สภาพปัญหาการจัดการเรียนการสอนวิชาพลศึกษาของโรงเรียนขนาดเล็ก ในสังกัดเทศบาลเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพปัญหาในการจัดการเรียนการสอนวิชาพลศึกษาของโรงเรียนขนาดเล็ก ในสังกัดเทศบาลเมือง ศรีสะเกษ ปีการศึกษา 2564 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้เป็นนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาตอนปลายโรงเรียนขนาดเล็กในสังกัดเทศบาลเมืองศรีสะเกษ โดยการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง รวมทั้งสิ้น 152 คน เป็นนักเรียนชาย จำนวน 85 คน นักเรียนหญิง จำนวน 67 คน เครื่องมือวิจัยเป็นแบบสอบถามจำนวน 3 ตอน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1) ผลรวมค่าเฉลี่ยและค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานสภาพปัญหาการจัดการเรียนการสอนวิชาพลศึกษาโรงเรียนขนาดเล็กโรงเรียนในสังกัดเทศบาลเมืองศรีสะเกษจังหวัดศรีสะเกษอยู่ในระดับมาก โดยนักเรียนชายมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.23 ± 0.72 และนักเรียนหญิงมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.18 ± 0.88 2) ผลรวมค่าเฉลี่ยและค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของนักเรียนชายอยู่ในระดับมาก โดยด้านที่มีคะแนนสูงสุด คือ ด้านผู้เรียน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.35 ± 0.86 รองลงมาคือ ด้านวัดประเมินผล มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.34 ± 0.62 ด้านครูผู้สอน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.32 ± 0.66 และด้านสถานที่และวัสดุอุปกรณ์ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.93 ± 0.74 ตามลำดับ 3) ผลรวมค่าเฉลี่ยและค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของนักเรียนหญิงอยู่ในระดับมาก โดยด้านที่มีคะแนนสูงสุด คือด้านผู้เรียน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.28 ± 0.89 รองลงมาคือ ด้านวัดประเมินผลมีค่าเฉลี่ย เท่ากับ ± 0.82 ด้านครูผู้สอนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.25 ± 0.85 ด้านสถานที่และวัสดุอุปกรณ์มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.95 ± 0.75 ตามลำดับ
Article Details
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์การกีฬาและนวัตกรรมสุขภาพ กลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งประเทศไทย ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสาร ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์การกีฬาและนวัตกรรมสุขภาพ กลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งประเทศไทย ถือเป็นลิขสิทธิ์ของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใด จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารวิทยาศาสตร์การกีฬาและนวัตกรรมสุขภาพ กลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งประเทศไทย ก่อนเท่านั้น