Effectiveness of treatment of osteoarthritis of the knee with royal Thai massage combined with herbal compresses at Nong Bua Rawe Hospital.
Keywords:
osteoarthritis, massage, herbal compressAbstract
This study aimed to study the effect of royal Thai massage combined with herbal compress on knee pain in patients with osteoarthritis at Nong Bua Rawe Hospital, Chaiyaphum Province. The research was a quasi-experimental research with a one-group pre-test and post-test design. The sample population consisted of 30 male and female patients with osteoarthritis aged 32 years and over living in Nong Bua Rawe District, Chaiyaphum Province. The pain level was assessed using a pain scale for the 30 samples before and after treatment. Data were analyzed by finding percentages, means, standard deviations, and paired t-test statistics.
The results of the study found that before treatment with royal massage and herbal compress for 3 times, the majority of the sample group had a pain level of severe pain (level 5-6) at 60 percent, followed by the most pain level and moderate pain level at 20 percent. The mean before treatment (SD) = 5.8 (3.26). When comparing the pain level after treatment, it was found that the pain level was reduced by 100 percent (level 1-2 is slight pain). The mean after treatment (SD) = 1.0 (1.41), which was a statistically significant difference (p< 0.05). The overall satisfaction in this study was 93 percent (SD) = 2.93 (1.689).
References
สถาบันวิจัยประชากรและสังคม (วปส.) มหาวิทยาลัยมหิดล.(2567). H(ttps://www.thaihealthreport.com/file_book/601-Thaihealth-report-2567-edit20240509.pdf
วิโรจน์ กวินวงศ์โกวิท และคณะ,๒๕๖๑ โรคข้อเข้าเสื่อม.สืบค้นจาก:https://www.rama.mahidol.ac.th
กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก(2559). คู่มือแนวทางเวชปฏิบัติการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกแบบครบวงจร:สามเจริญพานิชย์ (กรุงเทพ).
กลุ่มงานการแพทย์แผนไทยฯ โรงพยาบาลหนองบัวระเหว (256).ฐานข้อมูลผู้มารับบริการคลินิกการแพทย์แผนไทย โรงพยาบาลหนองบัวระเหว, สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ
ดลยา ถมโพธิ์,และคณะ(๒๕๖๔).การศึกษาประสิทธิผลของการนวดกดจุด ประคบ และพอกสมุนไพรเพื่อบำบัดอาการปวดในกลุ่มผู้ป่วยเบาหวาน ที่มีโรคข้อเข่าเสื่อม ของโรงพยาบาลบัวใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา. วารสารการแพทย์โรงพยาบาลศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมยปีที่ 36
โรงพยาบาลท่าลี่ (2565).คู่มือการดูแลผู้สูงอายุภาวะข้อเข่าเสื่อม“โดยศาสตร์การแพทย์แผนไทย” คณะทำงานแพทย์แผนไทย โรงพยาบาลท่าลี่. สืบค้นจาก http://thalihospital.com/PDF/
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช,(2562).เอกสารประกอบวิชา 55312ตัว pain scales . สืบค้นจาก.: https://www.stou.ac.th/Schools/Shs/upload/2019-05-24%2022-01%20Copy%20of%20%อธิบายความหมาย%20pain
อมรรัตน์ เรืองสกุล และคณะ (2563). ระดับการเคลื่อนไหวของผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมเมื่อรักษาด้วยการนวด แบบราชสำนักเพียงอย่างเดียวและประคบสมุนไพรร่วมด้วย. สืบค้นจาก: https://www.dtam.moph.go.th/E-Book/DTAM_Journal/DTAM_Journal_18-2-S/files/basic-html/page35.html
สุจิตรา บุญมาก (2020). ผลการนวดไทยต่อผู้ป่วยอาการปวดข้อเข่าและอาการข้อเข่าฝืด ในคลินิกแพทย์แผนไทยโรงพยาบาลหลวงพ่อเปิ่น จังหวัดนครปฐม.วารสารสหวิทยาการมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ปีที่ 3 ฉบับที่ 3 (กันยายน – ธันวาคม 2563)
อรพรรณ นันตาดี (2561). ผลของการประคบสมุนไพรด้วยตนเองต่อความเจ็บปวดของกลุ่มผู้สูงอายุที่มีอาการ ปวดข้อเข่า ในเขตพื้นที่โรงพยาบาลเถิน อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง วารสารวิชาการสุขภาพภาคเหนือปีที่ 5 ฉบับที่ 2 เดือนกรกฎาคม - ธันวาคม 2561. สืบค้นจาก: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/johss/article/view/163296/131405
มณีรัตน์ วรรณะและคณะ. (2561).ประสิทธิผลของการนวดร่วมกับการประคบสมุนไพรในผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมโรงพยาบาลเมืองสรวง อำเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อยเอ็ด.วารสารวิทยาศาสตร์ คชสาส์น, ปีที่ 40 (ฉบับที่ 1),หน้าที่๑120-130.
ชวนชม ขุนเอียด. (2560). ประสิทธิผลของการนวดไทยแบบราชสำนักร่วมกับการกักกักน้ำมันหญ้าขัดมอนในการรักษาโรคจับโปงแห้งเข่า. จากวารสารวิจัยสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัอุบล

