ความรอบรู้ด้านสุขภาพที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านเขตอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์
คำสำคัญ:
ความรอบรู้ด้านสุขภาพ, โรคไข้เลือดออก, อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านบทคัดย่อ
การวิจัยเชิงพรรณนามีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความรู้ด้านสุขภาพที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก ของอาสาสมัครสาธารณสุขที่ประจำหมู่ บ้าน มีประชากรคือ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านเขตตำบลปราสาททะนง ตำบลทุ่งมน อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ จำนวน 218 คน โดยใช้สูตรคำนวณขนาดกลุ่มตัวอย่างของ Deniel เท่ากับ 116 คน ใช้วิธีสุ่มตัวอย่างแบบมีระบบ เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามประกอบก้วย 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 คุณลักษณะส่วนบุคคล ส่วนที่ 2 ความรอบรู้ด้านสุขภา- พ ส่วนที่ 3 พฤติกรรมการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก แบบสอบถามผ่านการตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาจากผู้เชี่ยวชาญ 3 ท่าน และนำไปทดลองใช้เพื่อวิเคราะห์ค่าความเชื่อมั่นโดยใช้สูตรสัมประสิทธิ์แอลฟ่าครอนบาคเท่ากับ 0.932 ซึ่งวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สัม ประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน โดยผลการวิจัยพบว่า ความรอบรู้ด้านสุขภาพประกอบด้วย ความรู้ความเข้าใจการเข้าถึงข้อมูลทางสุขภาพและบริการสุขภาพ การสื่อสารเพื่อเพิ่มความเชี่ยวชาญ การรู้เท่าทันสื่อและสารสนเทศ การตัดสินในเลือกปฏิบัติที่ถูกต้อง การจัดการตน เองให้มีความปลอดภัย ภาพรวมมีคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับสูง (96.55%) พฤติกรรมการป้อง กันและควบคุมโรคไข้เลือกออกมีคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับสูง (94.83%) ซึ่งผลการวิเคราะห์ความสัมพันธ์พบว่า ความรอบรู้ด้านสุขภาพ ซึ่งมีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เขตอำเภอปราสาท จัง หวัดสุรินทร์ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (r=0.862, P-value<0.001)
References
กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค. (2562). รายงานการพยากรณ์โรค “ไข้เลือดออก”. กรุงเทพฯ. กรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข.
กองสนับสนุนสุขภาพภาคประชาชน. (2546). แผนยุทธศาสตร์การด าเนินงาน สุขภาพภาคประชาชน. พิมพ์ครั้งที่ 3. โรงพิมฑ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
จรณิต แก้วกังวาน และคณะ. (2559). คู่มือวิชาการโรคติดเชื้อเดงกีและโรคไข้เลือดออกเดงกี ด้านการแพทย์และสาธารณสุข. กรุงเทพฯ. กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข.
ชมพูนุช อนทศรี. (2560). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการป้องกันโรคไข้เลือดออก [วิทยานิพนธ์ปริญญาสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต]. สมุทรปราการ: มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ.
สำนักระบาดวิทยา. (2558). รายงานการพยากรณ์โรค “ไข้เลือดออก”. กรุงเทพฯ. กรมควบคุมโรค.
กระทรวงสาธารณสุข. (2561). Manual: Community Health Volunteers Guide: Community Health Managers. http://www.nakhonphc.go.th /datacenter/doc_download/osm19356.pdf.
สำนักโรคติดต่อน าโดยแมลง. (2560). คู่มืออาสาปราบยุง (โรคไข้เลือดออก โรคติดเชื้อไวรัสซิกา โรคไข้ปวดข้อยุงลาย). กรุงเทพฯ. กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข.
อัญชลี จันทรินทรากร. (2557). ความสัมพันธ์ระหว่างความฉลาดทางสุขภาพกับพฤติกรรมการป้องกันและควบคุมโ รคไข้เลือดออก (วิทยานิพนธ์ปริญญาวิทยาศ าสตรมหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
Becker, M.H. (1974). The health belief model and personal health behavior. Health Education Monographs, 2: 324-473.
Best, John W. (1977). Research is Evaluation. (3rded). Englewood Cliffs: N.J. Prentice-Hall.
Bloom, BenjaminS., et al. (1971). Hand book on Formative and Summative Evaluation of Student Learning. New York: McGraw-Hill Book Company.
Cronbach, Lee J. (1951). Essentials of Psychological Testing. 3rd ed. New York: Harper.
Daniel W. W. (2010). Biostatistics: Basic Concepts and Methodology for the HealthSciences. (9thed). New York: John Wiley & Sons.
Nutbeam, D. (2000). Health Literacy as a public health goal: a challenge for contemporary health education and communication strategies into health 21st century. Health Promotion International. 15(8) printed in Great Britain.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2023 วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนอร์ทเทิร์น
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.