การพยาบาลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองจากภาวะหัวใจห้องบนเต้นระริก : กรณีศึกษา 2 ราย
คำสำคัญ:
โรคหลอดเลือดสมอง, หัวใจห้องบนเต้นระริก, การพยาบาลบทคัดย่อ
การศึกษานี้เป็นการเปรียบเทียบกรณีศึกษา 2 ราย มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการพยาบาลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองจากภาวะหัวใจห้องบนเต้นระริกและนำผลการศึกษาไปพัฒนาแนวทางการดูแลให้มีประสิทธิภาพและเป็นมาตรฐาน โดยศึกษาในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองจากภาวะหัวใจห้องบนเต้นระริกที่เข้ารับการรักษาที่หอผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง โรงพยาบาลขอนแก่น ระหว่างเดือนเมษายน-กันยายน พ.ศ. 2568 จำนวน 2 ราย เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วยแบบบันทึกข้อมูลโดยการรวบรวมข้อมูลจากเวชระเบียนของผู้ป่วย การสัมภาษณ์และการสังเกต ใช้การประเมินภาวะสุขภาพผู้ป่วยตามแบบแผนสุขภาพ 11 แบบแผนของกอร์ดอนนำมากำหนดข้อวินิจฉัยทางการพยาบาลและทฤษฎีการดูแลตนเองของโอเร็มในการพยาบาลผู้ป่วย
ผลการศึกษา ผู้ป่วยกรณีศึกษารายที่ 1 หญิงไทย มีอาการแขนขาข้างซ้ายอ่อนแรง พูดไม่ชัด เป็นมา 2 ชั่วโมง รับส่งต่อจากโรงพยาบาลมัญจาคีรี มีประวัติโรคหอบหืด แพทย์วินิจฉัย Acute cerebral infarction ประเมิน NIHSS 18 คะแนน ผลตรวจ EKG พบ Atrial fibrillation ผู้ป่วยได้รับการรักษาด้วยยาละลายลิ่มเลือด rt-PA ได้รับการพยาบาลครอบคลุม 7 ปัญหา ได้แก่ เสี่ยงต่อภาวะความดันกะโหลกศีรษะสูง เสี่ยงต่อภาวะเนื้อเยื่อสมองได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ เสี่ยงต่อภาวะเลือดออก มีภาวะไม่สมดุลของสารน้ำและอิเล็กโตรลัยต์ เสี่ยงต่อการได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ผู้ป่วยและญาติวิตกกังวล และการช่วยเหลือตนเองบกพร่อง ผู้ป่วยไม่เกิดภาวะแทรกซ้อน นอนโรงพยาบาล 8 วัน ส่งกลับไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน ผู้ป่วยกรณีศึกษารายที่ 2 หญิงไทย อาการแขนขาข้างขวาอ่อนแรง พูดไม่ได้ เป็นมา 1 ชั่วโมง รับส่งต่อจากโรงพยาบาลบ้านฝาง ปฏิเสธโรคประจำตัว แพทย์วินิจฉัย Acute cerebral infarction ประเมิน NIHSS 31 คะแนน ผลตรวจ EKG พบ Atrial fibrillation ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ ได้รับการทำหัตถการใส่สายสวนหลอดเลือดแดงเพื่อนำลิ่มเลือดออก ได้รับการพยาบาลครอบคลุม 8 ปัญหา เพิ่มเติมจากรายที่ 1 คือ เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนหลังทำหัตถการ ผู้ป่วยไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง นอนโรงพยาบาล 14 วัน ส่งกลับไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน
เอกสารอ้างอิง
ดามพันธ์ นิลายน.โรคหลอดเลือดสมองอุดตันจากลิ่มเลือดหัวใจในภาวะหัวใจห้องบนเต้นระริกที่ไม่มีความผิดปกติของลิ้นหัวใจ. วารสารพยาบาลตำรวจ. 2563;12(2):447-56.
Cavallari I, Patti G. Early risk of mortality, cardiovascular events, and bleeding in patients with newly diagnosed atrial fibrillation. Eur Heart J. 2020;22. doi: 10.1093/EURHEARTJ/SUAA147
World Stroke Organization. Global stroke fact sheet 2022 [Internet]. Geneva: World Stroke Organization; 2022 [cited 2025 Jan 15]. Available from: https://www.world-stroke.org/assets/downloads/WSO_Global_Stroke_Fact_Sheet.pdf
Phillips KP. Atrial fibrillation and stroke epidemiology. In: Camm AJ, Kirchhof P, Lip GYH, Schotten U, editors. Atrial fibrillation. Cham: Humana Press; 2016. p. 3-16. doi: 10.1007/978-3-319-16280-5_1
Samuthpongtorn C, Jereerat T, Suwanwela N. Stroke risk factors, subtypes and outcome in elderly Thai patients. BMC Neurol. 2021;21(1):1-6. doi: 10.1186/S12883-021-02353-Y
กระทรวงสาธารณสุข. ฐานข้อมูลสุขภาพ HDC [อินเทอร์เน็ต]. กรุงเทพฯ: กระทรวงสาธารณสุข; 2567 [เข้าถึงเมื่อ 15 ม.ค. 2568]. เข้าถึงจาก: https://hdcservice.moph.go.th
ไพรวัลย์ พรมที, กรัณย์พิชญ์ โคตรประทุม และสุภาพรณ์ ตัณฑ์สุระ.การพัฒนารูปแบบการพยาบาลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองขาดเลือดเฉียบพลันที่ได้รับยาละลายลิ่มเลือด (rt-PA) แผนกผู้ป่วยอุบัติเหตุและฉุกเฉิน โรงพยาบาลขอนแก่น. วารสารการพยาบาลและการดูแลสุขภาพ. 2564;39(1):128-37.
Desteghe L, Lee G, Antoniou S, Merino JL, Neubeck L, Ross CS, et al. A multidisciplinary team approach in the 2024 ESC guidelines for the management of patients with atrial fibrillation - what is the role of nurses and allied professionals? A clinical consensus statement of the Association of Cardiovascular Nursing and Allied Professions (ACNAP) and the European Heart Rhythm Association (EHRA) of the ESC. Eur J Cardiovasc Nurs. 2025. doi: 10.1093/eurjcn/zvaf083
Clare CS. Role of the nurse in acute stroke care. Nurs Stand. 2020;35(4):68-75. doi: 10.7748/NS.2020.E11482

