การวิเคราะห์ทักษะกีฬาแบดมินตันที่ส่งผลต่อการทำคะแนน : กรณีศึกษา นักกีฬาแบดมินตันประเภทหญิงเดี่ยว ทีมชาติไทย
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาทักษะที่ส่งผลต่อการได้คะแนนและเสียคะแนนของนักกีฬาแบดมินตันประเภทหญิงเดี่ยวทีมชาติไทย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้เป็นนักกีฬาแบดมินตันประเภทหญิงเดี่ยวทีมชาติไทย จำนวน 3 คน ซึ่งได้มาจากการคัดเลือกอย่างเฉพาะเจาะจง โดยมีอันดับโลกอยู่ระหว่าง 1-30 ของโลก และเข้าร่วมการแข่งขันแบดมินตัน รายการ Yonex Thailand Open 2020 รายการ Toyota Thailand Open 2020 และรายการ Yonex All England Open Badminton Championships 2021 รวมทั้งสิ้น 3 รายการ จำนวน 17 เกมส์การแข่งขัน โดยผู้วิจัยจะนำไฟล์บันทึกภาพการแข่งขันทั้งหมดมาวิเคราะห์ทักษะที่ได้คะแนน และทักษะที่เสียคะแนน ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ Kinovea และนำผลการวิเคราะห์ที่ได้มาหาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าร้อยละ
ผลการวิจัยพบว่านักกีฬาแบดมินตันประเภทหญิงเดี่ยวทีมชาติไทยมีทักษะที่ได้คะแนนและเกิดขึ้นสูงสุด ได้แก่ ลูกตบ (82.33±39.00 ครั้ง) ลูกงัดหรือลูกโยน (59.33±18.77 ครั้ง) ลูกหยอด (35.00±12.77 ครั้ง) ตามลำดับ และมีทักษะที่เสียคะแนนและเกิดขึ้นสูงสุด คือ รับลูกตบ (130.33±30.04 ครั้ง) รับลูกหยอด (98.67±37.23 ครั้ง) และเสิร์ฟเสีย (5.67±6.35 ครั้ง) ตามลำดับ สรุปได้ว่านักกีฬาแบดมินตันประเภทหญิงเดี่ยวทีมชาติไทยได้คะแนนจากทักษะลูกตบเป็นหลัก และเสียคะแนนจากการรับลูกตบเป็นหลักเช่นกัน ดังนั้นสามารถนำผลการวิจัยที่ได้ไปเป็นข้อมูลพื้นฐานให้กับผู้ฝึกสอน ทำการปรับปรุงรูปแบบการฝึกซ้อมให้กับนักกีฬาเพื่อให้มีความเฉพาะเจาะจงและสอดคล้องกับสถานการณ์การแข่งขันได้ต่อไป
Article Details
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์การกีฬาและนวัตกรรมสุขภาพ กลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งประเทศไทย ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสาร ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์การกีฬาและนวัตกรรมสุขภาพ กลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งประเทศไทย ถือเป็นลิขสิทธิ์ของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใด จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารวิทยาศาสตร์การกีฬาและนวัตกรรมสุขภาพ กลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งประเทศไทย ก่อนเท่านั้น