การพัฒนารูปแบบการควบคุมป้องกันโรคเบาหวานแบบบูรณาการในตำบลหนองฮาง อำเภอเบญจลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ
คำสำคัญ:
การป้องกันโรคเบาหวาน, การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ, ระบบบริการสุขภาพปฐมภูมิ, การมีส่วนร่วมของชุมชน, หนองฮางโมเดลบทคัดย่อ
การวิจัยเชิงปฏิบัติการครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการพัฒนารูปแบบการควบคุมป้องกันโรคเบาหวานแบบบูรณาการในตำบลหนองฮาง อำเภอเบญจลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ มุ่งเน้นให้เกิดการส่งเสริมและการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพของกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน ด้วยระบบบริการสุขภาพปฐมภูมิและการมีส่วนร่วมของชุมชน ตำบลหนองฮาง อำเภอเบญจลักษ์จังหวัดศรีสะเกษ ดำเนินการในช่วงเดือนมีนาคม 2568 - กันยายน 2568 ผู้ร่วมวิจัยประกอบด้วยกลุ่มเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และภาคีเครือข่ายในชุมชน จำนวน 50 คน และกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน จำนวน 50 คน ดำเนินการ 4 ขั้นตอน คือ การวางแผน การปฏิบัติ การสังเกต และสะท้อนผลการปฏิบัติ จำนวน 2 วงรอบ วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพแบบอุปนัย การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ โดยใช้ค่าความถี่ ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและค่าเฉลี่ย ค่าสถิติ pair t-test
ผลการศึกษาพบว่ารูปแบบการส่งเสริมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพของกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน ด้วยระบบบริการสุขภาพปฐมภูมิและการมีส่วนร่วมของชุมชน ตำบลหนองฮาง อำเภอเบญจลักษ์จังหวัดศรีสะเกษคือ NONGHANG Model ได้แก่ 1) Networking for Health Alliance: การสร้างเครือข่ายสุขภาพ การมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายในชุมชน ในการร่วมวิเคราะห์ วางแผน และจัดให้มีรูปแบบการส่งเสริมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพของกลุ่มเสี่ยง 2) Observation & Outreach: การเฝ้าระวังและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย โดยมีนโยบายการขับเคลื่อนและการดำเนินงานเป็นแนวทางเดียวกัน 3) Nutrition & Lifestyle Modification: การส่งเสริมโภชนาการและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้ปฏิบัติยอมรับและเต็มใจ 4) Guideline-based Care: การดูแลตามแนวทางมาตรฐาน 5) Health Literacy & Empowerment: การสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพดี ไม่มีโรคภัย การเพิ่มศักยภาพในการดูแลตนเองให้ประชาชนพฤติกรรมสุขภาพที่ดี 6) Active Community Participation: การมีส่วนร่วมของชุมชนอย่างเข้มแข็ง ส่งเสริมให้ชุมชนมีบทบาทเป็นเจ้าของปัญหา 7) New Innovation & Sustainability: นวัตกรรมสุขภาพและความยั่งยืน ใช้นวัตกรรม จากผลการวิจัยพบว่ากลุ่มเสี่ยงโรคความเบาหวานมีการรับรู้ความรุนแรงของโรค การรับรู้โอกาสเสี่ยง ความคาดหวังในความสามารถแห่งตน ความคาดหวังในประสิทธิผลของการปฏิบัติตัว หลังการทดลองสูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
เอกสารอ้างอิง
WHO. Diabetes. 2024; Available from: https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/diabetes.
กระทรวงสาธารณสุข, ข้อมูลเพื่อตอบสนอง Service Plan สาขาโรคไม่ติดต่อ (NCD DM,HT,CVD). 2567.
กระทรวงสาธารณสุข, ก.ก., รายงานประจำปี 2564 กองโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. 2564: กรุงเทพฯสำนักพิมพ์อักษรกราฟฟิคแอนด์ดีไซน์.
สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเบญจลักษ์, รายงานประจำปี 2567 ควบคุมโรคไม่ติดต่อ. 2567: อำเภอเบญจลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ.
สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย, แนวทางการรักษาโรคเบาหวาน ในเวชปฏิบัติทั่วไป พ.ศ. 2566 (2023 Clinical Practice Guidelines for Diabetes). 2566, กรุงเทพมหานคร: ศรีเมืองการพิมพ์.
สำนักงานวิจัยและพัฒนากำลังคนด้านสุขภาพ, คนไทยทุกครอบครัวกำลังจะมีหมอประจำตัว ครอบครัวละ 3 คน. 2563.
สำนักสนับสนุนระบบสุขภาพปฐมภูมิ., คู่มือคุณภาพมาตรฐานบริการสุขภาพปฐมภูมิ พ.ศ. 2566. 2566.
ศรีวณิชชากร, ส., ระบบบริการปฐมภููมิ กับการสร้างเสริมสุุขภาพ : ประเด็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs). 2565.
พ่วงสมจิตร์, ช., การวิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งเสริมและปัจจัยที่เป็นอุปสรรคต่อการมีส่วนร่วมของชุมชนกับโรงเรียนประถมศึกษาในเขตปริมณฑลกรุงเทพมหานคร. 2540.
วุฑฒิกรรมรักษา, ฉ., ปัจจัยทางเศรษฐกิจและสังคมที่มีผลต่อการเข้ามามีส่วนร่วมของประชาชนในโครงการสร้างงานในชนบท : ศึกษาเฉพาะกรณีโครงการที่ได้รับรางวัลดีเด่นของตำบลคุ้งพยอม อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2536.
Green, L.W., & Kreuter, M.W. , Health Education Planning: An Educational and Ecological Approach. Mountain View, 1999.
Rogers Ronald W. (1986). "Protection Motivation Theory," Health Education Research Theory and Practice, 1: 153-161.
Kemmis, S., & McTaggart, R. (2000). Participatory Action Research. In Handbook of Qualitative Research. edited by Denzin, N. & Lincoln, Y. 2nd ed. Thousand Oaks, CA: Sage. pp. 567-605.
Lockett, M. (1986). Popular Participation in Planning for Basic Needs. The China Quarterly, 107: p. 546–547.
ชุติภา แก้วลื้อ. (2567). ผลของโปรแกรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพตามหลัก 3อ 2ส ของกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านท่าเชียงเครือ ตำบลป่งไฮ อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ.
กองโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. (2564). รายงานประจำปี 2564 กองโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์อักษรกราฟฟิคแอนด์ดีไซน์.
Kumchan, J., Namyota, C., & Wongkongdech, A. (2024). The development of a model for promoting health behaviors in risk groups for diabetes prevention in the community, Na Dun Subdistrict, Na Dun District, Maha Sarakham Province, 13(1): p. 63-73.
Ronyut W, R.N., Rattanaarporn W. (2024). DEVELOPMENT FOR DIABETES PATIENT CARE MODEL BY COMMUNITY PARTICIPATIONCHAIYAPHUM PROVINCE. Primary Health Care Journal (Northeastern Edition), 39(3): p. 64-78.
พิทยภูมิ สิริเพาประดิษฐ์. (2568). การพัฒนารูปแบบการควบคุมน้ำตาลในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิด ที่ 2 โดย การมีส่วนร่วมของชุมชน อำเภอเปือยน้อย จังหวัดขอนแก่น. วารสารสิ่งแวดล้อมศึกษาการ แพทย์และสุขภาพ, 10(2), 309-316.
ศิริเนตร สุขดี. (2560). การพัฒนารูปแบบการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพของกลุ่มเสี่ยงโรคไม่ติดต่อเรื้อรังด้วยการมีส่วนร่วมของชุมชน. วิทยานิพนธ์ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
อัจฉรา บุญชุม. (2556). การพัฒนารูปแบบการแลกเปลี่ยนเรียนรู้บนเครือข่ายออนไลน์เพื่อการสื่อสารด้านการป้องกันควบคุมโรคเบาหวานสำหรับนักวิชาการสาธารณสุข. คณะวิทยาศาสตร์การกีฬามหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์.
วนิดา สมภูงา. (2565). ประสิทธิผลการพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการโรคเบาหวานด้วยหลักการ 6 building blocks จังหวัดศรีสะเกษ. วารสารวิจัยและพัฒนาระบบสุขภาพ, 15(1), 142-155.
ดวงดาว ศรียากูล. (2567). ประสิทธิผลของโปรแกรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตต่อการป้องกันโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ในประชากรไทยกลุ่มสี่ยง. วารสารวิจัยระบบสาธารณสุข.18(1),72-92
กิ่งเพชร แก้วสิงห์. (2562). ผลของโปรแกรมพัฒนาพฤติกรรมป้องกันโรคเบาหวานกลุ่มเสี่ยง อำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด. วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
กฤตพัทธ์ ฝึกฝน และคณะ. (2565). การพัฒนารูปแบบการให้บริการของคลินิกโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงบรรทัดฐานใหม่เพื่อส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพในการป้องกันและควบคุมการแพร่กระจายเชื้อไวรัสโคโรนา 2019. พยาบาลสาร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 49(4), 369-382.

