การพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพสมุนไพรผักเชียงดา
คำสำคัญ:
พัฒนาผลิตภัณฑ์, เครื่องดื่มสมุนไพรเพื่อสุขภาพ, ผักเชียงดาบทคัดย่อ
งานวิจัยนี้ได้นำเสนอ เรื่องของการพัฒนาเครื่องดื่มสมุนไพร ซึ่งในปัจจุบันเป็นเครื่องดื่มที่มีความนิยมในการบริโภคอย่างกว้างขวาง โดยได้จากการนำสมุนไพรที่มีสรรพคุณที่ดีต่อสุขภาพมาผ่านกระบวนการแปรรูป แล้วบรรจุในบรรจุภัณฑ์ที่พร้อมใช้ ซึ่งจากการศึกษาสรรพคุณในรักษาโรค และด้านรักษาสุขภาพของสมุนไพรผักเชียงดา พบว่า มีสรรพคุณในการรักษาโรคเบาหวาน ยับยั้งการดูดซึมน้ำตาลกลูโคสที่ลำไส้เล็ก รวมทั้งช่วยในการหลั่งของอินซูลิน ช่วยลดน้ำตาลในเลือด จึงมีประโยชน์ต่อผู้ป่วยโรคเบาหวาน สามารถรักษาโรครูมาตอยด์และโรคเก๊าท์ ซึ่งยังมีส่วนช่วยเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย สามารถลดความอ้วน และช่วยลดไขมันในเลือดสูง อีกทั้งยังช่วยละลายลิ่มเลือดและรักษาอาการติดเชื้อในกระเพาะอาหารและลำไส้
ดังนั้น คณะผู้วิจัยจึงมีแนวคิดที่จะการนำผักเชียงดา มาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพสมุนไพรผักเชียงดา โดยมีวิธีการทดลองสูตร 3 อัตราส่วน และจากนั้นนำไปทดสอบชิม เพื่อทดสอบคุณภาพทางประสาทสัมผัสในด้านสี กลิ่น รสชาติ และความชอบโดยรวม โดยวิธีการให้คะแนนความชอบ 9 ระดับ (9-Point Hedonic Scale Test) และนำคะแนนที่ได้มาหาค่าเฉลี่ย ซึ่งผลการทดสอบ พบว่า สูตรที่ 3 ได้รับคะแนนสูงที่สุด ซึ่งมีส่วนผสม ได้แก่ ผักเชียงดา แก่นฝาง หญ้าหวาน อบเชย และ มะตูม ในอัตราส่วนร้อยละ 90, 6, 2, 1 และ 1 ตามลำดับ หลังจากนั้นนำผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการคัดเลือก จากทั้ง 3 สูตร มาทดสอบกับผู้บริโภคโดยทำการทดสอบ Central Location Test (CLT) กับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 50 คน พบว่า ผู้บริโภคจะตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์ หากมีผลิตภัณฑ์วางจำหน่าย คิดเป็นร้อยละ 98 และผู้บริโภคจะเลือกรูปแบบบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมสำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพสมุนไพรนี้ คือ ถ้าบรรจุภัณฑ์แบบในกล่อง โอกาสเลือกคิดเป็นร้อยละ 90 โดยราคาที่เหมาะสมของ ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มสมุนไพรเพื่อสุขภาพผักเชียงดา ที่บรรจุซองละ 2 กรัม และมีจำนวน 20 ซอง ต่อ 1 กล่อง ในราคา 250 บาท คิดเป็นร้อยละ 54
References
กระทรวงสาธารณสุข. (2549). แนวทางการพิจารณาอาหารประเภท ชาสมุนไพร (ส านักงานคณะกรรมการอาหารและยาได้ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 28). นนทบุรี: สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา.
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี. (ม. ป. ป). ตานกกด. https://apps.phar.ubu.ac.th/phargarden/main.php?action=viewpage&pid=169.
ดวงเพกญ ปัทมดิลก และคณะ. (2558). การหาปริมาณ Imperatorin ในผลมะตูมด้วยวิธี UItra Performace Liquid Chromatography (UPLC). วารสารกรมวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์. 57(4), 327-340.
เตกม สมิตินันท์. (2544). ชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย. กรุงเทพฯ: สำนักงานหอพรรณไทย สำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช.
ธัญชนก เมืองมั่น และคณะ (2550). การศึกษาฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของผักเชียงดา (Gymnema inodorum Dence). วารสารโภชนาการ. 42(3), 19-25.
ธีรวัลย์ ชาญฤทธิเสน และปัทมา ไทยอู่. (2552). ผลของชนิดผักเชียงดา (Gymnema inodorum Decne.) และอุณหภูมิการอบแห้งต่อคุณภาพและฤทธิ์การต้านอนุมูลอิสระ. ใน การประชุมวิชาการประจำปี อุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือครั้งที่ 1 (น. 138). เชียงใหม่: อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
นุชา สายพุฒิกสิกร. (2553). การสกัดประกอบที่มีฤทธิ์ทางชีวภาพจากอบเชยเทศโดยใช้น้ ากึ่งวิกฤต. (วิทยานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาวิชาเทคโนโลยีอาหาร ภาควิชาเทคโนโลยีอาหาร บัณฑิตวิทยาลัย) มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ประไพภัทร คลังทรัพย์ และคณะ. (2550). การศึกษาฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของสารสกัดจากผักเชียงดา. วารสารโภชนาการ. 42(3), 19-25.
ปริญญาวดี ศรีตนทิพย์ และคณะ. (2552). การเขตกรรมผักเชียงดาเพื่อการผลิตในระดับอุตสาหกรรม. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา.
พิมพ์เพกญพร เฉลิมพงศ์. (2554). Herbal tea/ชาสมุนไพร. http://www.foodnetworksolution.com/wiki/word.
เพกญนภา ทรัพย์เจริญ และคณะ. (2548). เครื่องปรุงในอาหารไทย. นนทบุรี: ศูนย์พัฒนาต าราการแพทย์แผนโบราณ.
ภาวิณี อารีศรีสม และคณะ. (2559). ผลของความเข้มแสงต่อปริมาณคลอโรฟิลล์ และสาร 2-Acetyl-1-pyrroline ของใบเตย. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยแม่โจ้.
มุทิตา สุวรรณค าซาว. (2556). วิสาหกิจชุมชนกลุ่มสัมมนาพนมสมุนไพรอินทรีย์ กลุ่มผู้ปลูกและแปรรูปผักเชียงดาออแกนิคสด. เชียงใหม่: กลุ่มน้ าแม่แตงเชียงใหม่.
ยลดา ศรีเศรษฐ์ และคณะ. (2560). ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของเถาเอ็นอ่อน. วารสารเภสัชศาสตร์อีสาน. 13(1), 1-10.
รุ่งรัตน์ เอียดแก้ว, วุฒิพล หัวเมืองแก้ว และอภิชาต ภัทรธรรม. (2555). การใช้ประโยชน์จากของป่าของราษฎรตำบลท่าเสา อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี. วารสารวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น. 40(3), 992-1001.
ศรัณย์ ขันติประเสริฐ และปณัทพร เรืองเชิงชุม. (2562). การนำระบบการวางแผนความต้องการวัสดุประยุกต์ใช้ในการผลิตชาผักเชียงดา กรณีศึกษา ศูนย์อนุรักษ์พันธุกรรมพืช อพ.สธ.คลองไผ่จังหวัดนครราชสีมา. วารสารวิชาการและวิจัย มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. 9(3), 54-64.
ศูนย์วนวัฒนวิจัยภาคเหนือ. (2555). พรรณไม้ในกระถางศูนย์วนวัฒนวิจัยภาคเหนือ. กรุงเทพฯ: สำนักวิจัยและพัฒนาการป่าไม้.
สุธรรม อารีกุล. (2552). องค์ความรู้เรื่องพืชป่าที่ใช้ประโยชน์ทางภาคเหนือของประเทศไทย เล่ม 2. เชียงใหม่: มูลนิธิโครงการหลวง.
สุธาทิพ รักพืช และ คณะ. (2550). สร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคอาหาร. http://hkm.hrdi.or.th/knowledge/detail/69.
สุภาภรณ์ สาชาติและคณะ. (2558). วิจัยและพัฒนาพืชสมุนไพรและเครื่องเทศที่มีศักยภาพ. กรุงเทพฯ: กรมวิชาการเกษตร.
อัจฉรา นิยมเดชา และมงคล คงเสน. (2556). ผลของการเสริมใบเตยหอม (Pandanus amarylifolius Roxb) ในอาหารนกกระทาญี่ปุ่นและคุณภาพไข่. ใน การประชุมวิชาการระดับชาติ เครือข่ายมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา ครั้งที่ 2 “รวมพลังสร้างสรรค์ผลงานวิจัยเพื่อพัฒนาท้องถิ่นและประเทศไทย” 19 สิงหาคม 2556 (น. 2-10). นราธิวาส: มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์.
Hong, H.J., B. Manochai, G. Trakoontivakorn and V.Na Thalang. (2004). Fibrinolytic activity of Thai indigenous vegetables. Kasetsart Journal. 38, 241 - 246.
N.M. IsaI, et al. (2012). In vitro anti-inflammatory, cytotoxic and antioxidant activities of boesenbergin A, a chalcone isolated from Boesenbergia rotunda (L.) (fingerroot). Braz J Med Biol Res. 2012. 45(6), 524-530.
Shimizu, K., M. Ozeki, K. Tanaka, K. Iton, S. Nakajyo, N. Urakawa, and M. Atsuchi. (1997). Suppression of glucose absorption by extracts from the leaves of Gymnema inodorum. Journal of Veterinary Medical Science. 59(9), 753 - 757.
Shimizu, K., M. Ozeki, A. Iino, S. Nakajyo, N. Urakawa and M. Atsuchi. (2001). Structure-activity relationships of triterpenoid derivatives extracted from Gymnema indorum leaves on glucose absorption. Japan Journal of Pharmacol. 86, 223 - 229.
Tangkanakul, P., G. Trakoontivakorn and C. Jariyavattanavijit. (2005). Extracts of Thai indigeneous vegetable as rancid inhibitor in a model system. Kasetsart Journal. 39, 274-283.
USDA Agricultural Research Service (2017). National Plant Germplasm System. USDA Agricultural Research Service. https://data.nal.usda.gov/dataset/national -plant-germplasm-system.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2022 วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนอร์ทเทิร์น
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.