การพัฒนารูปแบบการนิเทศทางคลินิกในการป้องกันการติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ ที่สัมพันธ์กับการคาสายสวนปัสสาวะ หอผู้ป่วยหนักอายุรกรรมและศัลยกรรม โรงพยาบาลมุกดาหาร

ผู้แต่ง

  • แสงไทย ไตรยวงค์ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ โรงพยาบาลมุกดาหาร

คำสำคัญ:

การติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะที่สัมพันธ์กับการคาสายสวนปัสสาวะ, การนิเทศทางคลินิก, การป้องกันการติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะที่สัมพันธ์กับการคาสายสวนปัสสาวะ

บทคัดย่อ

     งานวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action Research) มีวัตถุประสงค์ : 1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการรูปแบบการนิเทศทางคลินิกในการป้องกันการติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะที่สัมพันธ์กับการคาสายสวนปัสสาวะ 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการนิเทศทางคลินิกในการป้องกันการติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะที่สัมพันธ์กับการคาสายสวนปัสสาวะ และ 3) เพื่อประเมินผลของการพัฒนารูปแบบการนิเทศทางคลินิกในการป้องกันการติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะที่สัมพันธ์กับการคาสายสวนปัสสาวะ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ 1) ทีมสุขภาพเป็นทีมสหสาขาวิชาชีพที่ปฏิบัติงานในหอผู้ป่วยหนักอายุรกรรมและศัลยกรรม โรงพยาบาลมุกดาหาร จำนวน 15 คน และ 2) พยาบาลที่ปฏิบัติงานในหอผู้ป่วยหนักอายุรกรรมและศัลยกรรม โรงพยาบาลมุกดาหาร จำนวน 42 คน และผู้ป่วยหนักที่ใส่คาสายสวนปัสสาวะ หอผู้ป่วยหนักอายุรกรรมและศัลยกรรม โรงพยาบาลมุกดาหาร จำนวน 710 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ 1) แบบสอบถามข้อมูลทั่วไป 2) แบบสอบถามสภาพปัญหาและความต้องการ 5) แบบประเมินการรับรู้สมรรถนะแห่งตน 6) แบบประเมินความรู้ 7) แบบประเมินการปฏิบัติ และ 8) แบบประเมินความพึงพอใจต่อการพัฒนารูปแบบการนิเทศทางคลินิกในการป้องกันการติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะที่สัมพันธ์กับการคาสายสวนปัสสาวะ และเครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง คือ 1) รูปแบบการนิเทศทางคลินิกในการป้องกันการติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะที่สัมพันธ์กับการคาสายสวนปัสสาวะ หอผู้ป่วยหนักอายุรกรรมและศัลยกรรม โรงพยาบาลมุกดาหาร 2) สื่อวีดีทัศน์ “รอบรู้ก้าวไกล ป้องกันภัยจาก CAUTI” และ 3) คู่มือการป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะที่สัมพันธ์กับการคาสายสวนปัสสาวะ การวิเคราะห์ข้อมูลโดยสถิติเชิงพรรณนาหาความถี่ ร้อยละ และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบความแตกต่างเพื่อเปรียบเทียบโดยใช้สถิติ chai-square และ Paired t-test

     ผลการศึกษา : สภาพปัญหาและความต้องการ พบว่า 1) อัตราการติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะที่สัมพันธ์กับการคาสายสวนปัสสาวะไม่ลดลง จากการขาดระบบนิเทศ ผู้นิเทศไม่ระบบการนิเทศและผู้รับการนิเทศขาดความตระหนัก 2) รูปแบบการนิเทศทางคลินิก ประกอบด้วย การส่งเสริมฟื้นฟูเชิงวิชาชีพ การสร้างการเรียนรู้จากการปฏิบัติ และการรับรองผลการปฏิบัติงานตามสมรรถนะ 3) ผลของการพัฒนารูปแบบการนิเทศทางคลินิก พบว่า การรับรู้สมรรถนะแห่งตน ความรู้ และการปฏิบัติหลังการพัฒนาระบบมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าก่อนการพัฒนาระบบ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 และความพึงพอใจหลังการพัฒนาระบบสูงกว่าก่อนการพัฒนาระบบ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 0.05

เอกสารอ้างอิง

National Healthcare Safety Network (NHSN). (2022). Urinary tract infection (Catheter-associated urinary tract infection (CAUTI) and non-catheter-associated urinary tract infection (UTI)) events. Retrieved 26 March 2022 from https://www.cdc.gov/nhsn/pdfs/ pscmanual/7psccauticurrent.pdf

Allegranzi, B., Nejad, S. B., Combescure, C., Graafmans, W., Attar, H., Donaldson, L., & Pittet, D.

(2011). Burden of endemic health-care-associated infection in developing countries: Systematic review and meta-analysis. The Lancet, 377(9761), 228-241.

Rosenthal, V. D., Bat-Erdene, I., Gupta, D., Belkebir, S., Rajhans, P., Zand, F.,…& Leblebicioglu, H. (2020). International Nosocomial Infection Control Consortium (INICC) report, data summary of 45 countries for 2012-2017: Device-associated module. American Journal of Infection Control, 48, 423-432.

Crouzet J., Bertrand X., Venier AG., Badoz, M., Husson, C., & Talon, D. (2007). Control of the urinary catheterization: impact on catheterassociated urinary. Journal of Hospital Infection 2007; 67: 253-7.

กาญจนา ชวนไชยสิทธิ์, กิตติรัตน์ สสัสติวัดษ์, และ ศันสนีย์ ชัยบุตร. (2561). การพัฒนาระบบการพยาบาลเพื่อป้องกันและควบคุมการติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะในผู้ป่วยที่ได้รับการใส่คาสายสวนปัสสาวะ. วารสารการพยาบาลและการดูแลสุขภาพ, 36(1): 224-233.

วาสินี ชาญศรี และพรเลิศ ชุมชัย. (2562). บทบาทพยาบาลชุมชนในการป้องกันการติดเชื้อที่ระบบทางเดินปัสสาวะในผู้ป่วยที่มีภาวะจำกัดการเคลื่อนไหว. เวชบันทึกศิริราช, 12(2), 101-107.

Kemmis, S., McTaggart, R., and Nixon, R.(2014). The action research planner: Doing criticalparticipatory action research.New York: Springer.

Proctor, B. (2001). Contracting in supervision. Contracts in Counselling and Psychotherapy, 161-17.

Bandura A. (1997). Self-efficacy: Exercise of control. Eaglewood cliffs: Practice.

วรรณชนก จันทชุม. (2545). การวิจัยทางการพยาบาล : การเลือกตัวอย่างและการกำหนดขนาดตัวอย่าง. ขอนแกน: คณะพยาบาลศาสตร, มหาวิทยาลัยขอนแก่น.

บุปผา ศิริรัศมี, จรรยา เศรษฐบุตร, & เบญจา ยอดดำเนิน-แอ็ตติกจ์. (2544). จริยธรรมสำหรับการศึกษาในคน. กรุงเทพฯ: สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล.

มธุรส ตันติเวส, อารีรัตน์ขำอยู่ และประนอม โอทกานนท. (2560). การพัฒนารูปแบบการนิเทศทางการพยาบาลสำหรับผู้ตรวจการพยาบาลนอกเวลาราชการโรงพยาบาลสงฆ์. วารสารพยาบาลมหาวิทยาลัยบูรพา, 25(3), 41-50.

กันยาพร ไชยศักดิ์, ประกอบ ทองจิบ, เนตรนภา เทพชนะ, อรอุมา พินธ์สุวรรณ์, ขัตติยา เสมอภพ, กุลธลีย์ ชายเกตุ. (2025), การพัฒนารูปแบบการนิเทศทางการพยาบาลเพื่อเพิ่มคุณภาพการพยาบาล สาขาการพยาบาลผู้ป่วยหนัก, วารสารมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์, 17(1), 137-155.

อุมาพร รุ่งเรือง, พัชราภรณ์ อารีย์และเนตรชนก ศรีทุมมา. (2567). ผลของการนิเทศตามโมเดลการโค้ชแบบโกรว์ต่อการปฏิบัติการป้องกัน และควบคุมการติดเชื้อในโรงพยาบาลของพยาบาลควบคุมการติดเชื้อประจำหอผู้ป่วย ในโรงพยาบาลตติยภูมิแห่งหนึ่ง. วารสารมหาวิทยาลัยคริสเตียน, 30(2), 18-32.

มัสลินภร จู่มา. (2564). การพัฒนารูปแบบการนิเทศทางคลินิกในพยาบาลวิชาชีพจบใหม่ โรงพยาบาลหนองคาย. วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.

กันยาพร ไชยศักดิ์, ประกอบ ทองจิบ, เนตรนภา เทพชนะ, อรอุมา พินธ์สุวรรณ์, ขัตติยา เสมอภพ และกุลธลีย์ ชายเกต. (2568). การพัฒนารูปแบบการนิเทศทางการพยาบาลเพื่อเพิ่มคุณภาพการพยาบาล สาขาการพยาบาลผู้ป่วยหนัก, วารสารมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์, 17(1), 137-155.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-10-31

รูปแบบการอ้างอิง

ไตรยวงค์ แ. . (2025). การพัฒนารูปแบบการนิเทศทางคลินิกในการป้องกันการติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ ที่สัมพันธ์กับการคาสายสวนปัสสาวะ หอผู้ป่วยหนักอายุรกรรมและศัลยกรรม โรงพยาบาลมุกดาหาร. วารสารอนามัยสิ่งแวดล้อมและสุขภาพชุมชน, 10(5), 184–196. สืบค้น จาก https://he03.tci-thaijo.org/index.php/ech/article/view/4861