ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากของผู้สูงอายุตอนต้น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านนาเหนือ อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง
คำสำคัญ:
พฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปาก, ผู้สูงอายุตอนต้นบทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนบุคคล ความรู้ ทัศนคติ พฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากของผู้สูงอายุตอนต้น และศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล ความรู้ ทัศนคติ กับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากของผู้สูงอายุตอนต้น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านนาเหนือ อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ประชากรกลุ่มตัวอย่างคือ ผู้สูงอายุตอนต้นเขตรับผิดชอบโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านนาเหนือ อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง จำนวน 121 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามแบ่งออก 4 ส่วน ได้แก่ ปัจจัยส่วนบุคคล ความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรมเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพช่องปาก ตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหาจากผู้ทรงคุณวุฒิ ค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ระหว่าง 0.67–1 และวิเคราะห์หาความเชื่อมั่นใช้ค่า KR-20 เท่ากับ 0.794 และค่าของครอนบาคเท่ากับ 0.869 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา สถิติไคสแควร์ และสถิติของเพียร์สัน ระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05
ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ร้อยละ 52.1 ช่วงอายุ 60–64 ปี มากที่สุด ร้อยละ 59.50 ส่วนใหญ่สถานภาพสมรส ร้อยละ 76.00 ได้เรียนหนังสือร้อยละ 77.68 อาชีพเกษตรกรรม ร้อยละ 59.50 มากที่สุด ส่วนใหญ่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนช่วง 1,000–5,000 บาท ร้อยละ 42.9 มีโรคประจำตัว ร้อยละ 93.38 ส่วนใหญ่ความดันโลหิตสูงร้อยละ 51.20 รองลงมา คือ เบาหวานร้อยละ 25.60 พักอาศัยกับคู่สมรสร้อยละ 60.4 ได้รับบริการด้านทันตกรรมร้อยละ 66.94 ที่โรงพยาบาลของรัฐ ร้อยละ 29.75 มากที่สุด ได้รับข้อมูลข่าวสารด้านการดูแลสุขภาพช่องปาก ร้อยละ 68.6 ส่วนใหญ่จากอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านร้อยละ 39.70 มีความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพช่องปากระดับสูงร้อยละ 67.80 ทัศนคติระดับปานกลาง (Mean=3.55, S.D.=0.39) และพฤติกรรมระดับต่ำ (Mean=2.81, S.D.=0.50) ผลการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ พบว่า ปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ เพศ อายุ สถานภาพสมรส การศึกษา อาชีพ รายได้ โรคประจำตัว การพักอาศัย การได้รับบริการด้านทันตกรรม และการได้รับรู้ข้อมูลข่าวสาร ไม่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากของผู้สูงอายุตอนต้น ความรู้ และทัศนคติ มีความสัมพันธ์ทางลบกับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากของผู้สูงอายุตอนต้นในระดับต่ำ (r=-0.209, p-value=0.022) และ(r=-0.272, p-value=0.003) ตามลำดับ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
เอกสารอ้างอิง
สำนักงานสถิติแห่งชาติ. รายงานการสำรวจประชากรสูงอายุ พ.ศ 2567. (อินเตอร์เน็ต). 2567 (สืบค้นเมื่อ 20 ตุลาคม 2567). เข้าถึงจาก: https://www.nso.go.th/nsoweb/storage/survey_detail/2025/20241209145003_27188.pdf
กองยุทธศาสตร์สาธารณสุขและแผนงาน กระทรวงสาธารณสุข. นโยบายของกระทรวงสาธารณสุข 2567-2568. (อินเตอร์เน็ต). 2567 (สืบค้นเมื่อ 26 ตุลาคม 2567). เข้าถึงจาก: https://spd.moph.go.th/wp-content/uploads/2024/06 /นโยบายกระทรวงสาธารณสุข-พ.ศ.-2567-2568.pdf
สำนักวิชาการ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา. นโยบายในการแก้ปัญหาสุขภาพช่องปากและฟันในกลุ่มผู้สูงอายุที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพองค์รวมและคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ. (อินเตอร์เน็ต). 2567 (สืบค้นเมื่อ 26 ตุลาคม 2567). เข้าถึงจาก: https://www.senate.go.th/assets/portals/1/news/15535/4_15535.pdf
สำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย. รายงานผลการวิเคราะห์สถานการณ์เพื่อกำหนดมาตรการพัฒนาระบบการดูแลสุขภาพช่องปากผู้สูงอาย. (อินเตอร์เน็ต). 2567 (สืบค้นเมื่อ 20 มกราคม 2568). เข้าถึงจาก: https://dental.anamai.moph.go.th/webupload/5x9c01a3d6e5539cf478715290ac946bee/tinymce/Elderly/KPI2567/2-2567GapAnalysis.pdf
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข. รายงานผลการคัดกรองสุขภาพผู้สูงอายุในชุมชน. (อินเตอร์เน็ต). 2567 (สืบค้นเมื่อ 26 กุมภาพันธ์ 2568). เข้าถึงจาก: https://3doctor.hss.moph.go.th/main/rp_screen
กิตติศักดิ์ นามวิชา. (2562). ความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากของผู้สูงอายุในเขตตำบลสำโรง อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์. วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์, 3(2), 45–56.
เพชรัตน์ ศิริสุวรรณ, ฉัตรลดา ดีพร้อม และลฎาภา วังบง. (2561). ความรู้ การรับรู้ประโยชน์และพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากของผู้ป่วยโรคเบาหวาน ตำบลแวง อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด. วารสารการพยาบาลการสาธารณสุขและการศึกษา, 19(1), 73-85
ศิริพันธ์ หอมแก่นจันทร์. (2559). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในเขตอำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง. (วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต). กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์; 2559.
สุขประเสริฐ ทับสี. (2563). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้สูงอายุในอำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี. วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระจอมเกล้า จังหวัดเพชรบุรี, 3(1), 14-30
พิสิษฐ์ คำโสภา, ศตายุ ผลแก้ว, กิตติยา ศรีมาฤทธิ์, วุฒิฌาน ห้วยทราย. (2567). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากของผู้สูงอายุ ตำบลสว่าง อำเภอสว่างวีระวงศ์ จังหวัดอุบลราชธานี. วารสารสาธารณสุขมูลฐาน (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ), 39(3), 51-63.
ตวงพร กตัญญุตานนท์, วรรณรัตน์ จงเจริญ, สุวิมล พันธ์จันทร์, พัชรา จันทมนตรี, และเพ็ญศิริ เอกนุ่ม. (2561). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากของผู้ป่วยเบาหวาน ในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลวัดศรีวารีน้อย ตำบลศีรษะจระเข้ใหญ่ อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ. วารสารวิชาการสาธารณสุข, 28(5), 792-801
สุภาพร ผุดผ่อง. (2563). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากของผู้สูงอายุอำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี. วารสารวิทยาศาสตร์สุขภาพ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีสรรพสิทธิประสงค์, 4(1), 101-119
แก้วใจ มาลีลัย, จีราพร ใจมนต์, ภาณินี นครังสุ, อัษฎาวุธ ปานเหลา, ถนอมศักดิ์ บุญสู่, นิลุบล ปานะบุตร, (2565). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากของผู้สูงอายุ ตำบลสระสมิง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี. วารสารวิชาการสาธารณสุข, 31(3), 437-466
ทัศนวัฒน์ ฉายชูวงษ์, นิมมานรดี ชูยัง. (2563). ความสัมพันธ์ระหว่างความรู้และทัศนคติกับสภาวะช่องปากและพฤติกรรมการดูแลทันตสุขภาพของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 อำเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง. วารสารสาธารณสุขและวิทยาศาสตร์สุขภาพ, 3(1), 52-67
Taro Yamane . (1967). Elementary sampling theory: Prentice-Hall (Englewood Cliffs, N.J)
Bloom, B. (1975). Taxonomy of Education Objective. Handbook 1: Cognitive Domain.New York: David Mckay
Best JW. (1977). Research in education. 3rd ed. Englewood Cliffs (NJ): Prentice-Hall; 1977.
Elifson, W K. (1990). Fundamentals of social statistics (2nd ed.). Singapore: McGraw-Hill.

