Factors Associated to Health-Promoting Behavior and Prevention of Recurrence of Chronic Neck and Shoulder Pain Syndrome by Thai Traditional Medicine Services Among Working Age
Keywords:
Chronic Neck and Shoulder Pain Syndrome, Health-Promoting Behavior, Thai Traditional MedicineAbstract
This cross-sectional analytical study examined the relationships between personal factors, pain syndrome knowledge, perception factors, and practice-triggering factors with health-promoting behaviors and recurrence prevention in patients with chronic neck and shoulder pain syndrome receiving Thai traditional medicine services. The sample consisted of 179 working-age patients, selected through simple random sampling from the Hospital of Thai Traditional and Alternative Medicine at the Government Complex, Bangkok. The research instrument was a questionnaire that underwent content validity and reliability testing. Data were analyzed using descriptive statistics and logistic regression analysis.
The results showed that the majority of participants were female (53.10%) with a mean age of 37.72 ± 10.28 years, working in government service or state enterprises, with repetitive work postures. The sample group demonstrated high levels of pain syndrome knowledge, perceived susceptibility, and perceived benefits, while perceived severity and perceived barriers were at moderate levels. Regarding triggering factors, internal factors were at moderate levels, while external factors were at high levels. Health-promoting and recurrence-prevention behaviors were predominantly at high levels. Multivariate analysis revealed two factors significantly associated with health-promoting and recurrence-prevention behaviors (p < 0.05): reaching movements at work (AOR: 2.62, 95%CI: 1.37-4.50) and external triggering factors (AOR: 16.14, 95%CI: 1.98-131.40)
References
ประวิตร เจนวรรธนะกุล, ปราณีต เพ็ญศรี, ธเนศ สินส่งสุข, วิโรจน์ เจียมจรัสรังษี, ศิริเพ็ญ ศุภกาญจนกันติ. ความชุก ปัจจัยส่งเสริม และความสูญเสียทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับการเกิดอาการทางระบบกระดูกและกล้ามเนื้ออันเนื่องมาจากการทำงานในผู้ที่ทำงานในสำนักงานในสถานประกอบการในเขตกรุงเทพมหานคร. การประชุมวิชาการกองวิจัยและพัฒนา; 2548; สำนักงานประกันสังคม.
กรมควบคุมโรค, สำนักโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม. รายงานสถานการณ์โรคและภัยสุขภาพจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม ปี 2560 [อินเทอร์เน็ต]. นนทบุรี: กรม; 2561 [สืบค้นเมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2564]. จาก:
http://envocc.ddc.moph.go.th/uploads/situation/01_envocc_situation_60.pdf.
Prawit Janwantanakul, Praneet Pensri, Viroj Jiamjarasrangsri, Thanes Sinsongsook. Prevalence of self-reported musculoskeletal symptoms among office workers. Occupational Medicine (Lond). 2008;58(6):436-8.
ไกรวัชร ธีรเนตร. Concept in pain management. ใน: ภัทราวุธ อินทรกำแหง, บรรณาธิการ. ตำราเวชศาสตร์ฟื้นฟู. กรุงเทพฯ: โครงการตำราวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า; 2552.
International Labour Organization. International Labour Standards on Occupational Safety and Health [Internet]. Switzerland: International Labour Organization; 2018 [cited 2020 Dec 22]. Available from: https://www.ilo.org/global/standards/subjects-covered-by-international-labour-standards/occupational-safety-and-health/lang--en/index.htm.
ธวัชชัย รักษานนท์, ชไมพร ชารี, พิษากานต์ วารีขจรเกียรติ, ภูษณิศา ฉลาดเลิศ, บรรณาธิการ. แนวทางการจัดบริการอาชีวอนามัยให้กับแรงงานในชุมชนด้านการยศาสตร์ สำหรับเจ้าหน้าที่หน่วยบริการสุขภาพปฐมภูมิ [อินเทอร์เน็ต]. นนทบุรี: กรมควบคุมโรค, สำนักโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม, กลุ่มอาชีวอนามัย; 2560 [สืบค้นเมื่อวันที่ 12 พ.ค. 2564]. จาก: https://ddc.moph.go.th/uploads/files/5b9b2251268a2835083c9230468c070f.pdf.
พระยาวิศณุประสาทเวช. เวชศึกษา เล่มเดียวจบ. กรุงเทพฯ: วัฒนาพานิช; 2496.
อนามัย เทศกะทึก. อาชีวอนามัยและความปลอดภัย. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์; 2551.
ประทีป ธนกิจเจริญ. การแพทย์แผนไทย ความยั่งยืนแห่งภูมิปัญญาไทย. ก้าวใหม่. ก.ย.-ต.ค. 2558;8(41):1.
นิรุติ ผึ่งผล, อัจฉราวรรณ ยิ้มยัง, นงนุช นามวงษ์, ภควรรณ เหล่าบัวดี, จันทร์จีรา บุญมา, เครือวัลย์ แพทนัทธ์, และคณะ. ตัวแบบความสัมพันธ์เชิงสาเหตุพฤติกรรมการป้องกันโรคปวดกล้ามเนื้อหลังส่วนล่างตามมูลเหตุการเกิดโรค 8 ประการ ของประชาชนในจังหวัดชลบุรี. วารสารวิจัยสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น. ก.ค.-ก.ย. 2560;10(3):32-42.
พีรดา จันทร์วิบูลย์, ศุภะลักษณ์ ฟักคำ. ประสิทธิผลของการนวดแบบราชสำนักในการรักษากลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อหลังส่วนบนของผู้มารับบริการในศูนย์วิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา; 2553. สนับสนุนจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา.
โรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน. ฐานข้อมูลผู้รับบริการในโรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน. 2564.
รัตติกาล เหมือนสุทธิวงค์. ปัจจัยทำนายพฤติกรรมการป้องกันอาการปวดหลังส่วนล่างของกลุ่มผู้ใช้แรงงานในโรงงานอุตสาหกรรม [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. [กรุงเทพฯ]: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2552.
สุวัฒน์ ชํานาญ. ผลของโปรแกรมส่งเสริมสุขภาพด้านการยศาสตร์ ต่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดความเสี่ยงต่อโรคกล้ามเนื้อและกระดูกที่เกิดจากการทำงานของบุคลากรโรงพยาบาลศรีสมเด็จ จังหวัดร้อยเอ็ด [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. [มหาสารคาม]: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม; 2558.
กัลยาพร เติมนาค. ผลของการใช้แนวคิดแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพกับการบริหารร่างแบบฤาษีดัดตนในกลุ่มปวดกล้ามเนื้อหลังส่วนบนเรื้อรัง เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. [นครปฐม]: มหาวิทยาลัยมหิดล; 2559.
อัญชลี สามงามมี, เกษร สำเภาทอง, นนท์ธิยา หอมขำ. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมป้องกันโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงของบุคลากรสายสนับสนุน ในมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง. วชิรเวชสารและวารสารเวชศาสตร์เขตเมือง. มี.ค.-เม.ย. 2562;64(2):97-108.
ณภารินทร์ ภัสราธร. พฤติกรรมการป้องกันการเกิดกลุ่มอาการออฟฟิศซินโดรมของพนักงานบริษัทในเขตกรุงเทพมหานคร [วิทยานิพนธ์บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต]. [กรุงเทพฯ]: มหาวิทยาลัยรามคำแหง; 2562.
กนกวรรณ แสนสุภา, เพ็ญศิริ จันทร์แอ, หนึ่งฤทัย ศรีละคร, ทัณฑิกา แก้วสูงเนิน, อภิวัตร กาญบุตร, นฤวัตร ภักดี. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมที่ส่งเสริมสุขภาพในผู้ป่วยที่มีอาการปวดหลังส่วนล่าง ณ โรงพยาบาลนิคมน้ำอูน. วารสารหมอยาไทยวิจัย. ก.ค.–ธ.ค. 2562;5(2):69-83.
Nola Pender, Carolyn Murdaugh, Mary-Ann Parsons. Health Promotion in Nursing Practice. 5th ed. NJ, USA.: Pearson– Prentice Hall; 2006.

