบ ในด้านความเชื่อในโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน ความเชื่อในความรุนแรงของการเกิดโรคเบาหวาน ความเชื่อในผลดีและอุปสรรคของการป้องกันการเกิดโรคเบาหวาน การปฏิบัติพฤติกรรมเพื่อป้องการเกิดโรคเบาหวาน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ส่วนระดับน้ำตาลในเลือด ค่าดัชนีมวลกาย ลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ เส้นรอบเอวพบว่าลดลงกว่าการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ แต่ไม่แตกต่างจากกลุ่มเปรียบเทียบ แต่เมื่อพิจารณาจากผลต่างค่าเฉลี่ยของเส้นรอบเอวที่ลดลงมากกว่าก่อนการทดลอง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่ดีขึ้น แสดงว่ารูปแบบการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลตนเองเพื่อป้องกันโรคเบาหวานที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิผลตามเกณฑ์และสามารถขยายผลนำไปใช้ในพื้นที่อื่นเพื่อป้องกันการเกิดโรคเบาหวานรายใหม่ต่อไป