การพัฒนาระบบการดูแลรักษาผู้ป่วยไตเรื้อรังระยะท้าย อำเภอนาจะหลวย จังหวัดอุบลราชธานี

ผู้แต่ง

  • อัครภูชิทย์ ผลานันต์ โรงพยาบาลนาจะหลวย จังหวัดอุบลราชธานี

คำสำคัญ:

ผู้ป่วยไตเรื้อรังระยะท้าย, ระบบการดูแลรักษา

บทคัดย่อ

     การวิจัยเรื่องการพัฒนาระบบการดูแลรักษาผู้ป่วยไตเรื้อรังระยะท้าย อำเภอนาจะหลวย จังหวัดอุบลราชธานี เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action Research ) มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพัฒนาและประเมินผลการพัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะท้าย อำเภอนาจะหลวย จังหวัดอุบลราชธานี ระยะเวลาวิจัยเดือนมกราคม 2567 ถึง ธันวาคม 2567 ผู้มีส่วนร่วมในการศึกษา 60 คน เครื่องมือวิจัยที่ใช้ได้แก่ แบบสอบถามผลลัพธ์การดูแลแบบประคับประคอง แบบสอบถามการรับรู้ระยะท้ายของชีวิตและแบบประเมินความพึงพอใจต่อการดูแลการวางแผนล่วงหน้า วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพโดยใช้การวิเคราะห์เนื้อหาและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณโดยใช้ จำนวน ร้อยละ ค่าเฉลี่ย เปรียบเทียบผลของการจัดกิจกรรมด้วยสถิติการทดสอบที

     ผลการวิจัยพบว่า มีการพัฒนาทั้งหมด 3 วงรอบ การพัฒนาระบบการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะท้าย ครอบคลุมองค์ประกอบสำคัญ 6 ด้าน ดังนี้ 1)ด้านการนำและธรรมาภิบาล มีการแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อบริหารจัดการระบบการดูแล และจัดทำแผนปฏิบัติการระดับอำเภอ 2)ด้านการจัดสรรงบประมาณ มีการจัดตั้งศูนย์บริการเครื่องมือแพทย์ จัดซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติม และสนับสนุนค่าตอบแทนทีมดูแลเยี่ยมบ้าน 3)ด้านบุคลากรและเครือข่ายพัฒนาทีมสหสาขาวิชาชีพ อสม. และนักบริบาลในชุมชน ให้สามารถดูแลผู้ป่วยระยะท้ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ 4)ด้านระบบการให้บริการ พัฒนาแนวทางปฏิบัติและโปรแกรมการดูแลแบบประคับประคอง พร้อมคู่มือการดูแลที่ชัดเจน 5)ด้านยาและเวชภัณฑ์ ขยายกรอบรายการยาเพื่อการจัดการอาการในระยะท้ายให้เพียงพอและเหมาะสม 6)ด้านระบบข้อมูลและการสื่อสาร พัฒนาระบบเชื่อมโยงข้อมูล เช่น HOSxP, LINE และโทรศัพท์ เพื่อการประสานงานที่รวดเร็วและแม่นยำ ผลการประเมินการพัฒนาพบว่าป่วยไตเรื้อรังระยะท้ายได้รับการทำ Advance care plan ทุกรายอาการแทรกซ้อนลดลงร้อยละ 75 คุณภาพชีวิตเพิ่มขึ้น ร้อยละ 50 คะแนนเฉลี่ยผลลัพธ์การดูแลแบบประคับประคองตามการรับรู้ของผู้ป่วยและตามการรับรู้ของญาติผู้ดูแลลดลงกว่าก่อนค่าเฉลี่ยคะแนนระยะท้ายของชีวิตที่สงบของผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะท้ายที่ไม่ได้รับการบำบัดทดแทนไตตามการรับรู้การวางแผนล่วงหน้าของญาติผู้ดูแล ภายหลังการทดลองสูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสติ คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจากระดับต่ำเป็นระดับปานกลางอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 ผู้ป่วยและผู้ดูแลเกิดความพึงพอใจระดับสูง

เอกสารอ้างอิง

กรมการแพทย์. แนวทางการดูแลผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายแบบประคับประคอง. นนทบุรี: กรมการแพทย์ กระทรวง สาธารณสุข; 2564.

สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข. แนวทางการดูแลแบบประคับประคองในประเทศไทย. นนทบุรี: สวรส.; 2562.

ศุภพร ไชยคำ. ผลของโปรแกรมการจัดการตนเองร่วมกับการใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศต่อความรู้และพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะที่ 3 โรงพยาบาลสันติสุข จังหวัดน่าน. วารสารวิชาการทางการแพทย์และสาธารณสุข. 2567;4(1):106–107.

กระทรวงสาธารณสุข. แผนพัฒนาระบบบริการสุขภาพ (Service Plan) สาขาการดูแลแบบประคับประคอง. นนทบุรี: สำนัก นโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงสาธารณสุข; 2562.

สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข. แนวทางการดูแลแบบประคับประคองในประเทศไทย. นนทบุรี: สวรส.; 2562.

World Health Organization. Monitoring the building blocks of health systems: a handbook of indicators and their measurement strategies. Geneva: WHO; 2010.

โรงพยาบาลนาจะหลวย. รายงานผู้ป่วยระยะสุดท้าย ปีงบประมาณ 2564–2566. อุบลราชธานี: โรงพยาบาลนาจะหลวย; 2566.

Kemmis, S., McTaggart, R., & Retallick, J. The action research planner (2nd ed.). Revised. Aga Khan University, Institute for Educational Development, Karachi ; 2004 .

Anderson F, Downing GM, Hill J, Casorso L, Lerch N. Palliative performance scale (PPS): a new tool. J Palliat Care. 1996;12(1):5-11.

Bruera E, Kuehn N, Miller MJ, Selmser P, Macmillan K. The Edmonton Symptom Assessment System (ESAS): a simple method for the assessment of palliative care patients. J Palliat Care. 1991;7(2):6-9.

Breivik H, Borchgrevink PC, Allen SM, Rosseland LA, Romundstad L, Breivik Hals EK, et al. Assessment of pain. Br J Anaesth. 2008;101(1):17-24.

Hearn J, Higginson IJ. Development and validation of a core outcome measure for palliative care: the POS. J Pain Symptom Manage. 1999;17(4):298–306.

ฝ่ายการพยาบาล โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่. การแปลและทดสอบความเที่ยงตรงของแบบประเมิน Palliative Care Outcome Scale (POS) ฉบับภาษาไทย. เชียงใหม่: โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่; 2545.

Ruland CM, Moore SM. Theory construction based on standards of care: a proposed theory of the peaceful end of life. Nurs Outlook. 1998;46(4):169–75.

กาญจนา จันทะนุย, สุภาวดี ว่องวุฒิกุล, อัจฉรา คำภูมี, วรรณี จันทร์หอม. การพัฒนารูปแบบการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายในระบบบริการปฐมภูมิ: กรณีศึกษาพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข. 2563;30(3):116–30.

รัตนาภรณ์ รักชาติ, ธีรารัตน์ ชาติอุดม, วรรณา วรรณศรี. การพัฒนาระบบบริการสุขภาพระดับพื้นที่โดยการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายในชุมชน. วารสารวิจัยระบบสาธารณสุข. 2564;15(2):213–27.

ช่อทิพย์ พรหมมารัตน์. ผลของการพัฒนารูปแบบการดูแลแบบประคับประคองที่บ้าน เครือข่ายสุขภาพอำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่; 2561.

นภาพร ตั้งพูลผลวนิชย์ . การพัฒนาระบบการดูแลแบบประคับประคองในผู้ป่วยระยะสุดท้าย โรงพยาบาลยโสธร. วารสารสุขภาพและสิ่งแวดล้อมศึกษา. 2563;5(2) 38-45

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2024-12-31

รูปแบบการอ้างอิง

ผลานันต์ อ. (2024). การพัฒนาระบบการดูแลรักษาผู้ป่วยไตเรื้อรังระยะท้าย อำเภอนาจะหลวย จังหวัดอุบลราชธานี. วารสารอนามัยสิ่งแวดล้อมและสุขภาพชุมชน, 9(6), 974–988. สืบค้น จาก https://he03.tci-thaijo.org/index.php/ech/article/view/4554